หลวงพ่อสุโขทัยไตรมิตร ชื่อพระราชทาน พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมา ในพระวิหารใหญ่โตโอ่อ่าโอฬาร วัดไตรมิตร หน้าตัก 6 ศอก 4 นิ้ว สูง 7 ศอก 1 คืบเก้านิ้ว เนื้อทองน้ำเจ็ดสองขา (75%) น้ำหนัก 5 ตันครึ่งไม่ว่าฝรั่งไทย เชื่อกันว่าศิลปะงามเป็นเลิศในโลก และมีค่ามากที่สุดในโลกเรื่องราวของหลวงพ่อสุโขทัย...มีทั้งที่เปิดเผยแล้ว และมีปมคาใจ ที่รอการไขปริศนา อยู่อีกบางเรื่องเรื่องที่เปิดเผยแล้ว เดิมพระพุทธรูปทององค์นี้ ประดิษฐานที่พระวิหารหลวง วัดมหาธาตุ กรุงสุโขทัย แต่แล้วได้หายสาบสูญไป เพราะมีผู้เอาปูนปั้นหุ้มไว้ต้นเหตุการเอาปูนหุ้ม สันนิษฐานได้ 3 ข้อข้อที่ 1 สมัยพระบรมราชาธิราชที่ 1 (ขุนหลวงพะงั่ว) จากอยุธยาเสด็จขึ้นไปตีสุโขทัย ชาวสุโขทัยไม่ต้องการให้ตกเป็นของอยุธยาข้อที่ 2 ชาวสุโขทัย ปั้นปูนหุ้ม เมื่อกรุงแตก พ.ศ.2310และข้อที่ 3 ขุนนางใหญ่สมัยรัชกาลที่ 3 กรุงรัตนโกสินทร์ ไปพบพระปูนปั้นองค์นี้ ที่กำแพงเพชร นำมารักษาไว้ หลักฐานสุดท้าย อยู่ที่วัดพระยาไกร ริมฝั่งเจ้าพระยา กรุงเทพมหานครส.พลายน้อย ค้นคว้าเรื่องวัดพระยาไกร เพิ่มเติมไว้ในหนังสือ พระพุทธรูปสำคัญในประเทศไทย เล่ม 1 (สำนักพิมพ์เมืองโบราณ พ.ศ.2545) ว่าพระยาโชฎึกราชเศรษฐี (เจ๊สัวบุญมา) ข้าหลวงเดิม สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้สร้างวัดโชตินารามถวายแต่ต่อมา พระยาโชฎึกราชเศรษฐี ได้เลื่อนยศ พระยาไกรโกษา ตำแหน่งกรมพระคลังในพระบวรราชวัง (สมเด็จพระปิ่นเกล้า) สมัยรัชกาลที่ 4 ชาวบ้านเรียกชื่อใหม่ ตามตำแหน่งใหม่ วัดพระยาไกรส.พลายน้อย อ้างชื่อ นายบรรจบ เทียมทัด ผู้เฒ่าละแวกวัดพระยาไกร เล่าว่า พระยาไกรฯได้ติดตามปราบโจร และจับโจรได้ในวัดหนึ่ง สมภารบอกพระยาไกร ในวัดมีพระพุทธรูปทองคำองค์ใหญ่หุ้มปูนพระยาไกรอัญเชิญพระลงแพ ล่องตามลำน้ำมาขึ้นที่วัดพระยาไกร และมอบหมายให้ หลวงตาขรัวคง กับ หลวงตาขรัวครุฑ ช่วยกันดูแลรักษา และให้ปกปิดเป็นความลับความลับไม่มีในโลก หลวงตาขรัวครุฑ ตอนอยู่วัดพระยาไกร มีชื่อเสียงในการทำเครื่องรางของขลัง จึงมีลูกศิษย์รู้ความลับที่ไม่ลับเรื่องนี้อยู่บ้างวันเวลาผ่านไป จาก ร.3 ต่อ ร.4 ฝรั่งเช่าที่ดินวัดพระยาไกรทำท่าเรือ สมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) เจ้าคณะแขวงพระนครใต้ วัดมหาธาตุ บอกกล่าวให้วัดละแวกใกล้เคียง มาเลือกเอาพระพุทธรูปโบราณสวยๆไปหลายองค์เหลือพระปูนปั้นองค์ใหญ่ ไม่มีวัดไหนเอา พระวีรธรรมมุนี (ไสว ฐิตวีโร) สมภารวัดไตรมิตร รับบัญชาให้มาขนไปวัด...เมื่อปี 2478 จนถึงปี 2498 ปูนหุ้มจึงกะเทาะออก เห็นเนื้อในพระเป็นทองคำหนังสือพิมพ์ลงเป็นข่าวใหญ่ ชาวบ้านก็แตกตื่นกันไปกราบไหว้บูชาเอาเรื่องราวที่เรารู้ มาช่วยกันวิเคราะห์ กะเทาะเอาแก่น ความจริงที่ประจักษ์ พระปูนปั้นจากกำแพงเพชร ถูกนำมาวัดพระยาไกร...จริง พระยาไกรเป็นกรมพระคลัง วังหน้า สมัย ร.4 มีเค้าจริงแต่มีเหตุผลอะไร...พระยาไกร จึงปกปิดเรื่องพระทองคำ...วิเคราะห์เหตุผลการเมือง รอเอาไว้เผื่อวังหน้า...จะได้เป็นวังหลวง...จะได้ถวายเป็นการเฉลิมพระบารมี ซึ่งแน่นอน วังหน้าที่จงรักแนบแน่น ร.4 ไม่ทรงรู้ตั้งแต่ต้นรัตนโกสินทร์...พระเจ้าแผ่นดิน ทรงโปรดพระพุทธรูปงามๆ... ร.1 อัญเชิญพระศรีศากยมุนี มาวัดสุทัศน์ แสดงว่าเวลานั้น พระทองคำปูนปั้น ซึ่งก็คือองค์คู่กัน...ไม่ได้อยู่ที่สุโขทัยแล้วแต่ไม่ว่าพระยาไกรจะคิดอะไร การนำหลวงพ่อทองคำจากกำแพงเพชรมากรุงเทพฯ ก็ถือว่ามีส่วนสำคัญในการรักษาพระพุทธรูปสำคัญองค์นี้ไว้ นับเป็นคุณอเนกอนันต์ต่อบ้านเมืองทีเดียว.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ "ชักธงรบ" เพิ่มเติม