ตำรวจ บช.ปส. สนธิกำลังทหารกองร้อยรักษาความสงบและ สห.ทอ. เข้าตรวจค้นค่ายมวย-บ่อนไก่ ในบ้านพันจ่าอากาศ สังกัด กซภ.ชอ. หลังตามพิสูจน์ทราบพฤติกรรมค้ายาในพื้นที่สายไหมนานกว่า 2 เดือน พบยานรก 1.8 ล้านเม็ด-ไอซ์ 39 กก. ซุกซ่อนในป่าหญ้าใกล้บ้าน พรรคพวกไหวตัวแอบเผาทำลายหลักฐานตั้งแต่กลางดึกร่วม 2 ล้านเม็ด เป็นเครือข่ายยาเสพติด 2 นายทหารยศพันเอกประเทศเพื่อนบ้าน ด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ขณะที่ตำรวจ 191 โชว์งานจับ 7 ผู้ต้องหาค้ากัญชา ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ลอตใหญ่ 150 กก. จับยาบ้า 1.8 ล้านเม็ด พร้อมไอซ์ 39 กก.เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ก.ค. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.บช.ปส. พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สุรภัค รอดโพธิ์ทอง รอง ผบก.ปฏิบัติราชการ บช.ปส. พ.ต.อ.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ธนากรณฑ์ ก้อนแก้ว ผกก.สน.สายไหม พ.ต.ท.นริศ ปราถนาพร รอง ผกก.สส. สน.สายไหม สนธิกำลังตำรวจ-ทหารร้อย รส.ที่ 1 ร.2 พัน 1 .รอ. ทหารพัน.สห.ทอ. กว่า 50 นาย เข้าปิดล้อมบ้านพักไม่มีเลขที่ ภายในซอยสายไหม 10 แขวงและเขตสายไหม กทม. หลังสืบพบการนำยาเสพติดจำนวนมากซุกซ่อนเพื่อรอการจำหน่ายส่งเครือข่ายที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านเปิดเป็นค่ายมวยชื่อ “ส.แจ้งอรุณ” ด้านหลังเปิดเป็นซุ้มไก่ชนชื่อ “ซุ้มไก่เรืออากาศตรี ทนงศักดิ์” ติดกับบ้านพักคนงาน ทั้งหมดอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 200 ตร.ว. มีรั้วรอบขอบชิด หลังนำกำลังเข้าตรวจสอบพบนายวันรบ หรือโก้ ศรณรงค์ อายุ 27 ปี น.ส.นิติมา บุญศิริ อายุ 40 ปี และ น.ส.แสง ชาว สปป.ลาว อายุ 26 ปี อยู่ภายในบ้านพักคนงาน จึงควบคุมตัวไว้ ก่อนเข้าตรวจค้นโดยรอบพื้นที่แต่ไม่พบยาเสพติด จากนั้นเจ้าหน้าที่นำกำลังไปตรวจสอบบริเวณป่าหญ้าขึ้นรกชัฏรอบๆรั้ว ใช้วิธีเดินเรียงหน้ากระดานปูพรมค้นหานานกว่า 2 ชม. พบยาบ้า 1.8 ล้านเม็ด บรรจุถุงพลาสติกใสใส่กระสอบจำนวนหลายกระสอบ ส่วนยาไอซ์ 39 กก. บรรจุอยู่ในถุงชาเขียวซีนอย่างดี ใส่ถุงกระสอบเช่นเดียวกัน ทั้งหมดถูกซุกซ่อนอยู่ในป่าบริเวณรอบบ้าน ขณะตรวจค้นของกลางพ.อ.อ.ทนงศักดิ์ พินิจพงษ์ อายุ 59 ปี ทหารสังกัดกซภ.ชอ. เดินทางมาที่เกิดเหตุพร้อมแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน ก่อนถูกควบคุมตัวเพื่อสอบสวนเบื้องต้น พ.อ.อ.ทนงศักดิ์ยอมรับว่า เป็นเจ้าของบ้านและบ่อนไก่จริง มีนายบุญลือ หรือลือ แจ้งอรุณ อายุ 44 ปี นายบัณฑิต หรือแวน แจ้งอรุณ อายุ 40 ปี เป็นผู้ดูแล สำหรับยาเสพติดจำนวนดังกล่าวตนไม่ทราบที่มาที่ไป แต่ยอมรับว่าเสพกัญชามาตลอด หลังการสอบสวนมีทหารอากาศ คุมตัว พ.อ.อ.ทนงศักดิ์ไปสอบสวนต่อทันทีขณะที่นายวันรบ 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวอ้างว่าทำหน้าที่เลี้ยงไก่และทำแผลไก่อยู่ซุ้มตีไก่มานาน 1 ปีแล้ว กระทั่งเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 2 ก.ค. นายเจด็จ หรือโทน คงปาน อายุ 40 ปี 1 ในเพื่อนร่วมงานได้ให้ขี่รถ จยย. ไปรับที่ซอยพหลโยธิน 53 เมื่อไปถึงนายเจด็จบอกว่าโดนตำรวจตาม จากนั้นนายเจด็จสั่งให้ขี่รถ จยย.ตามรถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีดำ ป้ายทะเบียนหมวด จ.เชียงราย ของนายเจด็จ มีนายเล็ก (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) เพื่อนคนงานอีกคนขี่รถ จยย.สีส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน นำรถยนต์ของนายเจด็จ ก่อนทั้งหมดจะแยกกันที่ถนนสายไหม ช่วงซอยสายไหม 10 แล้วกลับมาทำงานตามปกติและนั่งดื่มสุรา กระทั่งเวลาประมาณตีสอง เห็นกลุ่มคนประมาณ 10 คน มีนายเจด็จรวมอยู่ด้วย แอบเผายาเสพติดจำนวนมากระหว่างนั้นมีเสียงระเบิดหลายครั้ง ทำให้ทั้งหมดตกใจก่อน เผ่นหนีกันไปหมด ส่วนตนกลับมานอนที่บ้านจนถูกตำรวจจับกุมพล.ต.ต.พรชัยเผยการจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากสายลับว่ากลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมใช้จ่ายเงินมากผิดปกติ มีการซื้อไก่ชนตัวละหลายแสนบาทครั้งละหลายตัว จึงสืบสวนหาข้อมูลจนพบพฤติการณ์ลักลอบค้ายาเสพติดในพื้นที่ ตำรวจ บช.ปส. ติดตามพฤติกรรมนานกว่า 2 เดือน คาดยาเสพติดที่ถูกเผาน่าจะมีจำนวนกว่า 2 ล้านเม็ดและไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง สาเหตุน่าจะมาจากผู้ต้องหาไหวตัวทัน“สำหรับยาเสพติดทั้งหมดที่ตรวจยึดได้นั้นเป็นของกลุ่มว้าใต้ ของ พ.อ.จะลอโบ และ พ.อ.จะงอย มีนายวีระ หมื่นจะดา ลูกเขยของ พ.อ.จะลอโบเป็นตัวเชื่อมระหว่างเครือข่ายกับผู้ค้า ลำเลียงมาจากตะเข็บชายแดนด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ก่อนนำมาเก็บตามจุดต่างๆพื้นที่รอยต่อกรุงเทพฯและปริมณฑล เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบจุดอื่นๆด้วย เนื่องจากพบมีบุคคลเกี่ยวข้องนับ 10 คน อีกทั้งยังมีข้อมูลว่ากลุ่มผู้ต้องหามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ เตรียมรวบรวมหลักฐานออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด” พล.ต.ต.พรชัยกล่าวมีรายงานว่าจากการสืบสวนในเชิงลึกพบนายบัณฑิตหรือแวน แจ้งอรุณ อายุ 40 ปี เป็นผู้นำยาเสพติดทั้งหมดมาซุกซ่อนไว้และเป็นเครือข่ายยานรกในย่านนั้น อยู่ระหว่างติดตามตัว ต่อมาในช่วงเย็นทหารสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 1 คนคือนายมงคล หรือเล็ก แจ้งอรุณ อายุ 35 ปี จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 54 ซอยพหลโยธิน 54/1 แยก 8 แขวงสายไหม เขตสายไหม กทม. ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนผู้ต้องหา และในวันที่ 4 ก.ค. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. จะแถลงรายละเอียดอีกครั้งที่ บช.ปส.อีกราย ที่ สน.ทองหล่อ เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. แถลงผลจับกุมนายทรัพย์สิน หรืออาร์ม พลพิพัฒน์ อายุ 23 ปี นายพิริยะ หรือเนม พันธะโคตร์ อายุ 23 ปี นายสุเมธี หรือปิ๊ก เจริญรุ่งรัตน์ อายุ 24 ปี นายภานุวัส หรือเอ็ม แก้วแสน อายุ 23 ปี นายวีราพัชร์ หรือโจ นุตะสิทธิพงศ์ อายุ 21 ปี และน.ส.ธัญพรพรรณ หรือสอง บุญรักษา อายุ 22 ปี ทั้งหมดเป็นสมาชิกแก๊ง “บ้าชะมัด” เครือข่ายผู้ค้ากัญชารายใหญ่ที่ลักลอบจำหน่ายในย่านเอกมัย พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่งห่อหุ้มด้วยกระดาษสีทองแบ่งบรรจุอยู่ในถุงพลาสติก สีเขียวขนาดใหญ่จำนวน 2 ถุง ถุงละ 25 แท่ง รวม 50 แท่ง น้ำหนัก 50 กก. รถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน 3 กจ 4641 กรุงเทพมหานคร รถ จยย.3 คัน และอื่นๆอีกหลายรายการจับกุมได้บริเวณถนนทางเข้า ร.ร.ปทุมคงคา ย่านเอกมัย ก่อนขยายผลจับนายประสงค์ หรือแม็ก แย้มประเสริฐ อายุ 21 ปี พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่งห่อหุ้มกระดาษเงินจำนวน 100 แท่ง น้ำหนัก 100 กก. รถ จยย. ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 2 คัน จับกุมได้ที่บ้านพักกลางซอยเคหะแก้วนิมิตร ตรงข้าม หจก. ป.เรืองศิลป์ ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีสอบสวนพบทั้งหมดทำความผิดในลักษณะนี้หลายครั้ง สั่งซื้อกัญชาจากนายโก (ไม่ทราบชื่อและสกุลจริง) ที่ติดต่อผ่านกลุ่มผู้ค้าจากในเรือนจำ ส่วนเงินที่ได้จากการขายยาเสพติดจะนำไปเที่ยวเตร่และแต่งรถ จยย.ซิ่ง คุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดแยกย้ายไปดำเนินคดีที่ สน.ทองหล่อและ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ตามพื้นที่ปรากฏความผิด
