แม้รัฐบาลจะผลักดันตัวเองให้เป็น “เจ้าบุญทุ่ม” ด้วยการปล่อยนโยบายที่หาเสียงไว้ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งที่เป็นเรื่องเฉพาะหน้าทว่าแต่ละเรื่องที่ออกมานั้นดูเหมือนว่ายังไม่ค่อยถึงใจเท่าใดนักอย่างที่นายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” รำพึงว่ารัฐบาลเร่งทำนโยบายตั้งหลายเรื่อง แต่ทำไมกระแสตอบรับจึงไม่เปรี้ยง ปร้างดังเป็นพลุแตกก็เพราะแต่ละเรื่องที่ทำนั้นเป็นได้แค่นํ้าจิ้มยังไม่ถึงใจอย่างที่คาดหวัง อีกทั้งที่ซ้อนกันอยู่ก็ยังไม่สะเด็ดนํ้าเสียที อย่าง “ดิจิทัลวอลเล็ต” หัวละ 10,000 บาท ยังไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่พูดง่ายๆว่าทำจริงแต่ไม่ถึงขีดความพอใจมีอีก 2 เรื่องที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทำการศึกษาอย่างการขึ้นค่าแรงและการขึ้นเงินเดือนข้าราชการหากทำได้จริงก็คงจะได้คะแนนนิยมไม่น้อยการขึ้นค่าแรงนั้นว่าไปแล้วพรรคการเมืองทุกพรรคมักจะประกาศตัวเลขข่มกันเพื่อหาเสียงก่อนลงคะแนนเลือกตั้ง“เพื่อไทย” ประกาศต้อง 600 บาทต่อวัน หวังตีกินเหนือพรรคอื่นๆนี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่โอเว่อร์ไม่สอดรับกับความเป็นจริงในสภาพเศรษฐกิจที่ดำรงอยู่ เพราะบรรดาเจ้าของกิจการคงไม่มีปัญญาจ่ายให้ได้เนื่องจากเป็นตัวเลขที่สูงแค่ 400 บาทต่อวันก็หืดขึ้นคอแล้วเบื้องต้นมีการศึกษาแล้วพบว่าขึ้นได้แต่ก็แยกเป็นรายจังหวัด ไม่สามารถจะเพิ่มให้เท่ากันได้ตามสภาพที่ดำรงอยู่มากไปเจ้าของกิจการก็อยู่ไม่ได้ และไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพอีกด้วยเอาเป็นว่าขึ้นค่าแรงได้แต่ตัวเลขคงไม่มากนักที่ซ้อนกันเข้ามาก็คือการขึ้นเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบจากจำนวนยอดทั้งหมดราว 3 ล้านกว่า คนก็ต้องหาเงินมาสมทบมากพอสมควร9 ปีแล้วที่ไม่เคยมีการขึ้นเงินเดือน!คงทำให้บรรดาข้าราชการทั้งประเทศพอใจแน่ เพียงแต่จะต้องดูว่าตัวเลขแค่ไหนจึงเหมาะสมและไม่เป็นปัญหาของรัฐบาลที่จะหาเงินมารองรับ“เงินเดือน” ข้าราชการไทยนั้นถือว่ามีวงเงินสูงเนื่องจากมีจำนวนมาก ซึ่งเป็นภาระที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลแนวคิดปฏิรูประบบราชการด้วยการลดจำนวนเพื่อมีความกะทัดรัดในหน่วยงานต่างๆ อย่างกองทัพก็มีแนวคิด “เล็กแต่แจ๋ว” เป็นต้นแต่ดูเหมือนว่าแนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆ เนื่องจากมีการเพิ่มหน่วยงานก็ต้องเพิ่มกำลังคนรัฐบาลที่มาจากนักการเมืองก็ไม่ได้ให้ความสำคัญในประเด็นเท่าใดนัก เพราะคิดว่าข้าราชการคือกลไกสำคัญในการบริหารงานจนไม่กล้าไปแตะต้องสภาพของรัฐบาลชุดปัจจุบันที่นายกรัฐมนตรีต้องการสร้างผลงานความพึงพอใจของประชาชน จึงต้องเอาใจทั้ง 2 ภาคส่วนนี้“ข้าราชการ” จึงเป็นฟันเฟืองเพื่อทำผลงานให้ปรากฏหากอัดฉีดเพิ่มเงินเดือนนอกจากจะเป็นตัวเร่งงานเดินหน้าไปด้วยดีแล้วยังทำให้เสถียรภาพมั่นคงมากขึ้นก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำได้ง่ายและใช้เวลาไม่นานนัก!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ "กล้าได้กล้าเสีย" เพิ่มเติม