ทุกเรื่องเล่าของฮ่องเต้ ในยุคตำนาน หรือพงศาวดารจีนหลายพระองค์มักมีประเด็นน่าสนใจยืดยาว แต่เรื่องเล่าของคนผู้ยิ่งใหญ่กว่า...คนที่ถูกชักชวนเชื้อเชิญไปนั่งเก้าอี้ผู้นำแต่ปฏิเสธ เรื่องเล่ามักสั้นๆน่าประหลาด เรื่องสั้นๆเหล่านั้นมักประทับใจฟังครั้งเดียวก็ไม่ลืมในยุคตำนาน น่าจะกว่าสี่พันปี เป็นยุคที่คนเก่ง เก่งจริงๆ เท่านั้น ถูกเลือกเป็นผู้นำ ยังไม่ถึงยุคที่สืบทอดกันด้วยระบบรัชทายาท หรือยุคที่ทำสงครามฆ่าฟันแย่งชิงอำนาจยุคพระเจ้าเหยาเมื่อทรงได้ข่าวปราชญ์ผู้หยั่งรู้ดินฟ้า ชื่อ สวี่โหยว ก็ทรงตามไปหา ประสานมือโค้งคำนับ ออกปากเชื้อเชิญให้นั่งเก้าอี้ผู้นำ แก้ปัญหาทุกข์ร้อนให้ราษฎร(ใครไม่เชื่อก็ขอให้เชื่อไว้เถิด สมัยตำนานที่ผู้คนมีศีลธรรมเต็มๆ เรื่องแบบนี้เคยมี)เรื่องนี้ผมอ่านจาก “ตูน ปรัชญาเต๋า” (สุรัติ ปรีชาธรรม โชติช่วง นาดอน แปล) เหตุผลในการปฏิเสธของสวี่โหยว หนักแน่นมีเหตุผลหนักแน่นน่าฟัง“ดวงอาทิตย์ดวงจันทร์ ออกมาส่องสว่างแล้ว จะให้ข้าผู้เปรียบเหมือนแสงไฟดวงน้อยออกมาทำอะไรอีกรึ?”สวี่โหยวชื่นชมพระเจ้าเหยาซึ่งๆหน้า เพื่อให้รู้ว่าทรงเหมาะสมทุกประการในการเป็นกษัตริย์มิไยที่พระเจ้าเหยายังย้ำคำขอร้อง“พอทีเถิด” เขาก็ขอให้พระเจ้าเหยา ให้เห็นใจชีวิตเล็กๆของตัวเองเหตุผลแรก “นกน้อย ทำรังบนต้นไม้ ต้องการกิ่งไม้ แค่กิ่งเดียวเท่านั้น”เหตุผลที่สอง “หนูกินน้ำจากลำธาร ต้องการน้ำแค่อิ่มท้อง น้อยๆของมันเท่านั้น”เหตุการณ์ตอนนี้ ไช่จื้อจงเขียนการ์ตูนให้สวี่โหยวหันหน้าหนีพระเจ้าเหยา“ท่านมอบบัลลังก์ให้แก่ข้า ข้าจะรับไว้เพื่ออะไร เพราะท่านก็ปกครองแผ่นดินสงบเรียบร้อยดีแล้วคิดจะมอบชื่ออันสูงส่งให้แก้ข้า อย่างนั้นหรือ?ข้าจะรับเอาแค่ชื่ออันเปล่าว่างนี้ไปทำอะไร”บทจบของเรื่องนี้ เป็นคำรำพึงของสวี่โหยว “ชื่อเป็นเพียงเครื่องตกแต่งสัจธรรม ผู้คนมักไขว่คว้าชื่อเสียง ทำให้ตัวเองทุกข์ยากลำบาก”เรื่องที่สอง สองพันกว่าปีที่แล้ว หลังสมัยขงจื๊อร้อยสองร้อยปี จวงจื่อเร้นกายสงบใจอยู่ในป่าเขา วันหนึ่งเขานั่งตกปลาอยู่ริมน้ำผู เจ้าพนักงานระดับสูงจากแคว้นฉู่ก็เข้ามาคารวะ“ท่านอ๋องต้องการมอบหมายภารกิจใหญ่แก่ท่าน ท่านยินดีลงจากภูเขาหรือไม่?”“ภารกิจใหญ่” ที่คนระดับท่านอ๋องมอบหมาย ไม่ต้องเดาก็คงพอเข้าใจ คืองานบริหารบ้านเมือง จวงจื่อไม่ปฏิเสธฉับพลันทันที เขาใช้วิธีชวนสนทนา“ข้าได้ยินมาว่า แคว้นฉู่มีเต่าศักดิ์สิทธิ์ตัวหนึ่ง ตายไปตั้งสามพันปีแล้ว กระดูกของมันถูกนำมาวางบนหิ้ง เพื่อใช้เสี่ยงทาย พวกเจ้าคิดว่า เต่าศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้นยินดีสละชีวิตทิ้งกระดูกไว้ให้ผู้คนกราบไหว้บูชาหรือว่าอยากมีชีวิตอยู่ในน้ำเล่นโคลนสนุกสำราญ”จวงจื่อเอี้ยวตัวไปชี้ให้พนักงานแคว้นฉู่ดูเต่าตัวหนึ่งในริมน้ำใกล้ๆตัว“มันอยากมีชีวิตว่ายน้ำเล่นโคลนเป็นแน่!” พนักงานแคว้นฉู่ พร้อมใจตอบเสียงเดียวกัน“เจ้ากลับไปได้ ” จวงจื่่อบอก “ ข้าอยากว่ายน้ำเล่นโคลนแล้ว”พนักงานแคว้นฉู่ลาจากไป จวงจื่อรำพึงสอนตัวเอง “ การดิ้นรนไขว่คว้า การยกย่องสรรเสริญอำนาจทางโลกย์ จนสูญเสียธรรมชาติดั้งเดิมของคนนั้น เป็นการหลงทางมหันต์”จวงจื่อตายไปนานกว่าสองพันปี มีคนจดจำเรื่องราวของเขาไว้เล่าต่อๆกันไปมากมาย เพียงแต่คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริงหรือว่าคนทั้งสองฝ่าย ฝ่ายที่นั่งในทำเนียบ ฝ่ายที่ชุมนุมล้อมรุกทำเนียบ จะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง.กิเลน ประลองเชิง