เอ่ยชื่อมหาเศรษฐีของเมืองไทยที่รวยหุ้นเป็นอันดับหนึ่ง สารัชถ์ รัตนาวะดี เจ้าของอาณาจักรกัลฟ์ ที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกันเกินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีบริษัทที่จดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ 4 บริษัท ผลประกอบการในปี 2566 มีกำไรสุทธิรวมกันทั้งหมดกว่า 5.7 หมื่นล้านบาท ส่องธุรกิจ กลุ่มโรงไฟฟ้า ที่มีแพลนที่จะผลิตเพิ่มขึ้นทุกปี จาก 6,800 เมกะวัตต์ เป็น 9,300 เมกะวัตต์ จะทำให้กำไรสูงขึ้น 20% หรือ 17,900 ล้านบาท ปี 2568 คาดว่าจะโตขึ้น 19% หรือ 21,230 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลต่อความแข็งแกร่งของหุ้นที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ด้วยธุรกิจโทรศัพท์ การสื่อสาร ก็เช่นกัน 3BB ปรับตัวดีขึ้น ประเมินกำไรที่ 35,020 ล้าน โตประมาณ 5% ไทยคม ถือว่ายังมีกำไรไม่มากเนื่องจากยังดำเนินการไม่เต็มที่ คาดว่าจะสร้างกำไรได้ในปี 2569-2570 ที่จะหาลูกค้าได้จากไทยคม 9 และไทยคม 10 ซึ่งขณะนี้มีอยู่ร้อยละ 45 หลังจากปี 2570 ไปแล้วคาดว่าจะโตแบบก้าวกระโดดจากธุรกิจดิจิทัลในอนาคต ประกอบด้วยธุรกิจบรอดแบนด์ธุรกิจโทรคมนาคม การสื่อสารและคอนเทนต์ต่างๆรายได้รวมจากการดำเนินธุรกิจปีที่แล้วอยู่ที่ 116,951 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 จากปี 2565 รายได้ส่วนใหญ่จะมาจากการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.5 นอกจากนี้ยังมีการลงทุนธุรกิจไฟฟ้าในต่างประเทศหลายแห่ง รายได้จากธุรกิจดาวเทียมอยู่ที่ 2.6 พันล้าน แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส กำไร 2.9 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เฉพาะเอไอเอส มีรายได้รวมที่ 188,873 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ 118,130 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 อินทัช โฮลดิ้งส์ มีกำไรสุทธิ 13,139 ล้านบาทหลัง วิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ธุรกิจทุกอย่างมีการปรับตัว และไม่มีวันที่จะกลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว แม้แต่ธุรกิจสื่อเองก็เช่นกัน จากการสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคสื่อในประเทศไทย คนไทยเสพสื่อออนไลน์ เป็นอันดับต้นๆในเอเชีย มีคนดูสื่อทุกประเภทจาก โทรศัพท์มือถือ ร้อยละ 68 ธุรกิจ E-Commerce โตขึ้นร้อยละ 58 เกิดจากพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไปยังรวมไปถึงธุรกิจการศึกษา สุขภาพ การเงิน ธนาคาร และการใช้สถานที่ทำงาน ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นออฟฟิศแบบเดิมๆอีกต่อไป การจัดงานสัมมนา การประชุมทางไกล งานแสดงสินค้า ไปจนถึงการติดต่อเจรจาซื้อขาย การประมูล การทำนิติกรรมบางอย่าง ก็สามารถที่จะดำเนินการผ่านโลกออนไลน์ได้ปีนี้เป็นต้นไป เทรนด์ใหม่จากธุรกิจดิจิทัล จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ เช่น ตลาด VR (Virtual Reality) และ AR (Augmented Reality) การมองภาพเสมือนจริงผ่านดวงตา ที่คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 59 ในปี 2025 หรือรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องอาศัยการสื่อสารและเทคโนโลยีสมัยใหม่ประเทศไทยจะเข้าสู่ยุคที่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เป็นประชากรหลักของประเทศหรือ Silver Economy จำเป็นจะต้องใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น ทั้งเรื่องของความปลอดภัย การอำนวยความสะดวกต่างๆ การเพิ่มช่องทางสื่อสารประเภทต่างๆจะมีความสำคัญมากขึ้น รวมทั้งการพัฒนาทางการแพทย์ที่จะต้องสอดคล้องกับความต้องการด้วยวิถีคนรวยจะมองเห็นอนาคตเร็วกว่าคนอื่นเสมอ.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ "คาบลูกคาบดอก" เพิ่มเติม