อิทธิพลพายุ “บัวลอย” ทำฝนตกหนักหลายจังหวัด แม่น้ำสาย หลักเพิ่มสูงขึ้นขณะที่บึงบอระเพ็ด ทะเลสาบน้ำจืดใหญ่ที่สุดของประเทศใน จ.นครสวรรค์ น้ำทะลักเกินพิกัดเกือบ 200 เปอร์เซ็นต์ เอ่อล้นท่วมบ้านเรือนกว่า 70 หลัง ชาวบ้านเดือดร้อนหนักต้องใช้แผ่นโฟมขนาดใหญ่เป็นที่หลับนอน ด้านเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อน 2,200 ลบ.ม./วินาทีเป็นวันแรก เตือนพื้นที่ด้านล่างน้ำสูงขึ้นอีก 20 ซม.สถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดยังน่าเป็นห่วง เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ จ.ชัยภูมิ เกิดฝนตกหนักทำให้ปริมาณน้ำในลำห้วยลำอินเพิ่มสูงขึ้นเอ่อท่วมบ้านหนองลุมพุก หมู่ 2 ต.หนองบัวโคก อ.จัตุรัส ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 22 หลัง ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมสูงกว่า 50 ซม. รถเล็กผ่านไม่ได้ พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายกว่า 1,000 ไร่ นายเดช เสนาะคำ นายอำเภอจัตุรัส และนายดวงตะวัน ภิรมย์ไทย นายกอบต.หนองบัวโคก ลงพื้นที่แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่รับน้ำบ้านสำโรงโคก ต.กุดน้ำใส ให้เร่งขนข้าวของหนีน้ำจ.นครราชสีมา พ.อ.คุณนิธิ สิทธิชัยกานต์ ผบ.ช.2 พัน.202 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ กองทัพภาคที่ 2 จัดชุด ชป.กร. และกำลังพลจิตอาสาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่หมู่ 6 ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย ทำให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านนางฉลวย มุ่งครอบกลาง อายุ 58 ปี ถูกน้ำป่าซัดพังลงมาทั้งหลัง ส่วนถนนสายพิมาย-ชุมพวง หน้าโรงเรียนพิมายสามัคคี 1 หลังน้ำแห้งพบร่องรอยผิวถนนถูกน้ำเซาะหลุดล่อนระยะทางกว่า 100 เมตร ส่วนถนนทางเข้าบ้านรังกาใหญ่ หมู่ 4 ต.รังกาใหญ่ น้ำซัดถนนขาด ต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นที่ จ.พิจิตร ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามอุทกภัยรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพิจิตร อ.สามง่าม ปัจจุบันมีพื้นที่น้ำท่วมครอบคลุม 12 อำเภอ 74 ตำบล 447 หมู่บ้าน พื้นที่เกษตรเสียหายกว่า 30,397 ไร่ บ่อปลา 13 ไร่ และถนน 10 สาย ล่าสุดฝั่งแม่น้ำยมใน 5อำเภอคือ วชิรบารมี สามง่าม โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง และโพทะเล ยังมีน้ำท่วมขัง ส่วนฝั่งแม่น้ำน่านเริ่มคลี่คลายแล้วจ.พิษณุโลก นางพีรกานต์ ทองเชื้อ นายกอบต.วังพิกุล อ.วังทอง เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำวังทองเพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อท่วมบ้าน บางจุดน้ำเซาะพนังกั้นน้ำจนรั่วซึมท่วมถนน การสัญจรยากลำบาก อบต.นำรถแบ็กโฮไปขุดเปิดทางน้ำช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ จ.เชียงใหม่ แม่น้ำปิงจุดวัดระดับน้ำ P1 เชิงสะพานนวรัฐ อ.เมืองเชียงใหม่ ลดลงจากจุดพีกสูงสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา 9.39 เมตร ลงมาที่ 3.64เมตรต่ำกว่าจุดวิกฤติ 6 ซม. นายทศพล เผื่อนอุดมผวจ.เชียงใหม่ เผยว่า ช่วงกลางดึกที่ผ่านมาแม่น้ำปิงอยู่ในระดับ 3.93 เมตร และเริ่มคงที่ตั้งแต่ 22.00 น. ก่อนจะลดระดับลงเรื่อยๆ ช่วงน้ำขึ้นสูงสุดส่งผลให้บางพื้นที่ที่อยู่เขตนอกคันกั้นน้ำหรือพื้นที่รุกล้ำลำน้ำได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่ง อย่างไรก็ตาม จากการประเมินของศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือคาดว่าร่องมรสุมที่เกิดจากอิทธิพลของพายุรากาซาสิ้นสุดคืนวันที่ 28 ก.ย.และจะมีพายุลูกใหม่คือพายุบัวลอยเข้ามาอีกช่วงในวันที่ 29 ก.ย.-1 ต.ค. ดังนั้น จะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมแผนในการบริหารสถานการณ์น้ำกันอีกครั้งจ.นครสวรรค์ ช่วงเช้าแม่น้ำต่างๆเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่จุดวัดน้ำแม่น้ำปิง สถานี P17 อ.บรรพตพิสัย มีอัตราน้ำไหลผ่าน 606 ลบ.ม./วินาที เพิ่มขึ้น 48 ลบ.ม./วินาที จุดวัดน้ำแม่น้ำน่าน สถานีวัดน้ำ N67 อ.ชุมแสง อัตราน้ำไหลผ่าน 1,277 ลบ.ม./วินาที เพิ่มขึ้น 6 ลบ.ม./วินาที และจุดวัดน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา สถานี C2 อ.เมืองนครสวรรค์ มีอัตราน้ำไหลผ่าน 2,430 ลบ.ม./วินาที เพิ่มขึ้น 62 ลบ.ม./วินาที ส่วนบึงบอระเพ็ด ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอยู่ 450.77 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 192% เกินปริมาณกักเก็บเอ่อล้นท่วมชุมชนรอบบึงได้รับความเดือดร้อนจุดที่ได้รับผลกระทบหนักคือชุมชนบางปรอง หมู่ 6 ต.นครสวรรค์ออก อ.เมืองนครสวรรค์ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 70 หลังคาเรือน นางสาวเรณู โพธิทัย ประธานชุมชนบางปรอง เผยว่า ชุมชนบางปรองตั้งอยู่ระหว่างบึงบอระเพ็ดและแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ถูกน้ำจากทั้งสองแห่งไหลเข้าท่วม หลายครอบครัวต้องนำแผ่นโฟมขนาดใหญ่เป็นที่หลับนอน บางครอบครัวย้ายไปอาศัยอยู่ในเต็นท์ชั่วคราวที่เทศบาลนครนครสวรรค์เตรียมไว้ ขณะนี้น้ำเหนือยังสูงต่อเนื่อง ทำให้มีแนวโน้มว่าบ้านในชุมชนที่มีกว่า 200 ครัวเรือนจะถูกน้ำท่วมทั้งหมดด้านสำนักชลประทานที่ 12 จ.ชัยนาท แจ้งปรับการบริหารจัดการน้ำเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อรองรับพายุบัวลอยตั้งแต่เวลา 15.00 น. วันที่ 28 ก.ย.จาก 2,100 ลบ.ม./วินาทีิ เป็นอัตรา 2,200 ลบ.ม./วินาที หลังจากปริมาณน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงเวลา 11.00 น.วันที่ 28 ก.ย.น้ำไหลผ่านสถานี C 2 อ.เมืองนครสวรรค์ที่ 2,443 ลบ.ม./วินาทีิ สมทบกับปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี 30 ลบ.ม./วินาที ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ต.โพนางดำ ต.ตลุก ต.หาดอาษา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท บริเวณวัดสิงห์ วัดเสือจ้าม อ.อินทร์บุรี อ.เมืองสิงห์บุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี คลองโผงเผง วัดไชโย อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง และคลองบางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) ระดับน้ำเพิ่มอีก 20 ซม.เวลา 17.00 น. วันที่ 28 ก.ย. กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเรื่องพายุ “บัวลอย” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยฉบับที่ 8 ว่า เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 28 ก.ย.พายุไต้ฝุ่นบัวลอย (BUALOI) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองดองฮอย ประเทศเวียดนาม ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 110 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 17.4 องศาเหนือ ลองจิจูด 107.7 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 29 ก.ย.2568 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับอิทธิพลของพายุบัวลอยส่งผลให้ช่วงวันที่ 28-30 ก.ย.ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามแนวขอบของพายุ รวมถึงด้านรับมรสุมในภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านพื้นที่ลุ่มน้ำท่วมขังเย็นวันเดียวกัน ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมว่า การอนุมัติงบประมาณต่างๆ โดยเฉพาะโครงการที่ยังค้างอยู่จากรัฐบาลที่แล้ว ถ้าโครงการไหนมีประโยชน์ช่วยจัดการการบริหารจัดการน้ำท่วมไม่ให้ท่วมเหมือนที่ผ่านมาก็จะเร่งดำเนินการอนุมัติ อย่างสร้างถนนคงต้องสร้างให้น้ำได้มีช่องทางระบายออกไปให้มากที่สุด เพื่อลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด ส่วนการเยียวยาช่วยเหลือที่ค้างอยู่ทั้งการลงทะเบียนและเรื่องต่างๆ เนื่องจากเปลี่ยนรัฐบาล ทำให้มีช่องว่างก็จะเร่งให้จังหวัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) เร่งดำเนินการลงทะเบียนผู้ที่เข้าข่ายได้รับความช่วยเหลือ จะใช้เตรียมงบฯสำหรับการเยียวยาไว้และเร่งดำเนินการจ่ายให้เร็วที่สุดอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่