อุทกภัยยังวิกฤติ ที่พิษณุโลกแม่น้ำยมทะลักท่วมบางระกำซ้ำเติมน้ำเก่า ที่ท่วมขังซ้ำซากมานาน ด้านกรมชลประทานปล่อยน้ำเจ้าพระยาเข้าคลองชัยนาท-ป่าสักเข้าลพบุรี เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์จังหวัดท้ายเขื่อน ชาวนาอ่างทองโอดน้ำท่วมปริ่มรวงข้าวใกล้เก็บเกี่ยวจำใจนั่งดูข้าวเน่าตายไปกับตา ชาวสามโคก ปทุมธานี ผวาปลิงควายระบาดดูดเลือด ส่วนที่นนทบุรีน้ำท่วมบ้าน ยายวัย 83 ป่วยพลัดตกเตียงจมน้ำดับสลดน้ำท่วมยังไม่คลี่คลาย สถานการณ์เมื่อวันที่ 15 พ.ย. แม่น้ำยมในพื้นที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่ที่น้ำท่วมขังอยู่เดิมในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำยมใน ต.คุยม่วง ต.ชุมแสงสงคราม ต.ท่านางงาม ต.บางระกำ ต.หนองกุลา ต.บึงกอก และ ต.วังอิทก อ.บางระกำ ได้รับความเดือดร้อนหนัก เจ้าหน้าที่โครงการชลประทานพิษณุโลก อำเภอบางระกำและผู้นำท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เพื่อให้เตรียมพร้อมรับปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นที่ จ.สุโขทัย พระครูปลัดธนะโรจน์ ปญฺญาวชิโร (พระอาจารย์หมู) เจ้าอาวาสวัดหนองทอง ต.บ้านสวน อ.เมืองสุโขทัย นำอาหารน้ำดื่มและขนมไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยบ้านคลองยาง หมู่ 7 ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย ที่ถูกน้ำท่วมหลายครอบครัว มีเด็กๆมารอรับขนมด้วยความดีใจ ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณถนนด้านหน้าโรงพยาบาลสุโขทัย ล่าสุดน้ำลดกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วส่วนสถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มทรงตัวและเริ่มลดลงเล็กน้อย ล่าสุดปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ อยู่ที่ 2,971 ลบ.ม./วินาที เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ปรับลดการระบายน้ำที่ 2,860 ลบ.ม./วินาที เพื่อลดผลกระทบด้านท้ายเขื่อน อีกทั้งกรมชลประทานบริหารจัดการน้ำเพื่อลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา โดยรับน้ำเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก ผ่านประตูระบายน้ำมโนรมย์ อ.มโนรมย์ ประมาณ 250 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองชัยนาท-ป่าสัก เพิ่มขึ้น 20-30 ซม. เจ้าหน้าที่แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ ต.วัดโคก ต.หางน้ำสาคร ต.อู่ตะเภา อ.มโนรมย์ ต.เสือโฮก อ.เมืองชัยนาท และพื้นที่ริมคลอง อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ อ.บ้านหมี่ อ.โคกสำโรง อ.เมืองลพบุรี อ.หนองโดน อ.พระพุทธบาท อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี และ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา รวมระยะทาง 134 กม. ขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณประตูระบายน้ำมโนรมย์ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามโนรมย์ ต.วัดโคก อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท พบว่าเจ้าหน้าที่ติดธงแดงแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำท่วมระดับวิกฤติ ขณะที่พื้นที่ตลอดแนวคลองชัยนาท-ป่าสัก ต.อู่ตะเภา ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น บ้านเรือนประชาชนสถานที่ราชการและพื้นที่เกษตรถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะเนรมิตคาเฟ่ ร้านอาหารและที่พักชื่อดังที่มีรถไฟจิ๋วให้บริการ ต้องปิดโซนที่พักและรถไฟจิ๋วชั่วคราว ส่วนร้านอาหารยังให้บริการปกติ นายอรชุน ช่างประดับ นายก อบต.อู่ตะเภา กล่าวว่า ที่ผ่านมาประตูระบายมโนรมย์ไม่เคยเปิดน้ำมากเท่าปีนี้ที่ระบายถึง 250 ลบ.ม./วินาที ทำให้น้ำท่วม ต.อู่ตะเภา อบต.ร่วมกับกำนันผู้ใหญ่บ้านเข้าช่วยเหลือชาวบ้านและเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชม. ขณะที่ผลพวงการระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำมโนรมย์ซึ่งเป็นพื้นที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยาเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก รวมถึงการระบายน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาทางประตูน้ำบางโฉมศรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ลงแม่น้ำบางขามและประตูระบายน้ำมหาราช ต.ม่วงหมู่ อ.เมืองสิงห์บุรี ลงแม่น้ำลพบุรีที่อยู่ทางฝั่งขวาของคลองชัยนาท-ป่าสักเพื่อระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วยลดผลกระทบพื้นที่เหนือเขื่อนและจังหวัดด้านท้ายเขื่อน ส่งผลให้น้ำไหลท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรใน 3 อำเภอของ จ.ลพบุรี คือ อ.บ้านหมี่ อ.เมืองลพบุรี และ อ.ท่าวุ้ง โดยเฉพาะ ต.พุคา อ.บ้านหมี่ ขณะนี้ชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวแล้วสามารถใช้เป็นแก้มลิงรองรับน้ำเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยาส่วนที่ จ.สิงห์บุรี แม่น้ำเจ้าพระยาซัดพนังกั้นน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.โรงช้าง อ.พรหมบุรี ได้รับความเดือดร้อนกว่า 200 หลังคาเรือน เช่นเดียวกับ อ.อินทร์บุรี น้ำท่วมขยายวงกว้างเข้าท่วมโรงพัก สภ.อินทร์บุรี ตำรวจต้องย้ายที่ทำการชั่วคราวมาอยู่ในวิทยาลัยการอาชีพอินทร์บุรี แต่การปฏิบัติหน้าที่เกิดปัญหา เนื่องจากน้ำท่วมสูงและไม่มีเรือในการขนย้ายเอกสารและบริการประชาชนจ.อ่างทอง ชาวนาใน ต.หลักแก้ว อ.วิเศษชัยชาญ อยู่ในอาการเครียดหลังน้ำไหลท่วมต้นข้าวที่เหลืออีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ก็จะเก็บเกี่ยวได้แล้ว นางอารมณ์ เพิ่งเจริญ อายุ 68 ปี เปิดเผยว่า ปีนี้ชาวนาเดือดร้อนมาก เพราะนอกจากราคาข้าวจะตกต่ำอย่างหนักแล้วยังมาเจอน้ำท่วมซ้ำ ตอนนี้น้ำไหลเต็มทุ่งเกือบมิดรวงข้าว ทั้งที่อีกไม่กี่วันก็จะเกี่ยวได้แล้ว ต้นทุนที่ลงทุนลงแรงไปทั้งหมดทั้งค่าพันธุ์ข้าว ค่าปุ๋ย ค่ายาและค่าน้ำมันต้องพังทลายลงหมด ตอนแรกจะจ้างรถแบ็กโฮมาขุดดินคันล้อมนาข้าวแล้วสูบน้ำออก แต่คิดว่าคงไม่คุ้ม เพราะข้าวเปียกน้ำความชื้นสูงจะโดนกดราคา ต้องจำใจนั่งดูข้าวจมน้ำเสียหายไปกับตาส่วน จ.ปทุมธานี แม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อท่วมบริเวณหน้าวัดไก่เตี้ย หมู่ 1 ต.กระแชง อ.สามโคก ชาวบ้านที่อาศัยตามริมแม่น้ำได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างหนัก อีกทั้งยังต้องระวังปลิงควายตัวใหญ่ที่มากับน้ำคอยดูเลือด เช่นเดียวกับชาวบ้านหมู่ 3 และหมู่ 4 ต.บ้านฉาง อ.เมืองปทุมธานี ถูกน้ำท่วมมานาน โดยเฉพาะชาวชุมชนเกาะลอย หมู่ 4 ต.บ้านฉาง ได้รับความเดือดร้อนกว่า 150 หลังคาเรือน ที่ จ.นนทบุรี เกิดเหตุสลดหญิงชราพลัดตกเตียงจมน้ำเสียชีวิตในบ้านที่ถูกน้ำท่วมขังภายในเลขที่ 70/1 ชุมชนหลังวัดตึก หมู่ 4 ต.บางไผ่ อ.เมืองนนทบุรี หลังเกิดเหตุ ร.ต.ท.หญิงพิมพ์นิภา ทองไชย รอง สว. (สอบสวน) สภ.บางศรีเมือง ไปตรวจสอบทราบชื่อนางอดิพรรณ ประจวบเหมาะ อายุ 83 ปี นายปิติพงษ์ อายุ 49 ปี ลูกชายผู้ตายเปิดเผยว่าอาศัยอยู่กับแม่ 2 คน แม่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ทุกเช้าหลังป้อนข้าวแม่เสร็จได้ออกไปทำงาน กลับเข้าบ้านเห็นแม่นอนคว่ำหน้าอยู่ในน้ำสูงประมาณ 50 ซม. มีวอล์กเกอร์จมน้ำอยู่ข้างตัวรีบอุ้มขึ้นมาไว้บนเตียงพบแม่สิ้นใจแล้ว อย่างไรก็ตามที่บ้านอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาโดนน้ำท่วมมานานกว่า 2 เดือนแล้วเวลา 17.00 น. วันที่ 15 พ.ย. กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ ฉบับที่ 2 เรื่องอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศ ไทยตอนบน ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยว่า ช่วงวันที่ 1-23 พ.ย. ประเทศ ไทยตอนบนจะมีอากาศแปรปรวน โดยจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ในระยะแรก เริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงและมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออก เฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 4-7 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ เนื่องจากมรสุมตะวันออก เฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตรส่วนทะเล อันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสมอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่