วันนี้ (วันอังคารที่ 9 ธันวาคม 2568) จะมีพิธีเปิดการแข่งขันกีฬา “ซีเกมส์ ครั้งที่ 33” ที่ประเทศไทยกลับมาเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ถนนรามคำแหง ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในพิธี ซึ่งจะเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 19.00 น. จนถึง 21.00 น.เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ หรือ South–East Asian Games นั้น พัฒนามาจาก “กีฬาแหลมทอง” หรือ South-East Asian Peninsular Games ที่เรียกย่อๆว่า SEAP GAME หรือ เซียพเกมส์ นั่นเองที่สำคัญ แนวความคิดที่จะให้มีการแข่งขันกีฬาขึ้นในกลุ่มประเทศในแหลมทองทั้งหลายที่ว่านี้ ริเริ่มขึ้นโดยตัวแทนประเทศไทยเรานี่แหละที่ไปชักชวนตัวแทนประเทศอื่นๆจากแหลมทองในระหว่างการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่ญี่ปุ่นเมื่อ พ.ศ.2501ตัวแทนของ 6 ประเทศ อันได้แก่ ไทย, มาเลเซีย (พ.ศ.นั้นยังเรียกว่า มลายา), เวียดนามใต้, ราชอาณาจักรลาว, พม่า และกัมพูชา ได้ตกลงกันจัดตั้ง สหพันธ์กีฬาแหลมทอง ขึ้นพร้อมทั้งมีมติให้ ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพการแข่งขันครั้งแรก ณ กรุงเทพมหานครในปลายปี 2502 หรือปีถัดไปในทันทีไทยแลนด์ ซึ่งพร้อมอยู่แล้ว จึงประกาศกำหนดการแข่งขันกีฬา เซียพเกมส์ ครั้งที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 12-17 ธันวาคม พ.ศ.2502 รวม 7 วันอย่างรวดเร็วและจัดได้ยิ่งใหญ่อย่างเหลือเชื่อ ผลสรุปของการแข่งขันกีฬาแหลมทองครั้งที่ 1 เป็นไปตามเป้าหมายที่ประเทศไทยตั้งไว้ โดย ประเทศไทย สามารถคว้าเหรียญทองมาได้มากสุดถึง 35 เหรียญทอง ตามมาด้วย พม่า เป็นอันดับ 2 รวม 11 เหรียญทองและ มาลายา อันดับ 3 ได้ 8 เหรียญทองนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยใน พ.ศ.ดังกล่าว ได้แก่ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งนอกจากจะเน้นการพัฒนาด้านกีฬาแล้วยังให้ความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศไทยในทุกๆด้าน พ.ศ.2502 ถือเป็นช่วงของการจัดเตรียมแผน พัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติฉบับที่ 1 ระดมนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของยุค เช่น ม.ล.เดช สนิทวงศ์, นายฉลอง บึงตระกูล, ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์, คุณหญิงสุภาพ ยศสุนทร ฯลฯ ร่วมกับ ธนาคารโลก จัดทำ แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 1 ประกาศใช้เป็นคู่มืิอในการพัฒนาประเทศ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2504 ในอีก 2 ปีถัดมาจะเห็นได้ว่าการเริ่มออกสตาร์ตเพื่อ พัฒนาประเทศไทย ของเรานั้น เริ่มขึ้นพร้อมๆกับการพัฒนาด้านกีฬาด้วยการขันอาสาเป็น เจ้าภาพกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 1 นั่นเองต่อมาใน พ.ศ.2520 หรือ ค.ศ.1977 ในการแข่งขัน เซียพเกมส์ ครั้งที่ 9 ซึ่งประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ ก็ได้มีการเพิ่มจำนวนสมาชิกประเทศขยายออกจากแหลมทองสู่ท้องทะเล พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น เซาท์อีสท์ เอเชียนเกมส์ เรียกย่อๆ ว่า “SEA Games” ได้ อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และ บรูไน มาเป็นสมาชิกใหม่โดยให้นับจำนวนครั้งต่อไปจากกีฬาเซียพเกมส์เลยไม่ต้องเริ่มนับ 1 ใหม่ เพื่อเป็นเกียรติแก่กีฬาแหลมทองต้นตำรับผลัดกันเป็นเจ้าภาพแบบ 2 ปีครั้ง เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันในแง่การพัฒนาประเทศ ปรากฏว่าประเทศไทยของเราทำได้ดีมากในช่วงต้นๆ จนสามารถก้าวพ้นจากประเทศกำลังพัฒนามาสู่ประเทศรายได้ปานกลางขั้นสูงในที่สุดแต่ก็น่าเสียดายที่เผชิญหลายๆปัญหาในช่วงหลังๆจนอัตราความเจริญเติบโตของ GDP ต่ำเตี้ยลงดังเช่นปัจจุบัน ทำให้ เวียดนาม ซึ่งเคยแบ่งเป็นใต้-เหนือ และกลับมารวมตัวกันเป็นหนึ่ง พุ่งขึ้นมาเป็นดาวรุ่งเทียบรัศมีไทยทั้งด้านเศรษฐกิจและการกีฬาโดยเฉพาะการกีฬา 2 ครั้งหลังสุดของซีเกมส์ เวียดนามคว้าเจ้าเหรียญทองไปครองได้อย่างสง่าผ่าเผยซีเกมส์ปีนี้ จึงเป็นโอกาสที่เราจะแก้ตัวทวงตำแหน่งเจ้าเหรียญทองกลับคืนมาอีกครั้งเลิกทะเลาะกัน (ทุกเรื่อง) ชั่วขณะนะครับ หันมาเชียร์ทัพ นักกีฬาไทยของเราให้เป็น “เจ้าเหรียญทอง” อีกครั้ง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 20 ธันวาคมโน่นเลยครับ."ซูม"คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม