ทหารนาวิกโยธิน จันทบุรี คุมตัวหนุ่มกัมพูชาต้องสงสัยเป็นสายลับ ส่งให้ตำรวจโรงพักโป่งน้ำร้อน เค้นสอบเข้มข้ามคืน หลังพบโพสต์เฟซบุ๊กยั่วยุบิดเบือนข้อเท็จจริง กล่าวหา “ไทยโจมตีก่อน กัมพูชาป้องกัน” ค้นบ้านพัก-รถยนต์เจอชุดทหารบกยศร้อยโท สุดท้ายโอละพ่อ สืบฯภาค 2 เช็กมือถือไม่พบข้อมูลลับส่งให้ฝ่ายตรงข้าม เจ้าตัวอ้างสั่งชุดทหารจากเฟซบุ๊กมาสะสมเพราะชื่นชอบ ยันไม่เคยเป็นทหาร ส่งตัวเข้าห้องขังไว้ก่อนตามกฎอัยการศึกภายใต้สถานการณ์การสู้รบอย่างตึงเครียดตามแนวชายแดนระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา ฝ่ายความมั่นคงได้จับกุมสายลับชาวกัมพูชา แอบเข้ามาฝังตัวสอดแนมหาข่าวในเมืองไทย ส่งกลับไปให้กองทัพกัมพูชาได้ 1 คน ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 29 ก.ค. หน่วยความมั่นคงทางทหาร ด้านชายแดน จ.จันทบุรี-ตราด รายงานหน่วยต้นสังกัดว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 ก.ค. ทหารหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน จ.จันทบุรี (ฉก.นย.จันทบุรี) ได้เชิญตัวนายเคิม เอือน อายุ 43 ปี ชาวกัมพูชา ถือวีซ่า NON-LA (Non-Immigrant L-A) เป็นวีซ่าที่ออกให้กับแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ตามข้อตกลง MOU อนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว มีอายุ 2 ปี วีซ่าดังกล่าวอนุญาตให้แรงงานต่างด้าว สามารถทำงานในประเทศไทยได้อย่างถูกกฎหมายตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายเคิม เอือน เดินทางเข้าไทยเมื่อวันที่ 12 มี.ค.2025 สิ้นสุดการอนุญาตวันที่ 11 มี.ค.2027 แจ้งพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 301/1 หมู่ 1 ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี คุมตัวมาสอบปากคำที่ฝ่ายสืบสวน สภ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี มีตำรวจ ตม.จันทบุรี และตำรวจ กก.สส.ภ.จ.จันทบุรี ร่วมสอบปากคำ สาเหตุการนำตัวนายเคิม เอือน เนื่องจากทหาร ฉก.นย.จันทบุรี สืบทราบว่านายเคิมเอือน เป็นบุคคลต้องสงสัยว่าเป็นสายลับทหารกัมพูชา เพราะได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า “THAILAND ATTACKS FIRST CAMBODIA DEFENDS” มีความหมายว่า “ไทยโจมตีก่อน กัมพูชาป้องกัน” ส่อแววยั่วยุและบิดเบือนข้อมูลข้อเท็จจริง นอกจากนี้ยังพบชุดเครื่องแบบทหารกัมพูชาซุกซ่อนในรถกระบะมาสด้า ทะเบียน กล 2141 จันทบุรี จอดอยู่ในบริเวณบ้านที่นายเคิม เอือน พักอาศัยอยู่ เบื้องต้นได้ส่งโทรศัพท์มือถือของนายเคิม เอือน ไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบข้อมูลในเครื่องต่อมากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงการณ์กรณีทหารหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจังหวัดจันทบุรีเชิญตัวผู้ต้องสงสัยนายเคิม เอือน ชาวกัมพูชา มาตรวจสอบข้อมูล กรณีเมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 เวลาประมาณ 19.00 น. ทหาร ฉก.นย.จันทบุรี ได้เชิญตัวนายเคิม เอือน สัญชาติกัมพูชา อายุ 43 ปี มีพฤติกรรมต้องสงสัยว่ามีลักษณะคล้ายทหารกัมพูชา แอบมาอยู่ในพื้นที่มาตรวจสอบ นายเคิม เอือน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี สอบถามบอกว่าเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยประมาณ 20 ปี รับจ้างทำสวนผลไม้ในพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี อาศัยอยู่กับภรรยาและบุตรสัญชาติกัมพูชา พูดฟังภาษาไทยได้เป็นอย่างดี และได้นำตรวจค้นบ้านในพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรีจากการตรวจค้นพบเครื่องแบบทหารกัมพูชาจำนวนหลายชุด เครื่องหมายยศร้อยโทและอุปกรณ์เครื่องแต่งกายแบบทหารของทหารบกกัมพูชา สอบถามทราบว่าเครื่องหมายและอุปกรณ์ดังกล่าวได้มาจากร้านค้าขายเสื้อผ้าฝั่งกัมพูชา สั่งผ่านเฟซบุ๊กชื่อ “Khan Sopheach” ครั้งล่าสุดสั่งมาเมื่อวันที่ 15 ก.พ.68 เป็นเครื่องแบบทหารบกกัมพูชา และรับสินค้าที่บริเวณร้านรับส่งสินค้าชายแดนบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี นายเคิม เอือน อ้างว่ามีความชื่นชอบในเครื่องแบบของทหารกัมพูชา และมีความต้องการเป็นทหารกัมพูชา แต่ไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่สามารถสอบหรือสมัครเป็นทหารกัมพูชาได้ และยังไม่เคยได้รับการบรรจุเป็นทหารมาก่อนจากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของนายเคิม เอือน พบภาพถ่ายสวมเครื่องแบบทหารกัมพูชาจำนวนหลายภาพ และแชร์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทยในเฟซบุ๊กให้กับเพื่อนในเฟซบุ๊กเท่านั้น กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดจันทบุรีที่มีเครื่องมือในการตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์เฉพาะทาง ได้ร่วมตรวจค้นและตรวจสอบข้อมูลในมือถือของนายเคิม เอือน อย่างละเอียด ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลหรือข้อความใดๆที่ปรากฏว่า นายเคิม เอือน ได้ถ่ายภาพสถานที่สำคัญ ข้อมูลพิกัดต่างๆ หรือเนื้อหาที่ส่งผลต่อความมั่นคงในประเทศไทย และไม่ได้ส่งให้กับผู้อื่นผู้ใดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายเคิม เอือน ไว้ในห้องขังบน สภ.โป่งน้ำร้อน แจ้งเหตุผลการควบคุมตัวบนกระดานหน้าห้องควบคุมว่า “ขังไว้ตามกฎอัยการศึก” เนื่องจาก อ.โป่งน้ำร้อน เป็น 1 ในพื้นที่ 8 อำเภอของ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ที่ประกาศกฎอัยการศึก ที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ทหารดูแลพื้นที่แทนพลเรือน ในช่วงเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ หรือการสู้รบกับอริราชศัตรูอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่