เรื่องที่ 54 ในหนังสือเรื่องคมๆความหมายชวนคิด (สำนักพิมพ์อินสไปร์ พ.ศ.2553) คุณสุริยเทพ ชัยมงคล ผู้เขียนตั้งชื่อว่า “พ่อค้าหรือขอทาน” เริ่มต้นว่าที่สถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก นักธุรกิจหนุ่มใส่เงินหนึ่งดอลลาร์ลงไปในถ้วยตรงหน้าชายหนุ่มที่นั่งขายดินสอ แล้วผลุนผลันเข้าไปในขบวนรถไฟทันใดนั้น เขาก็นึกขึ้นได้ รีบเดินออกมาตรงไปหาชายขายดินสอ หยิบดินสอสามแท่งออกจากกล่อง ท่าทางขอโทษขอโพย ที่ลืมหยิบดินสอ“คุณเป็นพ่อค้าเหมือนผม” นักธุรกิจบอก “ราคาดินสอที่คุณขายก็สมเหตุสมผล”แน่นอน นักธุรกิจพลาดขบวนรถไฟเที่ยวนั้น แต่ไม่นาน เขาก็ได้ขึ้นรถไฟขบวนต่อไปไม่กี่เดือนต่อมา ในงานเลี้ยงสังสรรค์ เซลส์แมนในเครื่องแต่งกายเรียบร้อย เข้าไปหานักธุรกิจนิวยอร์กคนนั้น แนะนำตัวเองแล้ว บอกว่า “ผมจะไม่มีวันลืมคุณเลย คุณเป็นคนทำให้ผมได้ศักดิ์ศรีคืนมา”“ตอนนั้นผมเป็นคนขายดินสอกึ่งขอทาน แต่คุณเป็นคนเดินมาบอกผมว่า ผมเป็นพ่อค้า”เรื่องคมๆจบด้วยการยกคำกล่าว เดล คาร์เนกี อธิบายความหมายชวนคิดว่า “การกระตุ้นผู้อื่นให้เกิดเจตนารมณ์ที่สูงส่ง จะทำให้คุณเห็นภาพที่แตกต่างจากเดิม”จากนั้นก็มีเรื่องๆ อีกเรื่องหนึ่ง เปลี่ยนฉากเป็นฝรั่งเศส เนื้อหาคล้ายกันหนุ่มคนหนึ่งเริ่มชีวิตยากลำบาก แต่เขาก็ดิ้นรนสร้างตัวด้วยการเป็นเซลส์แมนขายภาพวาด ภายในเวลาสิบปี เขากลายเป็น 1 ใน 10 มหาเศรษฐี เป็นเจ้าพ่อวงการสื่อสารที่ยังหนุ่มแน่นโชคร้าย เขาเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก เสียชีวิตในโรงพยาบาลเมื่อปี ค.ศ.1998 หนังสือพิมพ์ได้นำพินัยกรรมของเขาออกมาตีพิมพ์เป็นข่าวใหญ่ในพินัยกรรม เขาเขียนว่า ผมเคยเป็นคนจน ก่อนที่จะเดินข้ามประตูคฤหาสถ์มาสู่ประตูสวรรค์ ผมได้ทิ้งเคล็ดลับในความเป็นคนร่ำรวยเอาไว้ถ้าใครสามารถตอบคำถาม “คนจนขาดแคลนสิ่งใดมากที่สุด” เขาคนนั้นจะได้รับการอวยพรจากผมเป็นเงินหนึ่งล้านฟรังก์ จากตู้เซฟส่วนตัวในธนาคาร นี่คือเสียงปรบมือจากสวรรค์ที่ผมจะมอบให้”หลังพินัยกรรมฉบับนี้ถูกเผยแพร่ มีคนส่งคำตอบมาให้ 48,561คนคำตอบแยกได้หลายประเภท คนกลุ่มหนึ่งว่า สิ่งที่คนจนขาดมากที่สุด ก็คือเงิน คำตอบคนอีกกลุ่ม สาเหตุของความจน คือความขาดโอกาส คนบางกลุ่ม ก็ตอบว่า สิ่งที่คนจนขาดแคลนมากที่สุด คือความรู้ ความสามารถในวันครบรอบหนึ่งปีที่มหาเศรษฐีจากไป ทนายความและผู้ช่วย เปิดตู้เซฟส่วนตัวในธนาคาร โดยมีเจ้าพนักงานกองตรวจพิสูจน์ตราสารควบคุมเคร่งครัด คำตอบในตู้เซฟนั้น เขียนไว้ว่า“สิ่งที่คนจนขาดแคลนมากที่สุด ก็คือความทะเยอทะยานที่จะเป็นมหาเศรษฐี”ในคำตอบทั้งหลาย มีเด็กหญิงอายุ 9 ปีคนเดียว ที่ทายถูกในวันรับมอบเงินรางวัลหนึ่งล้านฟรังก์ เด็กหญิงเปิดเผยที่มาของคำตอบว่า “ทุกครั้งที่พี่สาวพาเพื่อนผู้ชายมาที่บ้าน พี่สาวมักจะพูดกับหนูว่า อย่าคิดทะเยอทะยานเด็ดขาดเลยนะ”คำพูดพี่สาวทำให้เธอจำฝังใจ “ความทะเยอทะยานนั่นเอง ทำให้คนเราได้สิ่งที่ต้องการ”เรื่องคำตอบรางวัลเงินล้าน แพร่หลายออกไป โด่งดังไปถึงอังกฤษ อเมริกา มหาเศรษฐีผู้ดีรุ่นใหม่สองประเทศนี้คุยกัน ความทะเยอทะยานเป็นยาขนานเอก ช่วยรักษาความจนได้จริงๆผมอ่านจบแล้วขอต่อความยาวสาวความยืด ให้คิดอีกสักนิด ความทะเยอทะยานนั้น...เฉียดกับทะนงหลงตัว...หากมีมากเกินพอดี... ฝันของใครบางคนอาจจะไม่เป็นจริง.กิเลน ประลองเชิง