สถานการณ์น้ำใน จ.อุบลราชธานี “หลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย” แต่ระดับน้ำในแม่น้ำมูลยังคงมีระดับสูงไหลเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรมากกว่า 3.5 แสนไร่ ใน 19 อำเภอ 139 ตำบล 1,205 หมู่บ้าน ส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 50,000 คน ยังคงอพยพอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวท่ามกลางมวลอากาศเย็นจากประเทศจีน ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้อากาศเริ่มหนาวเย็นลงเรื่อยๆ อันจะส่งผลต่อสุขภาพผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และเด็กตามมาได้“ทีมสกู๊ปหน้า 1” มีโอกาสพูดคุยกับ “ชาวบ้านหาดคูเดื่อ ติดริมแม่น้ำมูล อ.เมืองอุบลราชธานี” แหล่งท่องเที่ยวสำคัญถูกน้ำท่วมจมหายทั้งหมู่บ้าน “สุดา อายุ 40 ปี” เล่าว่า จริงๆแล้วชุมชนหาดคูเดื่อต้องเจอปัญหาน้ำท่วมประจำ แต่ปีนี้มวลน้ำมามากสุดในรอบ 44 ปี ทำให้ชาวบ้านรับมือไม่ทันเดือดร้อนขาดแคลนอาหาร-น้ำดื่มจำนวนมาก ทั้งอากาศก็เริ่มหนาวเย็นลงเรื่อยๆ จนขาดแคลนเสื้อกันหนาวที่ถูกน้ำท่วมจมหายไปพร้อมกับบ้านหากย้อนดู “เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมืองอุบลฯ” ตามข้อมูลการบันทึกอุทกภัยเคยเกิดน้ำท่วมใหญ่มาแล้วในปี 2521 มีระดับน้ำที่วัดได้สูงสุดอยู่ที่ 12.76 เมตร (รสม.) ถัดมาปี 2545 สถานีวัดน้ำสะพานเสรีประชาธิปไตยกลางเมืองอุบลฯ มีระดับน้ำสูงสุด 10.77 เมตร และในปี 2562 ระดับน้ำที่สูงสุด 10.97 เมตรกระทั่งมาถึงในปี 2565 ที่เริ่มมีฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ส.ค.และต้องมาเจอกับพายุโนรูพัดถล่มอย่างหนัก ทำให้ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาไหลลงสู่ “แม่น้ำชี” มีต้นกำเนิดจากเทือกเขา จ.ชัยภูมิ ในส่วนอีกฟากฝั่งคือ “แม่น้ำมูล” ที่ไหลจาก จ.นครราชสีมา แล้วแม่น้ำสายหลักทั้ง 2 สายนี้ก็มาบรรจบกันที่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลฯอันเป็นพื้นที่รองรับน้ำเข้าสู่เขื่อนปากมูลไหลลงแม่น้ำโขงที่ อ.โขงเจียม ทำให้บางพื้นที่น้ำท่วมสูง 6 เมตร สถานีวัดน้ำสะพานเสรีประชาธิปไตยระดับสูงสุดอยู่ที่ 11.51 เมตร ถือเป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่ในรอบ 44 ปีเลยก็ว่าได้ ทว่าถ้าเปรียบเทียบการช่วยเหลือนั้น “ปี 2562 ค่อนข้างทั่วถึงมากกว่าปีนี้” สังเกตจากชาวบ้านต้องพึ่งพากันเอง “ช่วยกันบริจาคสิ่งของ อาหารสด คนละเล็กคนละน้อย” นำมาปรุงอาหารสุกแจกจ่ายแบ่งปันกันกินของแต่ละชุมชน ในส่วน “ภาครัฐ” เท่าที่ทราบมอบหมายให้ผู้นำชุมชนเป็นคนบริหารจัดการช่วยเหลือในครั้งนี้ผลก็คือ “การช่วยเหลือมุ่งเฉพาะศูนย์พักพิง หรือจุดเข้าถึงง่าย” สำหรับบ้านหาดคูเดื่ออยู่ลึกห่างถนนสายหลักต้องนั่งเรือเข้าไป 2 กม. ทำให้การช่วยเหลือบริจาคสิ่งของตกหล่นอยู่ไม่น้อย เหตุนี้ชาวบ้านต้องพากันพายเรือออกมารับสิ่งของบริจาคอย่างทุลักทุเลทุกวัน แต่ครอบครัวใดไม่มีเรือต้องอาศัยเพื่อนบ้านมิเช่นนั้นก็ต้องอดกินความจริงแล้ว “บ้านหาดคูเดื่ออาศัยอยู่ริมแม่น้ำมูล” ปกติวิถีชีวิตคนที่นี่มักเจอน้ำท่วมแทบทุกปี ทำให้แต่ละครอบครัวคุ้นชินมีแผนรองรับกับการเกิดน้ำท่วมอยู่แล้วอย่างน้อยก็มีเรือ 1 ลำต่อครอบครัว “ครอบครัวใดฐานะดีก็จะทำบ้านแพลอยน้ำ หรือสร้างบ้านยกสูง 2 ชั้น” เพื่อใช้สำหรับเก็บสิ่งของเวลาน้ำท่วม แต่ปีนี้ “น้ำในแม่น้ำมูลเยอะมากเกินคาด” ทำให้ทะลักเข้าท่วมชุมชนอย่างรวดเร็ว “อันเป็นผลให้หลายครอบครัวขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านไม่ทัน” โดยเฉพาะครอบครัวที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวต้องพึ่งพาอาศัยเพื่อนบ้านจำใจต้องยอมปล่อยสิ่งของบางส่วนจมน้ำไปอย่างเช่น แอร์ ตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า และข้าวของเครื่องใช้อื่นๆทว่าคนภายนอกไม่เคยเจอน้ำท่วมอาจพูดได้ว่า “รู้แต่ต้นน้ำจะท่วมทำไมไม่ขนย้ายสิ่งของล่วงหน้า” เรื่องนี้ต้องอธิบายว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดอย่างเช่น “เครื่องปรับอากาศ” ต้องจ้างช่างมาดำเนินถอดเก็บโดยที่ชาวบ้านไม่สามารถทำเองได้ แต่เมื่อถอดไปแล้วกลับ “น้ำไม่ท่วม” ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทั้งค่าถอดและติดตั้งใหม่อีกฉะนั้นหากไม่ถึงขีดสุดจริงๆ มักไม่เก็บสิ่งของเตรียมพร้อมกันไว้ สาเหตุส่วนหนึ่งก็เพราะไม่ทราบปริมาณน้ำที่ชัดเจนล่วงหน้า ส่วนใหญ่ชาวบ้านใช้ประสบการณ์ดูปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลแล้วค่อยวางแผนขนย้ายกันตอกย้ำ “ระบบแจ้งเตือนน้ำท่วมไร้ประสิทธิภาพหรือไม่” ด้วยที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐมักแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบเนื้อหาแบบกว้างๆ เพียงแค่ว่า “ปีนี้น้ำจะมามากกว่าค่าเฉลี่ยปกติ” แต่ไม่สามารถระบุปริมาณน้ำ หรือวันเวลามวลน้ำที่จะไหลมาถึงชุมชนแน่ชัดได้ ทำให้ชาวบ้านต้องใช้ประสบ การณ์คาดคะเนกันเอาเองมาตลอด ด้วยการใช้สถิติปริมาณน้ำปีก่อนนั้นบวกกับประสบการณ์นำมาคาดคะเนเป็นสถานการณ์ปัจจุบัน อย่างเช่น ปี 2563-2564 น้ำในแม่น้ำมูลมาเยอะ และเร็วกลับไม่ล้นตลิ่งจนน้ำไม่ท่วมมา 2 ปี เช่นเดียวกับปีนี้ช่วงแรกๆ ปริมาณน้ำมาไม่ต่างกับ 2 ปีก่อน แต่ไม่กี่วันก็ปรากฏว่า “น้ำทะลักมาเยอะมาก” จนล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนอย่างรวดเร็วทำให้บางคนที่มีบ้านชั้นเดียว “ขนย้ายสิ่งของไม่ทันต้องรีบนำขึ้นไว้บนหลังคาบ้าน” เพื่อเตรียมนำเรือมาขนย้ายออกไปยังจุดปลอดภัยในภายหลัง “แต่ด้วยปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลยกระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ” จนท่วมมิดหลังคาบ้าน ทำให้ชาวบ้านต้องยอมตัดใจปล่อยทิ้งสิ่งของบางส่วนจมไปกับน้ำนั้น“แต่ว่าภาพรวมตอนนี้ปริมาณน้ำเริ่มลดลงเรื่อยๆ ถ้าไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มคาดว่าถนนสายหลักน่าจะสัญจรได้เป็นปกติในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ ส่วนชุมชนหาดคู่เดื่อ หรือหมู่บ้านติดริมแม่น้ำมูลที่เกิดน้ำท่วมอยู่นี้สถานการณ์น่าจะคลี่คลายกลางเดือน พ.ย. แล้วน่าจะสามารถเข้าไปสำรวจความเสียหายและทำความสะอาดบ้านกันได้” สุดา ว่าประเด็น “ความเสียหายหลังน้ำท่วม” เรื่องนี้ยังไม่สามารถบอกได้ แต่น่าจะไม่แตกต่างจากครั้งน้ำท่วมในปี 2562 กล่าวคือสิ่งที่ต้องซ่อมแซมแน่ๆ ก็อย่างเช่น ฝ้าเพดานบ้าน ระบบไฟฟ้าภายในบ้านทั้งหมด กระจกบ้าน ประตูบ้าน และสำรวจความเสียหายโครงสร้างตัวบ้าน ถ้ามีรอยแตกร้าวก็ต้องแก้ไขซ่อมแซมตกแต่งผนังทาสีใหม่คราวนั้นเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม 2 หมื่นกว่าบาท “ภาครัฐ” เข้ามาสำรวจช่วยเหลือชดเชย 1,500 บาท ซึ่งเงินนี้จะได้รับไม่เท่ากัน แต่ยังโชคดี “การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” ดูแลเอาใจใส่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมดีมาก ระดมเจ้าหน้าที่เข้ามาสำรวจระบบไฟฟ้าในบ้านทุกหลังคาเรือน แล้วสิ่งใดเสียหายก็จะเปลี่ยนใหม่ให้ฟรีทั้งหมด เช่นเดียวกับ “กิตติภา” อายุ 41 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวเจ้าดังเมืองอุบลฯ บอกว่า ตอนนี้ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมอุบลฯ มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องราว 10% แต่ประชาชนยังได้รับความเดือดร้อน “ด้านการใช้ชีวิตประจำวัน” เพราะน้ำท่วมถนนหลายสายปิดทางเข้าออกตัวเมืองอุบลฯสิ่งที่ตามมาคือ “การขนส่งสินค้าเป็นไปด้วยความลำบาก” โดยเฉพาะผัก-ผลไม้ปรับตัวขึ้น 10 เท่า เช่น ใบแมงลักปกติชาวบ้านปลูกกันทุกครัวเรือนแทบไม่ต้องซื้อกินด้วยซ้ำ แต่หลังน้ำท่วมราคาขึ้น 3 กก. 500 บาท โหระพาปรับขึ้น 140 บาท/กก. จากเดิม 30 บาท/กก. ต้นหอม 120 บาท/กก. จาก 70-100 บาท/กก.ผักบุ้งปกติ 10-15 บาท/กก. ปรับขึ้น 50 บาท/กก. ผักชีฝรั่งเคยซื้อมัดละ 5-10 บาทปรับขึ้น 45 บาท “เนื้อสัตว์ยังขายราคาปกติ” แม้สินค้าปรับตัวขึ้นแต่เรายังขายก๋วยเตี๋ยวราคาเดิมเพียงแต่ลดการใช้ผักน้อยลงในช่วงนี้ต่อมาสิ่งที่กังวลก็คือ “เรื่องความปลอดภัย” เพราะต้องเข้าใจว่าในปี 2562 จ.อุบลฯ เคยผ่านน้ำท่วมใหญ่อันส่งผลให้บางครอบครัวเจอ “ค่าใช้จ่าย” ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมแซมบ้านหรือซื้อข้าวของเครื่องใช้ใหม่แล้วยังไม่ทันตั้งตัวกลับต้องมาเผชิญกับ “การระบาดโควิด–19” ทำให้ขาดรายได้มาอย่างน้อย 2 ปี ก่อนที่จะมาน้ำท่วมปี 2565 นี้ดังนั้น มองว่า “อนาคตคดีลักเล็กขโมยน้อยน่าจะพุ่งสูงขึ้น” ด้วยบางคนไม่มีเงินมาลงทุนปรับปรุงธุรกิจค้าขายได้ แล้ว “การที่จะเข้าไปขอกู้เงินจากสถาบันการเงินก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้กันทุกคนเสมอไป” ฉะนั้นแม้ว่าบางคนไม่อยากกระทำผิดกฎหมายก็ตาม แต่ด้วยสถานการณ์อาจบีบบังคับให้ต้องกลายเป็นโจรก็ได้สังเกตง่ายๆ “ตอนนี้เริ่มมีบางคนที่ได้รับสิ่งของบริจาคน้ำท่วม” แอบลักลอบนำมาขายในราคาถูกๆให้แก่กลุ่มนายทุนคนกลาง เพื่อต้องการเปลี่ยนเป็นเงินสดมาใช้จ่ายซื้อของอย่างอื่นก็มีเกิดขึ้นแล้วนี่คือเสียงสะท้อนของ “คนอุบลฯ” พื้นที่จุดปลายทางรองรับมวลน้ำหนักสุดในรอบ 44 ปี อันเป็นการส่งสัญญาณความเดือดร้อนถึง “รัฐบาล” เพื่อถอดบทเรียนปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากนำไปสู่ “การบริหารจัดการน้ำ” บรรเทาผลกระทบความสูญเสียที่อาจจะเกิดในอนาคตกันต่อไป...