สาวกัมพูชาหัวใจไทย แฉอิทธิพลมืด หนองจาน เดินหน้าเอาผิดกำนันลี-เจ๊รัตน์ ยึดที่ดินบ้านหนองจาน ไปอยู่ฝั่งกัมพูชาและจ้างม็อบกัมพูชากดดันทหาร ด้านชายแดน จ.สระแก้ว ยังตึงเครียดทหาร-ตำรวจ ไม่ไว้ใจ กัมพูชา ผลัดเปลี่ยนกำลังดูแลพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ศบ.ทก.ประชุมครั้งสุดท้าย พร้อมถก สมช.สร้างรั้ว บริเวณบ้านหนองจาน หลัง ศบ.ทก.เห็นชอบหลักการ ระบุต้องชัดเจนเขตแดนเป็นคลองหวั่นอนาคตกัมพูชาอ้างสิทธิ์เพราะสร้างริมตลิ่ง โฆษก ศบ.ทก.ยันมีกลไก ดูแลช่วงเปลี่ยนผ่าน ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 5 ก.ย. พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาราชการแทน รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า การสร้างรั้วบริเวณบ้านหนองจาน ศบ.ทก.เห็นชอบในหลักการ โดยให้ สมช. พิจารณารายละเอียด การสร้างรั้วไม่ใช่เรื่องง่าย ทีมที่ปรึกษาได้ให้ข้อสังเกตไว้ว่าเขตแดนอยู่ลำคลอง การสร้างรั้วบนตลิ่ง ทีมที่ปรึกษาขอให้พิจารณาในรายละเอียด เพราะอนาคตกัมพูชาอาจทึกทักเอาว่าเขตแดนของไทยอยู่ที่แนวรั้ว ข้อเท็จจริงฝ่ายความมั่นคงบอกว่ารั้วไม่ได้หมายถึงเขตแดน แต่หมายถึงเครื่องกีดขวางทางด้านความมั่นคง สกัดกั้นอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ปรึกษามีความเป็นห่วง เพราะกัมพูชาไม่ได้สนใจในรายละเอียด ดังนั้น สิ่งที่ที่ปรึกษาได้ให้ข้อสังเกตไว้ ควรจะมีข้อตกลงให้ชัดเจนทั้งสองฝ่ายก่อนจะดำเนินการ พร้อมให้คำแนะนำว่าไทยต้องขอสงวนสิทธิ์ในการใช้พื้นที่กลางลำคลองด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วกัมพูชาจะยึดทั้งหมดเป็นเขตแดนของเขาผู้สื่อข่าวถามว่า การจะไปประชุม GBC ขณะที่มีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลสามารถดำเนินการได้หรือไม่ พล.อ. ณัฐพลกล่าวว่า เป็นเรื่องที่หนักใจ ได้ปรึกษาเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาและกรมสนธิสัญญาระหว่างประเทศ คงต้องไป ถ้าไม่ไปประเทศชาติจะเสียประโยชน์ ขณะที่กัมพูชาแล้วแต่ไทย ว่าจะไปหรือไม่ไป เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาและกระทรวงการต่างประเทศได้ให้คำแนะนำว่า ประเด็นใดที่จะผูกพันไปถึงรัฐบาลใหม่ขอให้หลีกเลี่ยง ให้ประชุมเฉพาะประเด็นที่ประเทศชาติได้ประโยชน์ และจะเป็นการพูดคุยเรื่องเดิมที่ยังไม่มีความคืบหน้าคือ การเก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ สแกมเมอร์ และประเด็นบ้านหนองจานรมช.กลาโหมกล่าวต่อว่า เดิมจะนำประเด็นเรื่องบ้านหนองจานไปหารือในที่ประชุม GBC แล้วนำกลับมาให้ ผวจ.สระแก้ว และผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจยของกัมพูชาคุยจัดทำรายละเอียด ถ้าไม่มีความคืบหน้า จึงจะดำเนินการในแง่กฎหมาย แต่เมื่อวันพุธที่ 3 ก.ย. ผวจ.สระแก้วขอนำเรื่องเข้าที่ประชุม ศบ.ทก.พร้อมขอความเห็นใจ ประชาชนไปกดดัน ถ้าไม่ดำเนินการใดๆ จะแจ้งความเอาผิด ม.157 ขั้นตอนเลยต้องสลับกัน ที่ประชุมเห็นใจผู้ว่าฯ และให้ดำเนินการไปก่อน โดยให้คุยกับผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจยของกัมพูชา ซึ่งจะมีการคุยกันวันที่ 8 ก.ย. คาบเกี่ยวกับที่จะมีการประชุม GBCพล.อ.ณัฐพลกล่าวอีกว่า บางครั้ง ศบ.ทก.และรัฐบาล ไม่สามารถทำอะไรได้อย่างที่ต้องการหรือวางแผนไว้ ต้องฟังเสียงประชาชนด้วย เมื่อประชาชนบอกว่ารอการประชุม GBC วันที่ 10 ก.ย. ไม่ได้ จึงขอให้ผู้ว่าฯสระแก้วอนุมัติดำเนินการก่อน ศบ.ทก.เห็นชอบเบื้องต้น จึงนำเข้าที่ประชุม สมช.วันที่ 5 ก.ย. เพราะไม่ทราบว่าจะมีการประชุม ศบ.ทก. อีกหรือไม่ เพราะคำสั่งใดที่รัฐบาลเดิมแต่งตั้งไว้ เมื่อรัฐบาลสิ้นสุดก็จะหมดไปด้วย วันนี้อาจเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย ขอโอกาสนี้ขอบคุณสื่อ ที่ผ่านมาช่วยทำความเข้าใจกับสังคม ที่ผ่านมาตนเป็น รมช.กลาโหม อีกหน้าที่เป็น ผอ.ศบ.ทก. เวลาที่พูดหรือคิดอะไรจะคิดในกรอบ ผอ.ศบ.ทก. ไม่ได้คิดเรื่องทหารอย่างเดียว กรอบที่คิดคือการใช้พลังอำนาจของชาติ ผลประโยชน์ของชาติทั้ง 6 ด้านทั้งการเมือง ในและต่างประเทศ การทหาร เศรษฐกิจช่วงเที่ยง พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษก ศบ.ทก. แถลงผลประชุม ศบ.ทก.ว่า สถานการณ์ทั่วไปช่วงเวลาที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังในที่ตั้ง สถานการณ์ภาพรวมยังอยู่ในความสงบเรียบร้อยไม่มีเหตุการณ์สำคัญ กรณีประ ชาชนมีความห่วงใยบทบาทหน้าที่ของ ศบ.ทก.จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ขอให้ความมั่นใจว่าได้มีการมอบอำนาจให้ผู้บังคับบัญชาหน่วย ทุกระดับไม่ว่าจะเป็น ผบ.ทสส. ตลอดจนผู้บัญชาการเหล่าทัพ แม่ทัพภาค ผู้บัญชาการกองกำลังต่างๆ ในพื้นที่ทั่วประเทศ สามารถดำเนินการได้ตามตัวบทกฎหมาย ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า ช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ศบ.ทก.ยังยืนยันดำเนินการแม้ว่าจะมีบทบาทน้อยลง แต่การปฏิบัติของกระทรวงกลาโหม กองทัพและหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องยังคงดำเนินการต่อเนื่อง มีกลไกรองรับทุกสถานการณ์ส่วนความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ที่มีชาวกัมพูชาบุกเข้ามากดดันยั่วยุทหารไทย หลังมีการติดป้ายประกาศให้ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำแดนไทยต้องรื้อถอนบ้านและออกจากพื้นที่ดังกล่าว จนเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 4 ก.ย.ต่อเนื่องตลอดคืน แม้สถานการณ์ช่วงกลางคืนจะไม่มีเหตุความวุ่นวายเกิดขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหารตำรวจตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยในพื้นที่อย่างเข้มแข็ง ป้องกันเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะจุดเสี่ยงบริเวณแนวชายแดนที่เป็นพื้นที่อ่อนไหว เจ้าหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกำลังดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนในพื้นที่และเฝ้าระวังสถานการณ์ขณะเดียวกัน มีชาวบ้านหนองจานที่ไม่ทอดทิ้งกำลังพล พากันทำอาหารทั้งข้าวทั้งก๋วยเตี๋ยวมาเลี้ยงทหารแนวหน้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจไม่ขาดสาย นอกจากนี้ยังมีประชาชนหลายกลุ่มนำอาหาร น้ำดื่ม สิ่งของจำเป็นมามอบให้แก่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่แนวหน้า พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณที่เสียสละดูแลความปลอดภัยของประเทศ ชาวบ้านบางคนยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกโกรธแค้นเมื่อทราบว่าทหารไทยถูกด่าทอและทำร้ายจากฝั่งกัมพูชา บางรายถึงขั้นยืนยันว่าอยากจะออกมาด่ากลับแทนเจ้าหน้าที่ เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของทหารไทย ขณะที่ชรบ.ได้เตรียมความพร้อมในพื้นที่ ส่วนฝั่งกัมพูชามีสื่อมวลชนเข้ามาบันทึกภาพความเคลื่อนไหวทุกระยะบรรยากาศตลอดแนวชายแดนจึงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดขณะที่ฝั่งกัมพูชามีรายงานว่า มีการประกาศระดมพลจากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ มีเป้าหมายให้มารวมตัวที่ชายแดนบ้านหนองจาน เพื่อแสดงพลังและกดดันฝั่งไทย โดยเมื่อคืนวันที่ 4 ก.ย.มีชาวกัมพูชาจำนวนหนึ่งมาปักหลักค้างคืนในพื้นที่ สร้างแรงกดดันกำลังพลไทย โดยมีกำนันลีที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้มีอิทธิพลมากบารมีในบ้านหนองจาน ออกคำสั่งให้คนงานที่จ้างมาด้วยเงินส่วนตัว ช่วยกันก่อสร้างแคมป์พักชั่วคราวใช้เป็นที่กำบังแดดและฝน สำหรับผู้ที่ถูกระดมมาร่วมชุมนุมกดดันทหารไทย ขณะที่เจ้าหน้าที่ไทยยังยึดหลักความอดทน รอบคอบและปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กรอบการปกป้องอธิปไตยของชาติ พร้อมจับตาความเคลื่อนไหวฝั่งกัมพูชาอย่างใกล้ชิดผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากภาพมุมสูงที่บันทึกได้บริเวณบ้านหนองจาน ถนน 58 และแนวรั้วชายแดน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว พบว่าพื้นที่ดังกล่าวยังมีความตึงเครียดและมีความเคลื่อนไหวต่อเนื่องมีชาวกัมพูชาเดินทางเข้ามายังจุดหน้าแนวไม่ขาดสายนอกจากนี้ได้มี น.ส.ดารา เรียน หรือที่ชาวบ้านรู้จักในชื่อ “คุณดาว” สาวชาวกัมพูชาแต่มีหัวใจรักประเทศไทย ที่เคยออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.โคกสูง ให้ดำเนินคดีกับ “กำนันลี” อดีตทหารกัมพูชาและ “เจ๊รัตน์” อดีตภรรยา ทั้งนี้ น.ส.ดาวให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ทั้งสองคนมีพฤติกรรมเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของชาวบ้านหนองจานไปอยู่ฝั่งกัมพูชาโดยไม่ได้มีสิทธิครอบครองตามกฎหมาย พร้อมใช้พื้นที่ฝั่งไทยในบ้านหนองจานเป็นจุดสนับสนุนธุรกิจการลักลอบขนส่งสินค้าของตนเอง ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ผู้เสียหายยังอ้างว่า กำนันลีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรวมตัวของกลุ่มชาวกัมพูชาที่ออกมาประท้วงทหารไทยบริเวณแนวชายแดนเมื่อวันที่ 4 ก.ย. มีการปลุกระดมและจ้างมวลชนเพื่อสร้างแรงกดดันต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนลงบันทึกคำให้การ พร้อมเตรียมพิจารณาแจ้งข้อหาตามความผิดฐาน “ยักยอกทรัพย์” และ “บุกรุกครอบครองที่ดินโดยมิชอบ” รวมถึงรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่เปิดเผยว่า ข้อมูลที่ น.ส.ดารา นำมาให้การต่อเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ ถือเป็นหลักฐานสำคัญ ที่จะช่วยคลี่คลายเบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มชาวกัมพูชาที่เข้ามาชุมนุมตึงเครียดในพื้นที่หนองจาน ซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนเพียงไม่กี่กิโลเมตร และคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม โดยตำรวจ สภ.โคกสูง ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนทั้งสองฝั่งชายแดนป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้มีอิทธิพลฉวยโอกาสแสวงหาผลประโยชน์บนพื้นที่ทับซ้อนอีกต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่