“ปีศาจ” ตัวที่ “เสนีย์ เสาวพงษ์” เขียนไว้ในนิยาย เด็กๆเพิ่งเอามาใช้เล่นเป็นละคร คนละตัวกับ“ปีศาจ”ในเรื่องเล่าของ พระอาจารย์พรหม ที่จู่โจมเข้าชิง (นั่ง) บัลลังก์พระราชา ในมหานครสมมติผมเล่าไป ก็หลายครั้ง นี่คือ วิชาปราบปีศาจ ที่ฉมัง แต่ดูเหมือนผู้ใหญ่ หลายคน ยังไม่ได้อ่านวันนี้ผมขอ ทบทวนให้ฟัง อีกสักครั้ง เผื่อท่านจะเอาไปใช้กับปัญหาการเมืองตรงหน้าในวันที่พระราชา ไม่ได้อยู่ในวัง บัลลังก์ในท้องพระโรงก็ว่าง จู่ๆก็มีปีศาจ น่าเกลียดน่ากลัว ตัวเหม็น ปากเหม็น ก็แหวกมหาดเล็กไล่กา โผล่พรวดพราดเข้าไปนั่งนี่คือหน้าที่ มหาดเล็กไล่กา รู้ตัวดี ก็ผวาวิ่งเข้าไปไล่ “ ออกไปๆ”ยิ่งด่ายิ่งไล่ ตัวเจ้าปีศาจที่ตอนมาก็ขนาดคนธรรมดา ก็ยิ่งขยายใหญ่ กลิ่นปากที่เหม็นก็ยิ่งเหม็น หน้าตาที่น่าเกลียดน่ากลัว ก็ยิ่งน่าเกลียดน่ากลัวด่าไปไล่ไป ไม่ช้า ตัวเจ้าปีศาจก็ใหญ่มหึมา หัวชนเพดานท้องพระโรงเสียงอึกทึกครึกโครม ดังเข้าหูพระราชา ไม่นานพระองค์ก็เสด็จมาถึง ชื่อชั้นมนุษย์ที่ถูกยกย่องเป็นราชา ไม่ธรรมดา ทรงสั่งห้ามมหาดเล็กทันที“โอ ท่านเดินทางมาไกล คงเหนื่อย”ตรัสทักทายปีศาจด้วยไมตรีแล้วก็ทรงสั่งมหาดเล็กให้รีบไปหาน้ำชามารับรอง ประหนึ่งว่าปีศาจตนนั้น เป็นแขกเมืองสำคัญปีศาจดื่มชาอย่างกระหาย พระราชารู้ว่ามันหิว ก็หันไปสั่งมหาดเล็ก ให้ไปหาอาหารมาเสิร์ฟ ปีศาจกินไป พระราชา ก็ชวนคุยไป สีหน้าท่าทีปีศาจดีขึ้น ตัวที่ใหญ่ก็เริ่มย่อเล็กลง ปากก็เหม็นน้อยลงเมื่อกินอิ่ม ปีศาจออกท่าเมื่อย พระราชาสั่งมหาดเล็กให้เข้าไปนวดที่ต้นคอกระหายน้ำก็ได้ดื่มชา หิวก็ได้กินอาหารฝีมือกุ๊กในวัง เจอฝีมือนวดระดับห้าดาว เจ้าปีศาจร้อง “อืม...” แสดงอารมณ์ดี ขณะที่ตัวมันก็ยิ่งเล็กลงไปอีกกระบวนการต้อนรับขับสู้...ดำเนินต่อไปอีกไม่นาน เจ้าปีศาจน่าเกลียดน่ากลัวตัวใหญ่ ก็หายวับไป บัลลังก์สัญลักษณ์แห่งอำนาจ ก็กลับมาหาพระราชาดังเดิมเรื่องเล่าเรื่องปีศาจปีศาจกินความโกรธ จบลงตรงนี้...หากใครคิดจะเอามาใช้กับปัญหาการเมือง ก็ต้องตั้งประเด็นคิดให้ดีๆ ใคร ฝ่ายไหน เล่นบทปีศาจ ใครเล่นบทพระราชาเมื่อตอนบ่ายโมงวันศุกร์ ม็อบเด็กเริ่มก่อตัวที่สี่แยกราชประสงค์วันที่สอง ตำรวจออกมาแถลงข่าว ข้อแรกน่าชื่นใจ เป็นคำแนะนำสำหรับผู้คน ที่ตั้งใจเดินทางไปม็อบก่อนเดินทางควรตรวจสอบให้แน่ใจ ช่องทางไหนไปได้ ช่องไหนไปไม่ได้ข้อนี้ ถือเป็นความหวังดี ข้อสอง ไม่ถึงกับเข้าข่ายประสงค์ร้าย อย่าเผลอใช้โซเชียลฯ อย่างที่เคยมือ บางเรื่องอาจผิดกฎหมาย...โทษทั้งปรับทั้งจับเข้าคุก พ่อแม่ก็ขอให้ช่วยเตือนลูกตำรวจเล่นทั้งบทปลอบ บทขู่ พออนุโลมได้ว่าพยายามใช้วิชาพระราชาสยบปีศาจ แต่พอบ่ายแก่ ก็มีข่าวตำรวจบุกเข้าพรรคก้าวไกล...จะจับอาจารย์ปิยบุตร...ข้อหาอะไรไม่ค่อยชัดแต่สุดท้ายเจอคาถาวิชาอาจารย์กฎหมาย...ตำรวจก็ถอยไป ผมขอใช้คำว่าโดยละม่อมงานหลังนี้ ต่อเนื่องถึงงานสลายม็อบด้วยการฉีดน้ำไล่ คนดูอย่างผม เริ่มเห็น แทนที่ฝ่ายรัฐจะเล่นบทพระราชา แต่ฝ่ายรัฐกลับเผลอใช้อำนาจ เล่นบทปีศาจเสียเอง คะแนนที่เตรียมใจเทให้ก็ต้องเปลี่ยนไปถ้ายังขืนเล่นบทปีศาจต่อ ผมเกรงว่า ท่านจะอยู่ต่อไปอีกไม่นาน ยิ่งไล่มอบก็ยิ่งใหญ่ แรงกดดันหนักขึ้นๆ สุดท้ายท่านก็อาจเป็นฝ่ายต้องไปเสียเอง.กิเลน ประลองเชิง