ประดาบก็เลือดเดือด...ต้องบอกว่าการเมืองไทยในห้วงนี้ขึงตึงกันแบบวันต่อวันแบ่งกันเพลี่ยงพล้ำแบ่งกันเหนือชั้นแต่ที่ยังเป็นตัวชูโรงในสนามการเมืองผู้เล่นอย่าง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.บิ๊กเบิ้มของฝ่าย “สีเขียว”คงเป็นเรื่องส่อแสดงให้เห็นว่า “ทหาร” ยังมีบทบาทสำคัญนับแต่ “บิ๊กแดง” ออกโรงแสดงอภิวาทะขึ้นเวทีชี้แจงแถลงไขปัญหาของประเทศว่าด้วยความมั่นคงของชาติเล่นเอาร้อนกันไปทั้งเมือง เพราะมีทั้งฝ่ายเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แม้ว่าในความเห็นของกองทัพจะยืนระนาบอย่างที่เคยเห็นกันมาแล้วคือ “จุดยืน” ที่มั่นคงฝ่ายต่อต้านก็บอกว่าเป็นเรื่องของพวก “ไดโนเสาร์” หยิบเรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่โดยเฉพาะการนำเอาคำว่า “คอมมิวนิสต์” มาปลุกผีกระทั่งต้องใช้เกมสภามาชี้ด้วยการที่คณะกรรมาธิการความมั่นคงของสภาผู้แทนฯ ซึ่งมี ส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่นั่งเป็นประธานเพื่อเป็นการวัดใจ ผบ.ทบ.นั้นแน่แค่ไหน ใจถึงหรือเปล่า ซึ่งก็คงคาดการณ์ล่วงหน้าแล้วว่าคงไม่มาแน่ปรากฏว่าผลตรงกันข้ามเมื่อ “บิ๊กแดง” ได้ปรากฏกายในที่ประชุมด้วยท่าทางที่พูดกันว่าเป็นลีลา “อ่อนสยบแข็ง”เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างนักการเมือง กับกองทัพ บรรยากาศจึงเป็นไปด้วยดี เมื่อมีการชี้แจงว่าไม่ได้ว่ากล่าวอ้างถึงพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่ที่พูดก็เพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องรักษาความมั่นคงของชาติ“เป็นเพื่อนกับนักการเมือง ดีกว่าเป็นศัตรูกัน”เกมนี้ก็จบกันไปโดยปริยาย แต่ต้องรอดูว่าจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้นอีก เพราะอย่างที่ว่ามาตั้งแต่ต้นคือความแน่นอนคือความไม่แน่นอนแต่ที่ไม่ควรมองข้ามก็คือเรื่องที่นักข่าววัดกระแสด้วยคำถามต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายมั่นคง ว่า พล.อ.อภิรัชต์เหมาะสมที่จะเป็นนายกฯหรือไม่“ก็ดี”...คำตอบสั้นๆ ง่ายๆเป็นคำตอบที่มีความหมายทางการเมืองอย่างยากที่จะปฏิเสธได้ ด้วยเหตุและปัจจัยทำให้มีคำตอบเป็น 2 ด้านด้านหนึ่งเท่ากับว่า พล.อ.ประวิตร “พี่ใหญ่” มีแผนทางการเมืองด้วยการสืบทอดต่ออำนาจจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งหมดจาก “บิ๊กตู่” เป็น ยังมี “บิ๊กแดง” รอคิวอยู่ด้านหนึ่งก็ชัดเจนว่า คสช.ยังคิดต่อทอดอำนาจอีกยาวอย่างที่โจมตีเรื่องนี้มาตลอด ไม่ยอมปล่อยวางไปอย่างง่ายๆจน พล.อ.ประวิตรเห็นท่าไม่ดีเลยบอกว่า “พูดเล่น” สำทับด้วยเจ้าตัวที่บอกว่าไม่เคยคิดเล่นการเมืองแต่อย่างใดอีกทั้งด้านกฎหมายนั้นยังเป็นไม่ได้ เพราะยังเป็นข้าราชการ หากเกษียณไปก็ต้องรอเวลาอีก 2 ปี จึงจะเล่นการเมืองได้ปัญหา “เผือกร้อน” ที่โยนใส่ พล.อ.อภิรัชต์นั้นเป็นเรื่องเจตนาหรือเพียงแค่พูดเล่นๆ เพื่อแสดงให้เกิดผลกระทบไปถึงบุคคล 2 คน คือ “บิ๊กตู่” และ “บิ๊กแดง” อย่างช่วยไม่ได้เพราะ 2 คนนี้สนิทแนบแน่นเป็น “สายตรง” กันเสียด้วย?“สายล่อฟ้า”