นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ที่ประชุมได้ติดตามความก้าวหน้าโครงการเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา หรือ AnyWhere Anytime ในรายการเช่าใช้อุปกรณ์เสริมการสอนของนักเรียนและครูทั้งแท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก และโครมบุ๊ก ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 118 เขตพื้นที่ เพื่อแจกให้แก่นักเรียนระดับชั้น ม.4-ม.6 จำนวน 600,000 คน ซึ่งขณะนี้มี 3 เขตพื้นที่ที่ลงนามเซ็นสัญญาตามข้อกำหนดการจัดซื้อจัดจ้างเรียบร้อยแล้ว และส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างต่อข้อถามว่ามีหลายฝ่ายเกิดความกังวลว่า โครงการดังกล่าวอาจเหมือนโครงการจัดจ้างสนามฟุตซอลเมื่อปี 2554-2555 นั้น รองเลขาธิการ กพฐ.กล่าวว่า โครงการเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา เป็นการใช้งบประมาณที่เกิดขึ้นตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ที่มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) รองรับถูกต้องตามกฎหมาย แต่โครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลนั้น เป็นการใช้งบแปรญัตติที่ไม่มีราคากลาง และเป็นการดำเนินการให้เขตพื้นที่ไปกำหนดราคากลางเอง โดยจะพบว่าโรงเรียนที่ใช้ราคากลางจากกระทรวงพาณิชย์ หรือพาณิชย์จังหวัด เขตพื้นที่และโรงเรียนเหล่านั้นไม่มีความผิด แต่หากโรงเรียนหรือเขตพื้นที่ที่กำหนดราคากลางเอง โดยที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงพาณิชย์ก็จะถูกตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในพื้นที่“โครงการเรียนได้ทุกที่ทุกเวลาของ สพฐ. มีงบประมาณที่ชัดเจน และเป็นการจัดสรรงบให้เขตพื้นที่ดำเนินการ โดยไม่มีการกำหนดสเปกจากส่วนกลางแต่อย่างใด เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงและอัปเดตความทันสมัยของการใช้งานอยู่ตลอดเวลา ส่วนในปีงบประมาณ 2569 นั้นสำนักงบฯไม่ได้มีการอนุมัติงบให้เพิ่มเติม เนื่องจากการเช่าใช้อุปกรณ์ดังกล่าวยังคงพื้นที่และกลุ่มเป้าหมายเหมือนเดิม” นายพัฒนะกล่าว.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่