เสียงปืนชายแดนไทย-กัมพูชา แนวรบแห่งความพินาศย่อยยับสงครามระหว่างไทยและกัมพูชาผ่านเกินกว่า 6 เดือน ถึงปัจจุบันความสงบสุขและสันติภาพยังไร้วี่แวว ทิ้งไว้เพียงคราบเลือด และคราบน้ำตานองผืนแผ่นดินความตึงเครียดปะทุขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อวันที่ 17 ก.พ.2568 ชาวกัมพูชาขึ้นไปร้องเพลงปลุกใจ เพลงชาติ บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ กองกำลังสุรนารีทำหนังสือประท้วง กระทั่งเกิดเหตุปะทะบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี ในเวลาต่อมาลุกลามบานปลายกลายเป็นคลิปเสียงสนทนาเจรจาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา จุดระเบิดทางการเมืองทำนายกรัฐมนตรีหญิงของไทยหมดความเป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 24 ก.ค.2568 เวลา 08.33 น. เกิดการปะทะหลายจุดของจังหวัดชายแดนร้ายแรงสุดตรงที่กัมพูชายิงจรวด BM-21 ตกใส่ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาบ้านผือ ต.เมือง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อยู่ห่างชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 28 กิโลเมตร มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 7 ราย เป็นภาพสะเทือนใจไปทั่วโลก กองทัพอากาศตัดสินใจส่งเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 จำนวน 6 ลำ โจมตีเป้าหมายที่ตั้งอาวุธหนักทหารกัมพูชาที่ใช้อาวุธหนักโจมตีบ้านเรือนคนไทย พร้อมกองทัพบกได้เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” ทั้งทางบกและอากาศ ทำให้เกิดเหตุปะทะต่อเนื่องตลอดแนวชายแดนในหลายจุดสำคัญใน จ.สุรินทร์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ มีกระสุนปืนใหญ่ตกลงพื้นที่พลเรือนตลอดคืน ขยายวงไปยังชายแดนภาคตะวันออกเขต จ.ตราด มีเครื่องบินกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตีพื้นที่เป้าหมายทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือทำลายกองกำลังของกัมพูชา นำไปสู่การร่วมหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาคอาเซียน ได้ข้อสรุปร่วมกันทั้งสองฝ่ายได้แสดงจุดยืนและความตั้งใจที่จะหยุดยิงโดยทันทีตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของคืนวันที่ 28 ก.ค.68 แต่มีการปะทะกันประปรายเพื่อยึดคืนพื้นที่รุกล้ำอธิปไตยไทย ผ่านไปถึงวันที่ 9 ส.ค.2568 กำลังพลปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนวางแนวลวดหนามป้องกันพื้นที่ บริเวณรอยต่อช่องโดนเอาว์-กฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เหยียบกับระเบิดขาขาด ต่อเนื่องหลายรายระหว่างลาดตระเวนแนวชายแดน ทำให้อุณหภูมิความตึงเครียดกลับมาร้อนระอุอีกระลอก แม้มีการประชุมเจบีซี สมัยพิเศษ ที่เกาะกง กัมพูชา หาข้อยุติ แต่ทางกัมพูชาละเมิดข้อตกลงและพยายามบืดเบือนข้อมูลข่าวสารมาตลอด เป็นเหตุให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ประกาศระงับทุกข้อตกลงแบบไม่มีกำหนดสงครามระหว่างไทย-กัมพูชาสร้างความสูญเสียกำลังพลทหารของไทยไปหลายราย บาดเจ็บอีกจำนวนไม่น้อย รวมถึงชีวิตพลเรือน เหล่าทัพได้ส่งแสนยานุภาพเพื่อทำลายล้างคลังแสงของฝ่ายตรงข้ามตลอดจนกาสิโนแก๊งจีนเทาที่ระบุเป็นโกดังเก็บอาวุธพังพินาศในหลายเมืองหลักของกัมพูชา แต่ฝ่ายกัมพูชายังไม่ยอมสิ้นฤทธิ์ระดมโจมตีฝ่ายไทยข้ามไปถึงบ้านเรือนประชาชนจนเกิดความหวาดผวาอพยพกันหลายร้อยครอบครัวรอวันสิ้นเสียงปืนทุกคืนวันที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวงนอนไม่หลับ. น้ำท่วมหาดใหญ่ มหาอุทกภัยครั้งประวัติศาสตร์ในรอบหลายสิบปีกลายเป็นมหาอุทกภัยครั้งใหญ่และรุนแรงมากที่สุดกรมชลประทานระบุว่า มีฝนตกหนักที่สุดในรอบ 300 ปี ในช่วงตั้งแต่วันที่ 19-22 พ.ย.2568 ทำให้เกิดน้ำท่วมสูงครอบคลุมแทบทุกพื้นที่ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนและเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างมาก หลายครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน น้ำท่วมบ้านเรือน ถนน สถานที่สำคัญ ประชาชนหลายพันคนติดค้างอยู่ตามบ้านเรือน ขาดแคลนน้ำและอาหารสาเหตุเกิดมาจากปัจจัยหลายด้านมารวมกัน ตั้งแต่ หาดใหญ่มีภูมิประเทศเป็นที่ราบต่ำ น้ำไหลมารวมกันง่าย แต่ระบายออกสู่ทะเลสาบสงขลายาก น้ำจากพื้นที่สูงรอบเมืองหาดใหญ่ไหลรวมเข้าสู่ “คลองอู่ตะเภา” ทั้งจากเขาคอหงส์ อ.นาหม่อม อ.จะนะ และเทือกเขานครศรีธรรมราช ดังนั้น การไหลมารวมของน้ำจากทุกทิศทางนี้ ทำให้เกิดน้ำท่วมในตัวเมืองหาดใหญ่ สภาพอากาศแปรปรวนและภาวะลานีญา ฝนตกต่อเนื่องหนักกว่าปกติ ปัญหาเรื่องการเตรียมพร้อมและบริหารจัดการน้ำ การแจ้งเตือนภัยทำได้ล่วงหน้า 1-2 วันผ่านระบบ Cell Broadcast ทำให้ประชาชนได้รับข่าวสารเตรียมการอพยพและจัดการช่วยเหลือในภาวะวิกฤติยังไม่เพียงพอ ตามรายงานสถานการณ์ว่า น้ำเข้ามาในพื้นที่หาดใหญ่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจส่งผลกระทบประชาชนร่วม 80,000 คน ขณะที่กลุ่มเปราะบางให้อพยพจากพื้นที่ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวใกล้บ้าน เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สงขลาประกาศยกธงแดงในพื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่ ทั้งหมด 65 ชุมชน พร้อมตัดน้ำตัดไฟเกือบ 100% โดยเฉพาะพื้นที่ที่น้ำท่วมสูง มีท่อประปาขนาดใหญ่แตกหลายจุดในพื้นที่เขตเทศบาลนครหาดใหญ่หลังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีประชาชนอีกหลายพันคนติดค้างอยู่ในบ้าน ไม่สามารถหนีออกจากบ้านตั้งแต่ถูกน้ำท่วมวันแรก ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากยังมีฝนตกหนักเป็นช่วงๆ และมวลน้ำจาก อ.สะเดา จ.สงขลา และอำเภอใกล้เคียงไหลลงพื้นที่หาดใหญ่ เป็นแอ่งกระทะรับน้ำ ภายในตัวเมืองชั้นในหลายพื้นที่ไม่เคยเกิดน้ำท่วมมาเกือบ 50 ปีถือเป็นอุทกภัยทำลายความรู้สึกของชาวหาดใหญ่ที่หนักหนาสาหัสที่สุด เมื่อต้องจมอยู่ในเมืองบาดาลนานหลายวัน.พิษสีกาล้างบางสึกพระชั้นผู้ใหญ่มั่วโลกีย์ปี 2568 ถือเป็นปีแห่งการสึกพระฉาวคาวโลกีย์ ยักยอกเงินวัดไปปรนเปรอสีกา เริ่มจากคดีพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม และเจ้าคณะภาค 14 ทุจริตเงินวัดไปเล่นพนันออนไลน์ ตำรวจส่งสายลับแฝงตัวไปเข้าสืบที่วัด พบหลักฐานความผิดปกติของเงินหมุนเวียนหลายร้อยล้านบาท และเปย์เงินให้ น.ส.อรัญญาวรรณ หรือเก็น วังทะพันธ์ สีกาคนสนิทคอยเติมเงินให้เล่นพนันออนไลน์กว่า 800 ล้านบาท กระทั่งวันที่ 15 พ.ค. ตำรวจ ปปป.ขออนุมัติศาลออกหมายจับเจ้าคุณแย้ม ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานกระทำทุจริต ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ และเบียดบังทรัพย์มาเป็นของตน และหมายจับสีกาเก็นในข้อหาสนับสนุนฯ โดยพระธรรมวชิรานุวัตรเข้ามอบตัวและเปล่งวาจาสึก ส่วน น.ส.อรัญญาวรรณถูกจับคาคอนโดฯที่พัทยา รับว่ารู้จักเจ้าคุณแย้มตั้งแต่เรียนอยู่ ร.ร.วัดไร่ขิง กระทั่งปี 2564 ขอยืมเงิน 40 ล้านบาทไปลงทุน จากนั้นได้โทร.คุยและวิดีโอคอลเซ็กส์โฟนกันเป็นประจำ และในโทรศัพท์มือถือของสมีแย้มก็มีคลิปสยิวสีกาเก็นโชว์เรือนร่างขณะอาบน้ำ คดีนี้เป็นปฐมบทให้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเงินบริจาคป้องกันการทุจริตถัดมาเกิดกรณีจักรวาลสีกากอล์ฟ มีพระชั้นผู้ใหญ่เกี่ยวพันกว่าสิบรูป เริ่มจากวันที่ 29 มิ.ย. พระเทพวชิรปาโมกข์ หรือเจ้าคุณอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพวรวิหาร กทม. สึกฟ้าผ่าที่วัดจันทร์สามัคคี จ.หนองคาย หลังถูก น.ส.วิลาวัลย์ เอมสวัสดิ์ หรือสีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี กุเรื่องว่าตั้งท้องขอค่าเลี้ยงดูลูก 7.6 ล้านบาท แต่ไม่เป็นผล จึงนำคลิปลับขณะอยู่ด้วยกันสองต่อสองในโรงแรมไปฟ้องพระผู้ใหญ่ ต่อมาตำรวจเข้าค้นบ้านสีกากอล์ฟ ยึดโทรศัพท์มือถือไปตรวจสอบ พบภาพและคลิปความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพระชั้นผู้ใหญ่จำนวนมาก ร้อนฉ่าไปทั่ววงการสงฆ์ ส่งผลให้พระหลายรูปทยอยลาสิกขา บางรายพบเส้นเงินโอนจากบัญชีวัดและเงินส่วนตัวไปให้สีกากอล์ฟตั้งแต่หลักแสนถึงหลายสิบล้านบาท มีทั้งสมัครใจและถูกแบล็กเมล์ ถูกดำเนินคดีข้อหาเป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์ฯ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ขณะที่สีกากอล์ฟถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาสนับสนุนฯ ฟอกเงิน และรับของโจร จากการตรวจสอบบัญชีย้อนหลังพบเงินหมุนเวียนหลายร้อยล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเล่นเว็บพนันสำหรับพระสงฆ์ที่พัวพันกับสีกากอล์ฟจนต้องลาสิกขามี 13 รูป ประกอบด้วย พระเทพวชิรปาโมกข์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ พระเทพวชิรธีราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี พระเทพวชิรธีรคุณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กทม. พระเทพ วัชรสิทธิเมธี เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา พระเทพปวรเมธี หรือเจ้าคุณประสิทธิ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส กทม. พระราชรัตนสุธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร กทม. พระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม จ.ฉะเชิงเทรา พระครูศรีรัตนวิเชียร หรือพระมหายอดเพชร เจ้าอาวาสวัดท่าบัวทอง จ.พิจิตร พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ พระวัดใหม่ ยายแป้น กทม. พระมหาทิวากร ดีไพร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท จ.สมุทรสาคร และพระปลัดสุรพล อิทธิเตโช เจ้าอาวาสวัดพรหมเกษร จ.พิษณุโลก อีกรายเป็นเรื่องฉาวของพระธรรมวชิรธีรคุณ (สฤษดิ์ สิริธโร) เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ โดยศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธ ศาสนาและส่งเสริมพระธรรมวินัย บช.ก. ได้รับเรื่องร้องเรียนพระผู้ใหญ่ภาคเหนือตอนล่างมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา นำเงินบริจาคสร้างศาสนสถานไปใช้จ่ายส่วนตัว ต่อมาวันที่ 18 ก.ค. พระธรรมวชิรธีรคุณได้ทำหนังสือลาออกทุกตำแหน่ง แล้วลาสิกขา อ้างปัญหาสุขภาพ แต่การสืบสวนพบหลักฐานแชตและภาพบ่งชี้ความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ น.ส.ภูธินี กวินพิศาล หรือสีกาน้ำหวาน เศรษฐินี วัย 57 ปี อาทิภาพหน้าจอมือถือขณะวิดีโอคอลคุยกัน หรือภาพถ่ายคู่ในห้องตาม ลำพัง โดยฝ่ายชายแต่งกายฆราวาส สวมวิกผม เขียนคิ้ว อิงแอบกับฝ่ายหญิง ซึ่งทั้งคู่อยู่กันฉันสามีภรรยามานานกว่า 15 ปี สาเหตุที่เรื่องแดงเพราะสีกาน้ำหวานจับได้ว่าพระธรรมวชิรธีรคุณติดพันสีกาอีกคน บานปลายนำไปสู่การตรวจสอบเส้นทางการเงินโครงการพุทธอุทยาน กระทั่งสมีสฤษดิ์ถูกจับกุมข้อหาเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ขณะที่สีกาน้ำหวานถูกจับฐานสนับสนุนฯนอกจากนี้ ยังมีคดีทุจริตเงินวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี วัดดังที่ช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์มาหลายสิบปี กรณีนี้ไม่เกี่ยวกับสีกา แต่เป็นการทุจริตเงินบริจาค โดยมีผู้ร้องเรียนว่านายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือหมอบี มีพฤติการณ์ทุจริตเงินบริจาค เปิดเพจ “งมงาย สไตล์หมอบี” อ้างเป็นสะพานบุญนำเงินส่งให้วัดพระบาท น้ำพุ เพื่อส่งมอบให้พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ นำไปใช้ช่วยผู้ป่วยเอดส์และกิจการของวัด เมื่อตำรวจตรวจสอบบัญชี “ใจฟ้าอาทรประชานาถ” พบเงินบริจาคช่วงปี 2562-2568 รวมกว่า 300 ล้านบาท และหลวงพ่ออลงกตรับเงินบริจาคจริงแต่ไม่ได้นำเข้าบัญชีวัด กระทั่งวันที่ 28 ส.ค. ตำรวจจับกุมหลวงพ่ออลงกตในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่ ยักยอกเงินวัด ฟอกเงิน ฯลฯ เจ้าตัวยอมลาสิกขา พร้อมจับกุมหมอบีในฐานะผู้สนับสนุนฯ มีการยึดทรัพย์จำนวนมากทั้งรถยนต์ เงินสด เช็ค โฉนดที่ดิน. แผ่นดินไหวเขย่ากทม.ตึกสตง.ถล่มทับ95ศพเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งประวัติศาสตร์ของไทยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มี.ค. แผ่นดินไหวขนาด 8.2 ศูนย์กลางที่เมืองลอยกอ ประเทศเมียนมา ส่งแรงสั่นสะเทือนถึงไทยหนักที่สุดในรอบ 100 ปี มี 63 จังหวัดรับรู้แรงสั่นสะเทือน ทำให้บ้านเรือน วัด โรงเรียน โรงพยาบาล อาคาร สถานที่ราชการ ใน 18 จังหวัดได้รับความเสียหาย หนักที่สุดคือ กทม. อาคารสูงหลายแห่งสั่นไหว เกิดรอยร้าว โคมไฟแกว่ง เก้าอี้โยก ผู้คนวิ่งหนีตายลงมาด้วยความตื่นตระหนก ทางด่วนและถนนหลายสายถูกเขย่าจนรถต้องหยุดจอด บรรยากาศในเมืองเต็มไปด้วยความโกลาหล แตกตื่นขวัญผวา แรงสั่นสะเทือนรุนแรงครั้งนี้ทำให้อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ บนถนนกำแพงเพชร 2 ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างโดยกิจการร่วมค้าไอทีดี-ซีอาร์อีซี พังถล่มทั้งหลังอย่างฉับพลัน แรงงานไทยและแรงงานพม่านับร้อยคนถูกทับอยู่ใต้ซากตึก การค้นหาผู้รอดชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะซากคอนกรีตกองพะเนิน หลังภารกิจกู้ภัยยืดเยื้อ 44 วัน พบผู้เสียชีวิต 95 ราย ถือเป็นความสูญเสียรุนแรงที่สุดในไทยจากการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว เหตุตึก สตง.ถล่มนำไปสู่การสืบสวนครั้งใหญ่ พบมีการแก้ไขแบบโดยไม่ได้รับอนุญาต ผนังปล่องลิฟต์บางลง ไม่สมมาตร ส่งผลต่อการต้านทานแรงเฉือนและบิดตัวรุนแรงจนวิบัติ ทั้งยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับคอนกรีตและเหล็กที่ใช้ ดำเนินคดีทั้งบริษัทเอกชน ผู้บริหารองค์กรอิสระ และบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ในข้อหานอมินี ฮั้วประมูล ใช้วัสดุไม่ได้มาตรฐาน และก่อสร้างผิดหลักวิศวกรรม.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่