จะเรียกนิทาน เรียกตำนาน หรือเรื่องเล่า บางเรื่องเล่าต่อๆ กันมาจนแทบจะลืม ใครเอ่ย! เป็นเจ้าของเรื่องเรื่อง “ปีศาจกินความโกรธ” อยู่ในหนังสือ “ชวนม่วนชื่น” ธรรมะบันเทิงหลายเรื่องเล่าของพระอาจารย์พรหม สมภารวัดพุทธในเมืองเพิร์ธ ออสเตรเลีย ลูกศิษย์ในไทยนำมาพิมพ์เป็นหนังสือเล่ม ชัย ราชวัตร ยื่นให้ตั้งแต่ปี 2549ผมเล่าซ้ำถึงสามครั้ง ท่าน ว.วชิรเมธี เล่าต่อ น่าจะอีกหลายครั้ง ยืนยันเรื่องเล่าเรื่องนี้ เป็นธรรมะชั้นดี เล่าอีกกี่ครั้ง ก็ยังเป็นคุณสถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ ผมขอเอามาเล่าอีกครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในอาณาจักรแห่งหนึ่ง ช่วงเวลาพระราชาเดินทางไปประชุมต่างประเทศ ทิ้งบัลลังก์ให้ว่าง (อาณาจักรสมัยโบราณ ไม่มีธรรมเนียมพระราชารักษาการ)ยังมีปีศาจตนหนึ่ง เนื้อตัวน่าเกลียดมาก ทั้งยังตัวเหม็นมากๆ มันเดินผ่านทหารยามและเจ้าหน้าที่วังทุกคนไปได้ เพราะทุกคนตื่นกลัวจนตัวแข็งทื่อ...มันเดินถึงท้องพระโรงตรงเข้าไปนั่งบนบัลลังก์พระราชา ยืดอกสง่าผ่าเผยผู้คนในวังตั้งสติได้ ก็ทำแค่ตะโกนไล่ คำไล่เปลี่ยนเป็นคำด่า หยาบคาย ผลที่เกิดขึ้น เจ้าปีศาจที่ตอนมาถึงก็เท่าตัวคนทั่วไป ตัวของมันก็ยิ่งใหญ่ และใหญ่ขึ้นๆ และกลิ่นตัวมันก็เหม็นมากขึ้นช่างบังเอิญเหลือเกิน พระราชากลับมาถึงพอดีพระราชาองค์นี้ทรงมีทั้งพระสติพระปัญญา ด้วยเหตุนี้จึงทรงเป็นพระราชา เมื่อทรงสบตาเจ้าปีศาจ ก็ตรัสด้วยพระสุรเสียงอบอุ่น “ยินดีต้อนรับท่าน สู่วังข้าพเจ้า” แล้วหันไปถามข้าราชบริพาร “นำเครื่องดื่มมาให้ท่านหรือยัง”ด้วยกิริยางาม คำตรัสที่สุภาพ ตัวเจ้าปีศาจหดลงทันที สามนิ้ว ความน่าเกลียดน้อยลง กลิ่นก็เหม็นน้อยลงคนในวังขมีขมันเข้าไปถาม “คุณน่าจะดื่มชาสักด้วย เรามีชาดาร์จีลิง อิงลิชเบรกฟาสต์ หรือเอิร์ลเกย์ ถ้าท่านไม่ชอบ จะเปลี่ยนเป็นชาเปปเปอร์มินต์ก็ได้ ทั้งอร่อย ทั้งดีต่อสุขภาพ”อีกคนโทรศัพท์ไปสั่งพิซซ่า เขาเดาว่าเจ้าปีศาจคงชอบกิน ขนาดครอบครัวคนที่สามใจกล้า เดินเข้าไปนวดเกล็ดที่คอ เจ้าปีศาจรำพึง “อืม! สบายดีจัง”ทุกคำพูดสุภาพ ทุกท่าทีเอื้อเฟื้อ ตัวเจ้าปีศาจก็ยิ่งเล็กลงๆ น่าเกลียดน้อยลง เหม็นน้อยลง ก่อนเด็กส่งพิซซ่าจะมาถึง ขนาดของมันเท่ากับตอนที่มายึดบัลลังก์นั่งตอนแรกคนในวังยิ่งจับทางได้แล้ว พยายามทำเรื่องดีให้มันต่อไปๆ ตัวของมันก็หดเล็กลงจนแทบมองไม่เห็นและเมื่อพระราชาส่งยิ้มให้เจ้าปีศาจอีกครั้ง ครั้งนี้ตัวเจ้าปีศาจก็หายวับไปกับตาปีศาจในนิทานเรื่องนี้ พระอาจารย์พรหม เปรียบเหมือนมะเร็ง สัตว์ร้ายที่น่าเกลียดน่ากลัวในตัวเรา บนบัลลังก์ของเรา เราอยากจะสั่งมันว่า “เจ้าจงออกไป” มันก็ไม่ไปมะเร็งบางตัวได้รับการบำรุงเลี้ยงดูด้วยความเครียด เรายิ่งเครียดมันก็ยิ่งโต ปัญหาขัดแย้งในบ้านเมือง หากเลือกใช้ความ เกลียดความโกรธตอบโต้ บ้านเมืองก็ยิ่งปั่นป่วนยิ่งวุ่นวายใครอ่านใครฟัง เรื่องเล่าปีศาจกินความโกรธแล้ว ผมขอใช้กลยุทธ์แชร์ลูกโซ่ในมุมสร้างสรรค์ หากใครคัดลอกบอกต่อๆกันไป ผลบุญจะเกิดกับใครคนนั้น จะไปเกิดเป็นคนมีความสุขในชาติต่อๆไปสี่ชาติสุภาษิตบทหนึ่ง “โกธัง ฆัตวา สุขัง เสตี” ฆ่าความโกรธได้อยู่เป็นสุข นี่คือคำตรัสของพระพุทธเจ้า ยืนยันธรรมะข้อนี้ เป็นความจริงแท้แน่นอน.กิเลน ประลองเชิง