“ฝากรัฐบาลในเรื่องสิ่งแวดล้อม ...ปัญหาสิ่งแวดล้อมเร่งด่วนของประเทศไทยที่ประชาชนกำลังรอความหวังจากรัฐบาล 4 เดือน” อาจารย์สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อม เปิดประเด็น พร้อมย้ำว่า“การแก้ไขปัญหาสารโลหะหนักปนเปื้อนทั้งสารหนูและสารตะกั่วในลำน้ำกกและลำน้ำแม่สาย จ.เชียงราย ที่มาจากการทำเหมืองแร่ฝั่งเพื่อนบ้านก่อให้เกิดการปนเปื้อนในแหล่งน้ำและสัตว์น้ำรวมทั้งพืชผลทางการเกษตรที่ต้องใช้น้ำมาหล่อเลี้ยง ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมจากรัฐบาล?”ถัดมา...“ฝุ่น PM 2.5” ที่จะกลับมาอาละวาดอีกครั้งหนึ่งในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีนี้ถึงเดือนมีนาคมปีหน้า ทั้งในเขตเมืองและชนบท ซึ่งประชาชนเฝ้ารอการคลอดของกฎหมาย พ.ร.บ.อากาศสะอาดซึ่งได้ผ่านวาระ 1 ของสภาผู้แทนไปแล้วถึงวันนี้ได้เข้าสู่การพิจารณาวาระ 2 และ 3 ในสภาผู้แทนแต่...มีความขัดแย้งกันอยู่ค่อนข้างมาก หากใช้ไม่ทันในปีนี้ก็ถือว่าล้มเหลว “...เป็นกฎหมายที่รีบทำ...แต่ไม่รีบเสร็จ”สาม...โรงงานสีเทาจากอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญที่เกิดจากจีนเทาบวกไทยเทารวมทั้งข้าราชการเทา ทำให้เกิดโรงงานประเภทคัดแยกและรีไซเคิลกากอุตสาหกรรมมาตั้งอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมทั้งจังหวัดสมุทรสาครจำนวนมาก ส่วนใหญ่ใช้วิธีการขออนุญาตก่อสร้างจากท้องถิ่นเพื่อสร้างเป็นโกดังเก็บของและ...ค่อยมาขออนุญาตเป็นโรงงานอีกครั้งหนึ่ง เมื่อได้รับอนุญาตแล้วก็จะนำกากอุตสาหกรรมที่เหลือจากการผลิตแอบทิ้งและฝังไว้ในพื้นที่โรงงานและส่งต่อไปกำจัดแบบผิดกฎหมาย ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรมส่งทีมไปตรวจจับแต่พื้นที่ท้องถิ่นส่วนใหญ่กลับอ้างไม่รู้ทั้งๆที่โรงงานหรือโกดังดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่ตนเอง ทุกวันนี้ประชาชนกำลังรอกฎหมาย พ.ร.บ.โรงงานฉบับใหม่ซึ่งได้ผ่านวาระหนึ่งของสภาผู้แทนไปแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการปรับแก้ของกรรมาธิการวิสามัญโดยเร่งให้เสร็จและนำเข้าสภาเพื่อให้ผ่านวาระ 2-3 รวมทั้งให้ สว.พิจารณาเพื่อให้กฎหมายคลอดออกมาภายใน4 เดือนจะได้นำมาใช้แก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เด็ดขาดต่อไป“รัฐบาลต้องผลักดัน...มิฉะนั้นจะแก้ปัญหาได้ยาก...โรงงานโจรจะเต็มเมือง”สี่...ภัยพิบัติธรรมชาติที่เกิดจากพายุ ฝนตก น้ำท่วม ดินถล่ม หลุมยุบ แผ่นดินไหว เป็นต้น อันเนื่องมาจากภาวะโลกที่ร้อนขึ้น สิ่งที่ประชาชนเฝ้ารอคือแผนที่แสดงจุดเสี่ยงของแต่ละจังหวัด แผนแจ้งเตือนภัย แผนเผชิญเหตุ แผนการอพยพและแผนการฟื้นฟู ซึ่งเป็นสิ่งที่ “รัฐบาล” ต้องทำให้เกิดขึ้นใน “ทุกจังหวัด”เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติมากนักหลายแห่งที่ประชาชนถูกน้ำท่วมกำลังรอการแก้ไขปัญหาให้น้ำลดลงและค่าชดเชยที่เป็นธรรมแต่คาดว่าคงอีกนาน...ทุกวันนี้ประชาชนบางส่วนเริ่มฟังคำทำนายจากหมอดูเป็นหลักและกรมอุตุนิยมวิทยาเป็นรอง... แถมรัฐบาลยังเชื่องช้าอีก?ห้า...“ขยะชุมชน” ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศซึ่งมีถึงปีละ 26.7 ล้านตัน กำจัดได้ถูกต้องเพียงแค่ 7.2 ล้านตัน มีกองขยะชุมชนที่นำไปเทกองเป็นภูเขาทั่วประเทศเกือบ 2,000 แห่ง ฤดูร้อนเกิดไฟไหม้ ฤดูฝนเกิดน้ำท่วม ส่วนฤดูหนาวส่งกลิ่นเหม็นทั้งแมลงและสัตว์แทะรบกวนชุมชนใกล้เคียงเห็นได้ชัดคือกองภูเขาขยะที่ชุมชนแพรกษา จ.สมุทร ปราการ ถึงวันนี้ยังไม่มีแผนการจัดการที่ชัดเจนในการที่จะลดกองขยะดังกล่าว แต่กลับมีกองขยะที่ผิดกฎหมายเกิดขึ้นทั่วประเทศซึ่งไม่ใช่เป็นการจัดการที่ถูกหลักสุขาภิบาลเหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว... หก...พื้นที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออก ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทราประกาศเป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีนักลงทุนเข้ามาจำนวนมากก็จริง แต่ที่ผ่านมาการพัฒนาดังกล่าวกลับล้มเหลวในด้านการป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่อย่างสิ้นเชิงเนื่องจากมีทั้งการทิ้ง “กากอุตสาหกรรม” ในพื้นที่และการปล่อย “มลพิษสู่สิ่งแวดล้อม” รวมทั้งการเกิดไฟไหม้ปล่อยสารเคมีบ่อยครั้งมาก...สิ่งที่ตามมาคือประชาชนในพื้นที่ป่วยเป็นโรคที่เกิดจากสารเคมีและสารโลหะหนักมากที่สุดในประเทศไทยขณะที่ประชาชนจังหวัดปราจีนบุรีได้ออกประกาศว่า ไม่ขอเข้าร่วมเป็น “พื้นที่ EEC” ประชาชนชาวจังหวัดปราจีนบุรีไม่ใช่น้อยๆได้ออกแถลงการณ์ยืนยันชัดเจนว่า “ไม่ขอเข้าร่วมเป็นพื้นที่ EEC” เพราะบทเรียนจากสามจังหวัดเพื่อนบ้านคือสิ่งที่ “เห็นแล้วเจ็บปวด” หากเปิดรับอุตสาหกรรมหนักแบบเดียวกัน สิ่งที่ตามมาคือการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่มีวันทดแทนได้ ภาคประชาชนย้ำชัด... “เราต้องการการพัฒนา...แต่ต้องไม่ทำลายชีวิตและสิ่งแวดล้อมของคนในพื้นที่”เจ็ด...ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในระบบการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม สำหรับโครงการขนาดใหญ่ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่เจ้าของโครงการและที่ปรึกษาเป็นผู้จัดเวทีรับฟังความเห็น โดยเชิญประชาชนและผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมเวที...เกิดปัญหาคนเห็นด้วยอยู่ในห้องส่วนคนไม่เห็นด้วยอยู่นอกห้อง ขณะที่หน่วยงานราชการพิจารณาจากรายงานที่เจ้าของโครงการและที่ปรึกษานำเสนอ...ไม่ได้ทราบปัญหาที่แท้จริงในพื้นที่...โครงการผ่านการเห็นชอบอนุมัติแต่ประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ไม่เห็นด้วยระบบขาดความน่าเชื่อถือ...โครงการแลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพรประเทศไทยในวันนี้ไม่ได้ขาดกฎหมาย ไม่ได้ขาดเทคโนโลยี แต่ขาดเจตจำนงทางการเมืองที่จะลงมือทำอย่างจริงจัง อย่าปล่อยให้ประเทศนี้สะอาดเฉพาะในคำพูด...แต่สกปรกในความจริง.คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม