“พิธีสืบชะตา”...เป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวล้านนาที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่า ตำนาน และความเชื่อที่สืบทอดกันมาผ่านกาลเวลา สะท้อนให้เห็นถึงโลกทัศน์และมุมมองของคนในอดีตที่มีต่อ “ชีวิต” “ความตาย” และ “โชคชะตา”ตำนานหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับพิธีสืบชะตาคือเรื่องเล่าที่ว่า ครั้งหนึ่งในพุทธกาล พระเจ้าสัพพัญญู (พระพุทธเจ้า) ทรงพระประชวรหนัก เหล่าเทวดาจึงได้ร่วมกันจัดพิธีสืบชะตาถวายเพื่อต่อพระชนมายุของพระองค์ โดยใช้สาย สิญจน์ผูกต่อกันจากสวรรค์ลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อเชื่อมโยงพระวรกายของพระองค์เข้ากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพลังแห่งบุญกุศล ทำให้พระองค์ หายจากอาการประชวรได้ในที่สุดตำนานนี้เป็นที่มาของความเชื่อว่าพิธีสืบชะตามีอานิสงส์ “รักษาโรคภัย” และ “ต่ออายุขัย” เรื่องเล่าในอดีต เมื่อเกิดเหตุร้ายหรือภัยพิบัติขึ้นกับบ้านเมือง เช่น โรคระบาด ข้าศึกรุกราน หรือพืชผลเสียหาย ชาวบ้านและเจ้าเมืองจะร่วมกันจัดพิธีสืบชะตาเมืองขึ้น เพื่อขอให้เคราะห์กรรมทั้งหลายหมดสิ้นไปและอธิษฐานให้บ้านเมืองกลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง อีกทั้งยังมีเรื่องเล่ามากมายที่เกี่ยวกับเจ้าเมืองที่จัดพิธีสืบชะตาแล้วทำให้เมืองรอดพ้นจากภัยพิบัติอย่างน่าอัศจรรย์ถัดมา...ตำนานการเรียกขวัญ ในความเชื่อล้านนาเชื่อว่าทุกคนมี “ขวัญ” ที่เป็นพลังชีวิตหรือจิตวิญญาณสิงสถิตอยู่ หากขวัญหนีหายไปจะทำให้คนนั้นเจ็บป่วย อ่อนแอ หรือประสบเคราะห์ร้ายพิธีสืบชะตามักจะทำควบคู่ไปกับพิธี “ฮ้องขวัญ” หรือ “การเรียกขวัญ”โดยมีการใช้ด้ายสายสิญจน์และเครื่องบูชาเพื่อผูกขวัญให้กลับมาอยู่กับตัว และเสริมพลังให้ขวัญแข็งแรงว่ากันตามศรัทธา...ความเชื่อเกี่ยวกับพิธีสืบชะตาจะเชื่อมโยงกับความเชื่อเรื่อง “กรรม” และ “เคราะห์กรรม” โดยหัวใจสำคัญของพิธีสืบชะตาคือความเชื่อว่าชีวิตของมนุษย์ถูก กำหนดด้วยกรรมดีกรรมชั่วที่ทำมาแต่ปางก่อน และในช่วงชีวิตหนึ่งอาจมี “เคราะห์” หรือช่วงเวลาที่ไม่ดีเข้ามาผู้คนจึงศรัทธาว่าการทำพิธีสืบชะตาเป็นการ “แก้กรรม” หรือ “ลดเคราะห์” โดย การสวดมนต์และทำบุญเพื่อสร้างกุศลใหม่ให้แก่ตนเองเกี่ยวกับความเชื่อเรื่อง “สายสิญจน์”... สายสิญจน์ในพิธีสืบชะตามิใช่เพียงแค่เส้นด้าย ธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมโยงผู้เข้าร่วมพิธีกับพลังแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เชื่อว่าสายสิญจน์ที่ผ่านการสวดมนต์แล้วจะมีพลังในการปกป้องคุ้มครอง และปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ต่อเนื่องเชื่อมโยงไปถึงความเชื่อเรื่อง “ด้ายค่าคิง” และ “ไม้ค้ำโพธิ์” โดย “ด้ายค่าคิง” คือด้ายที่ใช้ทาบวัดจากศีรษะถึงปลายเท้าของผู้เข้าร่วมพิธีแล้วนำไปร่วมในพิธี เชื่อว่าด้ายนี้เป็นตัวแทนของเจ้าของดวงชะตา เมื่อพระสงฆ์ทำพิธีและสวดมนต์ ด้ายนี้ จะดูดซับพลังแห่งการสืบชะตาและนำไปสู่เจ้าของส่วน “ไม้ค้ำโพธิ์” มีความเชื่อว่าการนำไม้ค้ำต้นโพธิ์ในวัดเป็น การค้ำจุนพระพุทธศาสนาและชีวิตของตนเองให้ยืนยาว มั่นคง เปรียบเสมือนต้นโพธิ์ที่แข็งแรงตอกย้ำความเชื่อเรื่อง “การต่ออายุ” และ “การอยู่ยงคงกระพัน” ...นอกจากความเชื่อเรื่องการต่ออายุในเชิงสัญลักษณ์แล้ว ผู้คนในอดีตยังเชื่อว่าพิธีสืบชะตามีอานุภาพที่สามารถ “ยืด” อายุขัยของคนได้จริงโดยเฉพาะในยามที่ “เจ็บป่วยหนัก” หรืออยู่ในช่วง “วิกฤติของชีวิต”โดยสรุปแล้ว เรื่องเล่า ตำนาน และความเชื่อที่เกี่ยวกับพิธีสืบชะตาได้หลอมรวมเข้ากับวิถีชีวิตของชาวล้านนาอย่างแนบแน่น เป็นส่วนหนึ่งของภูมิปัญญาทางจิตวิญญาณที่ช่วยสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้คนได้เผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนของชีวิต และเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจที่สำคัญมาจนถึงทุกวันนี้ “พิธีสืบชะตา” เป็นพิธีกรรมตามความเชื่อของชาวล้านนาที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน มีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อต่ออายุ เสริมสิริมงคล ขจัดปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีออกจากชีวิตและสร้างขวัญกำลังใจจากการสืบค้นข้อมูลพบว่า พิธีสืบชะตามีหลายประเภทตามวัตถุประสงค์และผู้เข้าร่วมพิธี อาทิ สืบชะตาบุคคล...เป็นการทำพิธีให้กับคนใดคนหนึ่ง เพื่อให้มีอายุยืนยาว พ้นจากโรคภัยไข้เจ็บและเคราะห์กรรมต่างๆ สืบชะตาบ้านหรือหมู่บ้าน...เป็นการทำพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคลและความเจริญรุ่งเรืองของชุมชน มักจะจัดปีละครั้ง สืบชะตาเมือง...เป็นพิธีสำคัญที่จัดขึ้นเพื่อความมั่นคงและเจริญก้าวหน้าของบ้านเมืองสืบชะตาพืชผล...แม่น้ำ...ป่า เป็นการทำพิธีเพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับทรัพยากรธรรมชาติ และเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในปัจจุบันพิธี “สืบชะตา” นิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป หรือมากกว่านั้น เจ้าภาพจุดธูปเทียนบูชาพระ รัตนตรัย ปู่อาจารย์นำไหว้พระ อาราธนาศีล พระสงฆ์ผู้เป็นประธานให้ศีลแล้วปู่อาจารย์อาราธนาพระปริตร พระสงฆ์ชุมนุมเทวดานำสวดมนต์สืบชะตาแบบภาคเหนือ ซึ่งมีคำสวดโดยเฉพาะหลายบท อาทิ ชินบัญชร สวดสืบชะตา มงคลจักรวาลน้อย และคำสวดทั่วไปขณะที่พระสวดนั้น “ผู้สืบชะตา” และลูกหลานจะเข้าไปอยู่ใน “ซุ้มสืบชะตา” นั่งประนมมือฟังพระสวดพระพุทธมนต์จนจบ ตอนถึง “เอเสวนา จะพาลานัง” ผู้สืบ ชะตาจะต้องจุดเทียนชัยหรือเทียนน้ำมนต์ด้วย หลังจากสวดจบเจ้าภาพจะจัดให้มีเทศน์ 1 กัณฑ์ เป็นต้น“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.รัก–ยมคลิกอ่านคอลัมน์ “เหนือฟ้าใต้บาดาล” เพิ่มเติม