นับจากนี้ไปอีกเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น ก็จะถึงงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่โด่งดังร่ำลือเป็นที่รอคอยของพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ ได้แก่ งาน “มหกรรมไหลเรือไฟและงานกาชาด จังหวัดนครพนม” ประจำปี 2568รอคอยเพื่อจะไปร่วมชมขบวนไหลเรือไฟ อันสวยงดงามในแม่น้ำโขง เพื่อเฉลิมฉลอง เทศกาลออกพรรษาด้วยตนเอง หรือมิฉะนั้นก็ติดตามชมการถ่ายทอดสดหรือรายงานข่าวจาก โทรทัศน์ซึ่งมักให้พื้นที่ออกอากาศแก่เทศกาล “ไหลเรือไฟ” นครพนม มาโดยตลอดสำหรับปีนี้ก็ยิ่งกระตือรือร้นในการรอคอย มากขึ้นไปอีก เมื่อกระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเคยแถลงข่าวว่าจะลงไปร่วมมือกับทางจังหวัดนครพนมเพื่อยกระดับการจัดงานประเพณีไหลเรือไฟขึ้นสู่ระดับโลก พร้อมกับให้จังหวัดตั้งชื่องานนี้ว่า “มหกรรมไหลเรือไฟโลกและงานกาชาดจังหวัดนครพนม ประจำปี 2568” ล่วงหน้าเอาไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมานางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เคยแถลงไว้ว่า เนื่องจากงานไหลเรือไฟนครพนมเป็นหนึ่งเดียวในโลกที่สะท้อนพลังแห่งความศรัทธา และภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวลุ่มแม่น้ำโขง...ดังนั้น ในปีนี้ (2568 หรือ 2025) กระทรวงวัฒนธรรมจึงมีความตั้งใจที่จะให้งานนี้ยกระดับขึ้นให้เป็นงานที่แตกต่างและน่าจดจำกว่าทุกๆปี โดยขับเคลื่อนแบบบูรณาการทุกภาคส่วนให้มาร่วมกันจัดงานให้เป็นงานเทศกาลระดับโลกที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาสัมผัสต่อมาแม้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมคนเดิมจะต้องเปลี่ยนไป และแม้จะมีรัฐมนตรีวัฒนธรรมท่านใหม่ ชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ก็ต้องเปลี่ยนไปอีก แต่อย่างไรเสียท่านปลัดกระทรวงวัฒนธรรมยังเป็นท่านเดิม จึงเป็นที่เชื่อมั่นได้ว่าการร่วมแรงร่วมใจจากทุกๆฝ่ายจะดำเนินไปด้วยดี ซึ่งใน ที่สุดก็พร้อมจะจัดงานยิ่งใหญ่ขึ้นแล้วเราลองมาดูโปรแกรมงานล่าสุดที่ทางจังหวัดและคณะกรรมการระดับชาติร่วมกันจัดไว้ว่าจะมีอะไรบ้าง...ภาพโดยรวมก็คือ จะมีงาน 12 วัน 12 คืน จากวันเสาร์ที่ 27 กันยายน ไปจนถึงวันพุธที่ 8 ตุลาคมในวันแรกของงาน จะเป็นการแห่ “ขบวนเรือไฟบก” หรือขบวน “Nakhon Phanom Illuminated Boat Carnival” ไปตาม ถนนสุนทรวิจิตร ของจังหวัดนครพนม นำโดย ขบวนยาวกว่า 900 ชีวิต พร้อมศิลปินรับเชิญคนดัง จะเป็นใครบ้างทางจังหวัดยังคงอุบอยู่จากนั้นก็จะมีการแสดงด้านศิลปวัฒนธรรม และดนตรีหมอลำร่วมสมัย โดยเฉพาะหมอลำดังที่สุดของภาคอีสาน ทุกคณะต่างตอบรับแล้วว่าจะมาแสดงในงานนี้ รวมทั้งคณะ “สาวน้อยเพชรบ้านแพง” น่าจะได้โปรแกรมราวๆ ต้นเดือนตุลาคมขณะเดียวกัน การออกร้านจำหน่ายสินค้าราคาโรงงานและสินค้า OTOP จะเปิดร้านต้อนรับให้ประชาชนเข้าจับจ่ายใช้สอยตั้งแต่วันแรกของการเปิดงานไปจนถึงวันปิดงานรวมแล้วกว่า 100 บูธ เคียงข้างไปกับกิจกรรมร้าน “มัจฉากาชาด” ตลาด “มหาดไทย ชวนชิม” จุด เช็กอิน สวนดอกไม้และ ประติมากรรมโคมไฟ สำหรับถ่ายภาพเช็กอินเป็นที่ระลึกตั้งแต่วันเปิดงานถึงวันปิดงานเช่นกันส่วนพิธีเปิดงาน มหกรรม ไหลเรือไฟโลก จะเริ่มขึ้นในคืนวันที่ 7 ตุลาคม 2568 (หรือคืนวันออกพรรษา)จะมีการแสดงแสงสีเสียงและสื่อประสมประกอบม่านน้ำ, พลุรักษ์โลก และเริ่ม งานประเพณีไหลเรือไฟ นครพนม หนึ่งเดียวในโลก ภายใต้ธีม “แสงไฟแห่งศรัทธา”โดยจะมีการแสดงเรือไฟเฉลิมพระเกียรติ ยาวกว่า 80 เมตร และเรือไฟรักษ์โลกจากกลุ่มอำเภอต่างๆ และจากประเทศจีน, ลาว, เวียดนาม ซึ่งมีให้ชมทุกวันอยู่แล้ว นำมาโชว์อีกครั้งในวันนี้ตามมาด้วยการประกวดเรือไฟยักษ์ 12 ลำ จาก 12 อำเภอ ชิงถ้วยพระราชทานและเงินรางวัลรวมกว่า 100,000 บาท ก็ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้แน่นอนยุคนี้ถ้าไม่มีการแสดงนี้ถือว่าไม่ใช่งานใหญ่...นั่นก็คือ การแสดง “บินโดรนแปรอักษร” ซึ่งในคืนวันที่ 7 ตุลาคม จะมีการแสดงบินโดรนแปรอักษรเป็นภาพเป็นสัญลักษณ์ต่างๆ สวย โดดเด่น งดงาม อลังการเหนือริมโขงนครพนมกว่า 300 ลำด้วยกัน ฯลฯ และ ฯลฯ และ ฯลฯล่าสุดเมื่อวันวานนี้เอง ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ได้นำผู้สื่อข่าวออกชมการเตรียมงาน โดยเฉพาะการแสดงแสงสีเสียงต่างๆในคืน “วันไหลเรือไฟโลก” ซึ่งแล้วเสร็จกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว พร้อมที่จะทำให้จังหวัดนครพนมส่องประกายวูบวาบนำประเพณีไหลเรือไฟอันยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวของอีสานขึ้นสู่ระดับโลกในวันออกพรรษา 7 ตุลาคมที่จะถึงนี้ถ้ามีโอกาสอย่าลืมแวะไปเยือนนะครับ 27 ก.ย.ถึง 8 ต.ค.นี้ เพื่อไปร่วมเป็นสักขีพยาน ให้ “นครพนม” เมืองงามเพชรอีสาน ก้าวขึ้นสู่แผนที่ท่องเที่ยวของชาวโลกอีกหนึ่งเมืองในที่สุด.“ซูม”คลิกอ่านคอลัมน์ “ซูมซอกแซก” เพิ่มเติม