เรื่องจริงเรื่องนี้เกิดขึ้นในสมัยซุนชิว 227 ปีก่อนพุทธศักราชถึง พ.ศ.67 ครับ เล่าขานต่อๆกันมา หงอิ้งหมิง คนสมัยราชวงศ์ หมิง บันทึกไว้ว่าเป็นนิทาน ใครอ่านแล้วก็ควรอ่านอีก ใครไม่เคยอ่านก็ควรรีบอ่านพระเอกของเรื่อง ชื่อเมิ่งฉางชุน เป็นพ่อค้าร่ำรวยมหาศาล ร่ำรวยทั้งทรัพย์สินเงินทอง ร่ำรวยทั้งข้าทาสบริวาร แถมยังร่ำรวยด้วยอำนาจ เมื่อท่านอ๋องแคว้นฉีแต่งตั้งให้เป็นเสนาบดีในสามความร่ำรวยนั้น เรื่องราวของความร่ำรวยบริวารของเมิ่งฉางชุนเป็นแบบอย่างให้เจ้าสัวสมัยนี้ตาม เล่าลือกันว่ามีคนจำนวนมาก มากกว่าสามพันคนเข้าไปพึ่งพาอาศัยกินอยู่หลับนอนในบ้านคนเหล่านั้นหลายคนช่วยให้ความเห็นดีๆ ให้เอาไปบริหารงานรับใช้อ๋องแคว้นฉี นับวันบารมีเขาก็ยิ่งเพิ่มพูนแต่ชื่อเสียงด้านเลี้ยงคนเก่งคนดีไว้มากๆนี่เอง กลับกลายเป็นหอกข้างแคร่...มีคนอิจฉาไปบอกท่านอ๋องบ่อยๆครั้ง อ๋องแคว้นฉีก็ระแวงเมิ่งฉางชุนจะเข้ามาแย่งบัลลังก์ สั่งปลดเมิ่งฉางชุนจากทุกตำแหน่งทันทีที่เมิ่งฉางชุนหมดอำนาจ ผู้คนสามพันคนที่กินฟรีอยู่ฟรีในบ้านเป็นแรมปี ก็แสดงอาการค่อยๆทยอยลาจากไปทีละคนสองคนคนที่เมิ่งฉางชุนคิดว่าเก่งๆดีๆนั้น หนีหน้าจากเขาไปจนเหลือคนสุดท้าย ชื่อเฝิงฉวนตอนมา...มาขออยู่ด้วย เฝิงฉวนไม่แสดงตัวเก่งทางไหน แต่กล้าออกปาก ขอกินดี อยู่ดี กล้าขอกระทั่งรถม้าประจำตำแหน่ง...แต่คนใจกว้างอย่างเมิ่งฉางชุนก็...จัดให้แล้วก็ในวันนั้น เฝิงฉวนจึงแสดงความฉลาดลึกซึ้ง เสนออุบายหลายๆประการ เริ่มแต่สร้างกระแสให้คนแคว้นฉี กระทั่งท่านอ๋อง เข้าใจว่า เมิ่งฉางชุนเป็นเสาค้ำสำคัญที่แคว้นฉีจะขาดไม่ได้ไม่ช้า อ๋องแคว้นฉีเรียกเมิ่งฉางชุนกลับราชสำนัก คืนยศถาบรรดาศักดิ์เดิมให้หมดแล้วเรื่องที่เมิ่งฉางชุนคิดไม่ถึงก็ตามมา คนสามพันคนที่เคยหนีหน้าก็ทยอยกันเข้ามาขอพึ่งพิงอีกเมิ่งฉางชุน คนใจกว้าง แต่ก็ยังเป็นปุถุชน โกรธเป็นแค้นเป็น เขาระเบิดวาจา “พวกท่านยังจะมีหน้ามาพบข้าพเจ้าอีก?” แล้วก็ผลักไสไล่ส่งคนแรก แต่ก็ยังมีคนที่ตากหน้าเข้ามาเรื่อยๆสถานการณ์หัวเลี้ยวหัวต่อนี้ ก็มีแต่เฝิงฉวนอีกนั่นเองที่ออกปากเตือน“ผู้สูงศักดิ์เพื่อนฝูงบริวารก็ย่อมมาก คนยากจนเพื่อนฝูงก็ย่อมน้อย เป็นสิ่งธรรมดา ท่านไม่เคยเห็นผู้คนจอแจอยู่ในตลาดหรือ? ตอนเช้าตลาดมีสินค้าที่ต้องการมาก ก็เบียดเสียดกันยื้อแย่ง ด้วยเกรงว่าถ้าช้าจะซื้อของไม่ได้พอพลบค่ำ ในตลาดไม่มีของที่ต้องการอีก ใครผู้ใดจะยังไปยัดเยียดอยู่ในตลาดอีกเล่าธรรมดาสามัญของวิสัยมนุษย์เช่นนี้ พวกคนที่เคยพึ่งพาอาศัยท่าน ก็เป็นมนุษย์เช่นนั้น จึงไม่ควรไปโทษพวกเขา ข้าอยากจะใคร่ขอให้ท่านปฏิบัติต่อพวกเขาดังเช่นในอดีต จะเกิดประโยชน์แก่ท่าน เช่นเดียวกับที่แล้วๆมา”เมิ่งฉางชุนตั้งสติได้ยกมือประสานขอบใจ เมิ่งฉางชุนหันหน้าไปต้อนรับ ปฏิบัติต่อบริวารเก่าเหมือนเดิมจบเรื่องเล่าเรื่องนี้ หงอิ้งหมิงนิยามบทสรุปเป็นคำสอนคนรุ่นหลังว่า...หิวก็หาที่พึ่ง อิ่มก็ปลีกตัวหนี มั่งมีก็ประจบ ยากจนก็ตีจาก เป็นโรคร่วมกันแห่งวิสัยมนุษย์อ่านเรื่องนี้ ก็แล้วแต่ท่านเถิด...จะตัดคอลัมน์ผมไปฝากให้ คุณทักษิณอ่านแก้เหงาในเรือนจำหรือจะกระซิบให้นายกฯอนุทิน นายกฯใหม่ ได้อ่านก็ไม่ผิดกติกา ด้วยเพราะมนุษย์มากมายที่ต่างก็กำลังเล่นบทบริวารกันอย่างหน้าชื่นตาใสนั้น ต่างก็เป็นมนุษย์การเมือง บริวารเดิมๆของท่านหลายๆคน.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม