ต้องถือว่าเป็นกฎหมายดัดหลังนักการเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กำลังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในวาระสุดท้าย ให้อายุความสะดุดหยุดลง ถ้าจำเลยหลบหนี ไม่ให้นับระยะเวลาที่หลบหนีเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ และเมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำเลยแล้วหลบหนี ก็ไม่มีอายุความ ยังต้องติดคุกเมื่อกลับมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นับเป็นนวัตกรรมใหม่ในทางการเมืองของไทย เกิดขึ้นครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญ 2540 พร้อมๆกับศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระต่างๆ เป็นระบบศาลเดียว จึงสามารถตัดสินคดีได้รวดเร็ว ไม่ต้องรอนานนับสิบๆปีเหมือนในอดีต ซึ่งเป็นความยุติธรรมที่อาจมาสายจนเกินไปผลของการมีศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง ทำให้นักการเมืองติดคุกไปแล้วหลายราย แต่มีหลายรายที่หลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะระดับเศรษฐีหรือมหาเศรษฐี เพื่อรอให้คดีขาดอายุความ หรือรอกฎหมายนิรโทษกรรม ถ้าพวกพ้องได้เป็นรัฐบาล แต่กฎหมายที่แก้ไขใหม่ไม่ให้นับอายุความ กลับมาเมื่อไหร่ก็ติดคุก จึงต้องหนีไปตลอดชีวิตนักการเมืองกับคดีอาญามักจะเป็นของคู่กัน โดยเฉพาะในประเทศที่ประชาธิปไตยยังไม่พัฒนา มีนักการเมืองถูกกล่าวหาเรื่องทุจริตกันมาก เช่น อดีตประธานาธิบดีเอสตราดา และอาร์โรโย แห่งฟิลิปปินส์ และอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค แห่งอียิปต์ เป็นต้น แต่การที่ผู้นำของแต่ละประเทศ จะได้รับโทษ ชดใช้กรรมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรมเกาหลีใต้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน ของประเทศที่กระบวนการยุติธรรมเข้มแข็ง จึงสามารถจับผู้นำประเทศเข้าคุกแล้วหลายคน เพราะแม้จะเป็นประชาธิปไตยค่อนข้างใหม่ แต่ก็เป็นประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง มีระบบตรวจสอบถ่วงดุลที่เข้มข้น อดีตประธานาธิบดีหญิง ปัก กึนเฮ ถูกรัฐสภาตรวจสอบและถอดถอนพ้นจากตำแหน่ง และถูกอำนาจตุลาการพิจารณาคดีในศาลยุติธรรมเกาหลีใต้ยังมีการเมืองภาคประชาชนที่เข้มแข็ง และสนใจการบ้านการเมืองอย่างยิ่ง สาเหตุสำคัญที่ทำให้ประธานาธิบดีหญิงถูกรัฐสภาถอดถอน เนื่องจากมีประชาชนนับล้านๆคนออกมาชุมนุมขับไล่กลางกรุงโซลเป็นรายวัน ข้อหาทุจริตดูเหมือนจะไม่ร้ายแรงมาก และเป็นการกล่าวหาเพื่อนหญิง คนสนิทมากกว่า อาจเรียกได้ว่า พ.พ.พ. หรือพังเพราะเพื่อนสำหรับประเทศไทย การแก้ไขกฎหมายให้คดีอาญานักการเมืองไม่มีอายุความ คือความก้าวหน้า ผู้หลบหนีกลับมาเมื่อใดจะถูกดำเนินคดีต่อ บางคนต้องกลับมาเข้าคุกทันที คงจะไม่ใช่การกลับบ้านที่สง่างามแน่ และเตือนนักการเมืองทั้งหลาย ต้องปฏิรูปตัวเอง หากยังยึดติดในแนวคิดหรือทำแบบเก่าๆ มีสิทธิ์ที่จะถูกจับเข้าคุก มากกว่าประชาชนทั่วไป.