ชัยภูมิอ่วม ฝนถล่ม น้ำป่าเขาภูแลนคาไหลหลากลงลำน้ำชีท่วมหลายอำเภอ ถนนทางเข้าวัดสูงกว่า 1 เมตร พระออกบิณฑบาตไม่ได้ บ้านจมบาดาลกว่า 140 หลัง ส่วนจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยายังหนัก น้ำเหนือไหลทะลัก ที่ชัยนาท ทหารช่วยชาวบ้านเร่งกรอกกระสอบทรายเสริมคันกั้นน้ำ ขณะที่ชาวผักไห่ เมืองกรุงเก่าโอดบ้านจมน้ำครึ่งหลัง ต้องทำโป๊ะนอนกลางน้ำเฝ้า ผวาโจรย่องเบาซ้ำเติมทุกข์ อุตุฯเตือนรับมือฝนตกหนักอีก 17-21 ก.ย.สถานการณ์น้ำท่วมไม่ยังคลี่คลาย หลังฝนยังตกไม่หยุด โดยเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ จ.ชัยภูมิ เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ตอนบนได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจากน้ำป่าเทือกเขาภูแลนคาไหลหลากลงสู่ลำน้ำชีไล่ตั้งแต่ อ.หนองบัวแดง อ.หนองบัวระเหว อ.บ้านเขว้า อ.จัตุรัส และ อ.เมืองชัยภูมิ น้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมพื้นที่เกษตรเป็นบริเวณกว้าง หนักสุดที่บ้านเสี้ยวน้อย หมู่ 8 ต.บ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิ บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 141 หลัง วัดเสี้ยวน้อยน้ำท่วมถนนทางเข้าวัดสูงกว่า 1 เมตร พระออกบิณฑบาตไม่ได้ ชาวบ้านต้องหุงข้าวทำอาหารไปถวายนายชวลิต ป้อพันธ์ดุง กำนันตำบลบ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิ เผยว่า ขณะนี้น้ำท่วมแล้ว 5 หมู่บ้านคือหมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 8 หมู่ 13 และหมู่ 14 บ้านเสี้ยวน้อย หมู่ 8 ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เนื่องจากน้ำชีไหลทะลักท่วมบ้านทั้งหมดพื้นที่การเกษตร ทุ่งนาข้าวเสียหายแล้วกว่า 3,000 ไร่ น้ำยังพัดเอาผักตบชวาและเศษท่อนไม้ลอยขวางทางน้ำ ทำให้น้ำระบายช้า ขณะที่ น.ส.บุญโหม วุฒิชัยภูมิ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านเสี้ยวน้อย ต.บ้านค่าย เผยว่า อยากให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณมาสร้างพนังกั้นน้ำชี เพื่อช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากให้กับบ้านเสี้ยวน้อยส่วนสถานการณ์น้ำเหนือที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ อยู่ที่ 2,224 ลบ.ม./วินาที เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 17.22 เมตร/รทก. ระดับน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ 14.68 เมตร/รทก. ห่างจากตลิ่ง 1.66 เมตร/รทก. ระดับน้ำเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนที่เพิ่มสูงขึ้ น้ำล้นตลิ่งท่วมบ้านในพื้นที่ต่ำของ จ.ชัยนาท 4 อำเภอ คือ อ.เมืองชัยนาท อ.สรรพยา อ.มโนรมย์ และ อ.วัดสิงห์ ประชาชนเดือดร้อนกว่า 200 ครัวเรือนด้านทหารจากกองพันบริการ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จ.ลพบุรี ไปช่วยชาวบ้าน ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท กรอกกระสอบทรายนำไปวางเสริมแนวคันกั้นแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจาก ต.ธรรมามูล เป็นพื้นที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา หลังจากเขื่อนชะลอการระบายไว้ที่ 2,000 ลบ.ม./วินาที เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน เพื่อลดผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน ทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นคันกั้นน้ำ ทหารและชาวบ้านต้องเร่งกรอกกระสอบทรายนำไปเสริมแนวตลิ่งพร้อมจัดเวรยามเฝ้าระวังแนวคันกั้นน้ำตลอด 24 ชม.จ.สิงห์บุรี ชาวบ้านหมู่ 4 ต.บางกระบือ อ.เมืองสิงห์บุรี ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาถูกน้ำท่วมสูงเกือบครึ่งเมตร โดยเฉพาะบ้านของนางบุหงา ไหมมาลา อายุ 53 ปี ที่นอนป่วยอยู่ในบ้าน ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้สะดวก เจ้าหน้าที่เทศบาลนำยารักษาโรคและเต็นท์ที่พักชั่วคราว หากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้จะได้ย้ายไปอยู่ในเต็นท์ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสิงห์บุรีเฝ้าระวังตามจุดเสี่ยงอย่างใกล้ชิดพร้อมนำกระสอบทรายไปอุดตามช่องระบายน้ำ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่เช่นเดียวกับ ชาวบ้านหมู่ 8 ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกแม่น้ำน้อยเอ่อท่วมสูงกว่า 1 เมตร ต้องหนีไปอยู่ที่สูง นายอุบล ชมมะลิ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 8 ต.ท่าดินแดง เผยว่า ตอนนี้บ้านจมน้ำเกือบครึ่งหลัง ตนและลูกชายต้องทำโป๊ะนอนกลางน้ำข้างบ้านเพื่อเฝ้าทรัพย์สิน เพราะกลัวว่ามิจฉาชีพจะอาศัยช่วงน้ำท่วมเข้ามาขโมยของซ้ำเติมทุกข์ของประชาชน ยอมรับว่าการใช้ชีวิตลำบาก ทุกอย่างต้องซื้อหาเองหมด แต่ก็ต้องทำใจต้องอยู่ให้ได้ เพราะในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว สายวันเดียวกัน ที่ชุมชนชลเทพ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นางรัตนา สมสกุลรุ่งเรือง ประธานมูลนิธิร่วมกตัญญู นายสมศักดิ์ ปาลวัฒน์ ผจก.มูลนิธิ พร้อมเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครนำถุงยังชีพและน้ำดื่มจำนวน 800 ชุดไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมขัง ส่วนช่วงบ่ายเดินทางไปแจกจ่ายถุงยังชีพและน้ำดื่มที่ ชุมชนบางพลีนิเวศน์ และชุมชนประเสริฐสินอีก 400 ชุด รวมทั้งสิ้น 1,200 ชุด มีนายสุนทร ปานแสงทอง นายก อบจ.สมุทรปราการมาร่วมแจกจ่ายด้วยกรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศว่า ช่วงวันที่ 17-21 ก.ย.ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศ ไทยและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวัน ออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่