คอลัมน์ Sustainable Together สัปดาห์นี้ได้มีโอกาสรับรู้ข้อมูลจาก บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ภายใต้การบริหารงานของ นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจขับเคลื่อนนโยบายสู่การบินอย่างยั่งยืนสายการบินบางกอกแอร์เวย์สได้มีการนำร่องใช้ “เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน” (Sustainable Aviation Fuel : SAF) ไปแล้ว เพื่อสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจภายใต้ความยั่งยืนในมิติต่างๆตามแนวทางของสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association : IATA)นายพุฒิพงศ์เล่าว่า นโยบายการขับเคลื่อนสู่การบินที่ยั่งยืน ผ่านแคมเปญ “Low Carbon Skies by Bangkok Airways” เพื่อลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการดำเนินงานทั้งระบบ โดยเฉพาะด้านปฏิบัติการบิน มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero Carbon Emissions ภายในปี 2593 โดยให้ความสำคัญต่อการจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การจัดการของเสีย การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและพลังงานทางเลือก “ทุกส่วนของธุรกิจสามารถสร้างคุณค่าใหม่ได้ หากเรานำ “ขยะ” กลับมาใช้ประโยชน์ผ่านแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ควบคู่กับการนำนวัตกรรมมาใช้ในระดับปฏิบัติการ ซึ่งสะท้อนผ่านโครงการต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม ที่มุ่งลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนจากการดำเนินธุรกิจ”การใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) การกำจัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่แหล่งกำเนิด อีกทั้งยังสอดคล้องกับอุตสาหกรรมการบินที่จำเป็นต้องเร่งปรับตัว และกำหนดแนวทางการดำเนินงานที่ตอบสนองต่อเป้าหมายการลดคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม จึงถูกวางให้เป็นหัวใจสำคัญของนโยบายด้านความยั่งยืนในภาคการบิน ท่ามกลางวิกฤตการณ์ปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กลายเป็นวาระสำคัญระดับโลก นโยบายเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการบินของไทย และวางรากฐานสำคัญสู่การพัฒนาการบินที่สมดุลกับสิ่งแวดล้อมในอนาคตสำหรับการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ทุกเศษวัสดุจึงไม่สูญเปล่า “แบบทำจริง”ผ่านโครงการต่างๆ ดังนี้ Digital Boarding Pass ส่งเสริมให้ผู้โดยสารเช็กอินออนไลน์ เพื่อลดการพิมพ์บัตรกระดาษผ่านขึ้นเครื่องบิน ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 1,240 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ต่อเดือนชุดยูนิฟอร์มที่ไม่ใช้แล้ว (อัพไซคลิ่ง) ให้เป็นผ้ากันเปื้อนสำหรับพนักงานในห้องรับรองผู้โดยสาร และยังนำมาผลิตเป็นของที่ระลึกรักษ์โลก ได้แก่ หมวก กระเป๋าผ้า ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ถังแยกขยะในเลานจ์รวมถึงส่งเสริมให้ผู้โดยสารมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ได้แก่ ขยะรีไซเคิล เศษอาหาร และขยะทั่วไป การจัดการเศษอาหาร เปลี่ยนขยะอาหารภายในเลานจ์เป็นปุ๋ยออร์แกนิก ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 12 กิโลกรัมคาร์บอน ไดออกไซด์ต่อเดือน การจัดการขยะจากเที่ยวบิน อาทิ ขวดน้ำไร้ฉลากจากการให้บริการแก่ผู้โดยสาร นำกลับมาผลิตเป็นเสื้อโปโลและสายคล้องบัตรสำหรับพนักงาน นอกจากนี้ยังส่งมอบโอกาสเพื่อสังคมที่ยั่งยืน ด้วยการสร้างโอกาสการเรียนรู้และพัฒนา เพื่อเสริมศักยภาพให้ผู้มีส่วนได้เสีย เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ทั้งร่วมโครงการ “ESG DNA” ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดเวิร์กช็อปด้านความยั่งยืน เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ด้าน ESG ให้กับพนักงานและองค์กรพันธมิตร เป็นต้นและสิ่งสำคัญคือ การบริหารงานด้วยหลักบรรษัทภิบาล คือหัวใจของความยั่งยืน ซึ่งต้องบริหารจัดการองค์กรด้วยความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับมาตรฐานระดับสากลในทุกมิติ.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่