ไม่ใช่ “สายเอนฯ” ให้รัฐบาล เจ้าของฉายา “สวยแต่เจ็บ” อย่าง “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย รับงานคิวนี้แบบจัดเต็ม ล่าสุดเปิดบิ๊กอีเวนต์ทุกวันพุธ “คุยกันหน่อย”ระดมทีมหางเครื่องวีไอพี ตั้งโต๊ะตลาดนัดกลางคืน ไลฟ์สดถล่มรัฐบาลเป็นชุด ทั้งมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ทั้งคิวแก้รัฐธรรมนูญ ที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เพิ่งปฏิเสธไม่รับเป็นดรัมเมเยอร์ ควงคทา ถือธงนำแก้กติกาใหญ่ค่อยสมราคาแม่ทัพหญิงแกร่งขั้วฝ่ายค้าน รสชาติกลมกล่อมเหมือนขนมเปี๊ยะแบรนด์แม่มดที่เจ๊โปรดปรานเมื่อจับทีท่า น่าจะถึงเวลาเร่งเครื่องก่อนศึกใหญ่ โปรแกรมหน้าที่จะมาถึง ส่อแววเดือด ทั้งคิวถกงบฯวันที่ 17 ต.ค. เปิดสภาฯ พ.ย. นำร่องด้วยญัตติตั้งคณะ กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ ต่อด้วยที่ล็อกเป้าจองกฐินล่วงหน้าก่อนหมดปีพลาดโควตา กับรายการใหญ่ซักฟอกรัฐบาลตรวจจับฝุ่นควันขนาดจิ๋ว พีเอ็ม–ไพรม์มินิสเตอร์อย่าง “บิ๊กตู่” รู้ดี เป็นเป้าล่อแน่ยิ่งถ้าประเมินทีท่า ตรวจแถวแล้ว ฝ่ายค้านแปรรูปขบวนมาแน่นปึ้กขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่แท็กทีมกันจัดอีเวนต์ตามหัวเมือง ในนามฝ่ายค้านสัญจร ตะลอนพบประชาชน ค่อยๆสุมฟืนก่อไฟ เลี้ยงเชื้อให้เพลิงลุกโชนตรงเวลาพีกขมวดปมยามนี้มี 2 ประเด็นหลัก วางคอนเซปต์มุ่งปมรัฐธรรมนูญ และเศรษฐกิจปัญหาปากท้องส่วนคิวขยายแผล มีมวยไฟเตอร์อย่างค่ายเสรีรวมไทย จัดใหญ่กันอยู่คิวแรกที่แบ่งงานให้เป็นหัวจักรนำร่อง กับการเดินสายรณรงค์ปลุกกระแสแก้รัฐธรรมนูญ โดยทีมสีส้ม พรรคอนาคตใหม่ โดยเฉพาะเรื่องแหลมๆชวนเสียว ค่ายไม่กลัวร้อนจุดพลุนำร่องเป็นระยะๆโดยมีกองหนุนชั้นดี อย่างพรรคประชาชาติ ที่วันนี้ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา–พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” เป็นคีย์แมนที่โชว์ฟอร์มได้ดี ทั้งบี้ปมถวายสัตย์ฯ ลากเข้าแง่ “จริยธรรม” มาจนถึงคิวแก้รัฐธรรมนูญ2 ขุนศึกประชาชาติ โดยเฉพาะอดีตประธานสภาฯ “วันนอร์” เบิ้ลเครื่องแรงแน่นอน รายการนี้ถึงที่สุดตามเงื่อนไขกติการัฐธรรมนูญ หากเป้าไปถึงขั้นโละรื้อทั้งฉบับ น่าจะยังเป็นเรื่องยาก อ่านสัญญาณจากผู้นำที่ไม่รับลูก แน่นอนองค์ประกอบสำคัญอย่างเสียง ส.ว.ก็คงไม่แหกโผแต่คิวนี้ก็เป็นการกรีดแผลไว้รอให้ติดเชื้อในอีกประเด็นที่วางเป้าไว้คือ ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปากท้องของชาวบ้าน ขั้วฝ่ายค้านเริ่มดาหน้ากันมาเป็นแผง ประเมินจากสถานการณ์เศรษฐกิจไทย โยงภาวะเศรษฐกิจโลกกราฟตัวเลขต่างๆยากจะผงกหัวในเร็ววันโอกาสดีนาทีทองของฝ่ายค้าน ที่วันนี้แม้ทีมเศรษฐกิจรัฐบาล กระทรวงการคลัง จะพยายามเปิดมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย การบริโภคของประชาชน เพื่อติดเครื่องยนต์ที่ยังพอมีแรงหมุน เป็นการอัดฉีดระบบเศรษฐกิจฐานราก คู่ขนานกับการเร่งสปีดการลงทุนภาครัฐ ในเมกะโปรเจกต์ รถไฟ รถไฟฟ้า ถนนหนทาง ฯลฯขั้วฝ่ายค้านก็อ่านทางได้ ไม่ปล่อยฟรีให้ “ประชารัฐ” โดย “ลุงตู่” มาแทน “ประชานิยม” ของ “นายใหญ่”ทั้งตัวขายค่ายสีส้ม กดแต้มคะแนนมาตรการชิมช้อปใช้ชนิดต่ำเตี้ยเรี่ยดิน วิพากษ์วิจารณ์ถึงผลลัพธ์การแจกเงินแบบไม่ให้ราคา ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่จิ๊บจ๊อยแล้วก็เรียกว่า ขยับโดยพร้อมเพรียง นอกจากมือเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ที่มีอยู่แต่หาตัวยาก จน “เจ้าแม่ กทม.” ต้องอาศัยตัวช่วยพรรคอนาคตใหม่ รวมทั้งล่าสุดได้อดีตขุนศึกขุนพล มาเป็นตัวช่วยการกลับมาของมวยหมัดหนักอย่าง “จาตุรนต์ ฉายแสง” อดีตรัฐมนตรีตัวหลักเครือข่ายเพื่อไทย เสริมกับมวยหมัดแย็บ บ็อกเซอร์เจ้าเก่า “พิชัย นริพทะพันธุ์”หรือแม้แต่ “ดร.รุ่งเรือง พิทยศิริ” อดีตกุนซือทีมเศรษฐกิจในไทยรักไทย ที่กลับมาเป็นตัวจี๊ด ไล่สวนหมัด โพสต์ป้องทีมอนาคตใหม่ สวนหมัดทีมกระทรวงการคลัง ในปม “ใช้สมองส่วนไหนคิด” ตั้งคำถาม “โครงการอะไรยุ่งยาก เงิน 1 พัน ต้องรีบเที่ยวใช้เงินใน 14 วัน”ในจังหวะที่ต้องวัดกัน ขั้วฝ่ายค้าน–รัฐบาล ในปมเศรษฐกิจ และคิวรื้อรัฐธรรมนูญเศรษฐกิจ–ประชาธิปไตย ปากท้องกับเรื่องสิทธิเสรีภาพ ที่สำคัญเหมือนๆกันอยู่ที่ชาวบ้านจะเลือกมุมไหน.ทีมข่าวการเมือง