ช้าไปก้าว...เป็นข้อสรุปในสงครามข่าวสารระหว่างไทย-กัมพูชาที่ประจันหน้ากันมาในช่วงเวลาตึงเครียดทั้ง 2 ฝ่ายคือ “กัมพูชา” ชนะสงครามข่าวสาร“ไทย” ชนะศึกในสมรภูมิรบนี่เป็นความจริงที่เกิดขึ้นยากที่ใครปฏิเสธได้สิ่งที่เห็นชัดเจนก็คือกัมพูชานั้นทำงานกันอย่างมีเอกภาพไปในทิศทางเดียวกันทั้งระบบ แม้จะเป็นการโกหก “คำโต”แต่ก็สอดรับกันอย่างต่อเนื่องจนไทยตามไม่ทันขนาดว่าบรรดา “แม่บ้าน” ของเขาต่างก็ออกมาเล่นบทเศร้าเล่าความเท็จโดยไม่ได้อินังขังขอบ แถมบีบน้ำตาให้น่าสงสารอีกใครได้ยินได้เห็นก็มีโอกาสคล้อยตามไปได้อย่างสนิทใจนี่ไม่ใช่แค่ในหมู่ผู้นำประเทศโดยตรง แม้แต่องค์กรอื่นอย่างสภาก็เอาด้วย เมื่อประธานสภาของกัมพูชาไปร่วมประชุมสภาโลกที่ต่างประเทศก็ออกมาเล่าความเท็จให้ผู้เข้าร่วมประชุมนานาชาติและบีบน้ำตาให้น่าสงสารอีกด้วยถือว่าเป็นเชิงยุทธ์ที่กัมพูชานำมาใช้อย่างได้ผล ยังไม่รวมถึงการยื่นร้ององค์กรโลกในทุกมิติกล่าวหาว่าไทยรุกรานยิงถล่มก่อนหรือในเชิงต่างประเทศก็เชิญทูตตัวแทนของประเทศต่างๆที่เข้ามาร่วมเป็นสักขีพยานในการหยุดยิงก่อนประเทศไทยพูดง่ายๆเขาชิงตัดหน้าเราทุกอย่างไม่แพ้ก็เหมือนแพ้...ว่างั้นเถอะ!จริงอยู่ศักยภาพในการรบ เครื่องไม้เครื่องมือ กำลังพลเราเหนือกว่า จนดูเหมือนว่าประเทศใหญ่รังแกประเทศเล็กแต่ความจริงแล้วถูกสร้างให้เป็นความเท็จทำให้ไทยมีภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยจะดีนักถามว่าทำไมไทยจึงเพลี่ยงพล้ำได้ถึงขนาดนี้!คำตอบก็คือความเป็นเอกภาพในการนำทหารไปทางนักการเมืองไปทาง คือมีแนวทางการทำงานและวิธีคิดที่ต่างกันแต่ “ทหาร” นั้นมียุทธศาสตร์และยุทธวิธีที่เป็นหลักอยู่แล้วจึงเดินหน้าได้อย่างมั่นคง เป็นที่พอใจของประชาชนเลยได้คะแนนเหนือกว่านักการเมืองไปหลายเท่าที่สำคัญคือนักการเมืองที่มีอำนาจในรัฐบาลนั้นไม่มีประสบการณ์ในการทำงานเชิงการต่อสู้ในลักษณะนี้จึงทำให้ทุกอย่างช้าไปหมด แม้กระทั่งการข่าวการสื่อสารก็ไม่เป็นระบบที่สำคัญยังอวดเก่งเสียอีก!ความจริงในเหตุการณ์แบบนี้จะต้องมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเป็นวอร์รูมเพื่อประเมินสถานการณ์ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามและก็ประเมินเป็นระยะไปจากนั้นก็ขับเคลื่อนงานไปตามสภาพที่เป็นจริงมีการแถลงข่าวความเป็นไปทั้งระบบทุกวันว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น รวมทั้งการร้ององค์กรต่างๆเพื่อให้ได้รับรู้ข้อเท็จจริงทันทีจึงไม่แปลกเมื่อฝ่ายนำเป็นอย่างนี้กระบวนการทำงานต่างๆจึงล้มเหลวไม่แพ้ก็เหมือนแพ้!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม