เมื่อวันที่ 2 ก.ค. มีการประชุมสภา กทม. สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 1) พ.ศ. 2568 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กทม.เสนอญัตติร่างข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง กำหนดค่าแสงสว่างที่ออกจากป้ายที่ใช้ระบบไฟฟ้าและมีแสงสว่างในตัวเองตามข้อ 17 ของกฎกระทรวงว่าด้วยการควบคุมป้ายหรือสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับติดหรือตั้งป้ายตามกฎหมาย ว่าด้วยการควบคุมอาคาร พ.ศ. 2558 พ.ศ. ... โดยมีหลักการกำหนดค่าแสงสว่างที่ออกจากป้าย ที่ใช้ระบบไฟฟ้าและมีแสงสว่างตัวเอง จะต้องไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญต่อบริเวณข้างเคียงและไม่รบกวนการมองเห็นสภาพการจราจรของผู้ขับขี่ยานพาหนะ จนอาจส่งผลต่อการควบคุมหรือขับขี่ยานพาหนะแต่ยังไม่มีการกำหนดค่าแสงสว่างจากป้ายที่ใช้ระบบไฟฟ้า และมีแสงสว่างในตัวเองไว้ในกฎกระทรวง จึงต้องตราข้อบัญญัตินี้นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร สก. เขตจอมทอง กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ต้องมีการกำหนด เพราะการขับรถไปยังจุดที่ป้ายที่มีแสงสว่าง ทำให้ผู้ขับขี่แสบตา ก่อให้เกิดอุบัติเหตุอันตรายได้ ซึ่งพื้นที่กรุงเทพฯมีป้ายจำนวนมาก แต่ยังไม่มีการควบคุมแสงจากป้าย ทำให้หลายป้ายเปิดไฟส่องสว่างมากจนเกินไป โดยเฉพาะตามอาคารใหญ่ๆ โดยผู้บริหาร กทม. ควรต้องตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูแล และเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนนายพุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ สก.เขตยานนาวา กล่าวว่า อยากให้ร่างข้อบัญญัตินี้ควบคุม และกำหนดถึงจอ LED หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ที่มีการโฆษณา และติดไฟฟ้าเรืองแสงออกมาจากตัวอาคารด้วยนายพีรพล กนกวลัย สก.เขตพญาไท กล่าวว่า การกำหนดค่าเพื่อใช้กับผู้ขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย เป็นประโยชน์อยู่แล้ว แต่ยังมีป้ายต่างๆ ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายทุกป้าย ดังนั้น กลุ่มนี้ จะไม่ได้สนใจว่าจะกำหนดค่าเท่าไหร่ เพราะไม่ได้ขออนุญาตตั้งแต่แรก จึงฝากให้หาแนวทางแก้ปัญหาอย่างไรนายชัชชาติกล่าวว่า คงเห็นตรงกันว่า เรื่องป้ายเป็นเรื่องที่มีปัญหา และขาดการควบคุม ซึ่ง ข้อบัญญัตินี้ เน้นการบังคับใช้กับป้ายตามกฎหมายกระทรวงว่าด้วยการควบคุมป้ายฯ พ.ศ.2558 ต้องมีการพิจารณาระเบียบเพิ่มเติม และ กทม.ต้องมีการตรวจสอบป้ายผิดกฎหมายอย่างเข้มข้นขึ้นทั้งนี้ ที่ประชุมสภา กทม. ลงมติรับหลักการ ร่างข้อบัญญัติดังกล่าว พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการวิสามัญฯ จำนวน 10 คน เพื่อพิจารณาต่อไป.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่