โฆษกดีเอสไอเผยเตรียมสรุปสำนวนคดีนอมินี คดีตึก สตง.ถล่ม ระบุ 4 ผู้ต้องหายังไม่มีใครส่งเอกสารชี้แจงเพิ่มพร้อมประสาน ตม.ล่าตัว “บินลิง วู” นายทุนจีนตามหมายจับศาลอาญา ขณะที่ กก.บริษัท ว.และสหายฯ พร้อมนิติบุคคล ผู้ต้องหา 2 รายสุดท้ายเข้ามอบตัวตำรวจบางซื่อ ทั้งคู่ให้การปฏิเสธพร้อมยืนยันความบริสุทธิ์อ้างไม่เกี่ยวข้องโครงสร้างอาคารเพราะดูแลแค่ระบบไฟฟ้า-ประปา ตำรวจปล่อยตัวชั่วคราวสาวใหญ่เพราะมาในนามนิติบุคคล พร้อมนำตัว กก.บริษัทฝากขัง ศาลไม่ให้ประกันนอนคุกกับ 15 ผู้ต้องหาที่เข้าเรือนจำก่อนหน้ากรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวมีจุดศูนย์กลางที่ประเทศเมียนมา แรงสั่นสะเทือนถึงประเทศไทยและในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่งผลให้อาคารกำลังก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 แขวงและเขตจตุจักร กทม. ความสูง 30 ชั้น ทรุดตัวถล่มมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตติดอยู่ในซากจำนวนมาก เหตุเกิดช่วงบ่ายวันที่ 28 มี.ค. ต่อมาพนักงานสอบสวน บช.น.ออกหมายจับผู้ต้องหา 17 ราย มีชื่อนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ก่อนหน้านี้เคยต้องคดีล่าเสือดำทุ่งใหญ่ ที่ถูกจำคุกไปเมื่อปี 2564 และถูกปล่อยตัวจากเรือนจำทองผาภูมิเมื่อวันที่ 17 ต.ค.66 รวมอยู่ด้วย ทั้งนี้ ผู้ต้องหาตามรายชื่อดังกล่าวเข้ามอบตัวแล้ว 15 ราย อาทิ เจ้าหน้าที่วิศวกร ผู้ควบคุมงาน และกิจการร่วมค้า ในฐานะนิติบุคคล และส่วนตัว เพื่อรับทราบข้อหา “เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆโดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย” ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นล่าสุด 2 ผู้ต้องหาที่เหลือเข้ามอบตัวที่ สน.บางซื่อ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 พ.ค. นายพลเดช เทิดพิทักษ์วานิช อายุ 56 ปี กรรมการบริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด และนางประณีต แสงอลังการ อายุ 63 ปี ในฐานะนิติบุคคล บริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด พร้อมทนายความ เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ พร้อมคณะพนักงานสอบสวนที่ บช.น.แต่งตั้งทำคดีนี้นายพลเดชกล่าวว่า ไม่กังวลว่าวันนี้อาจจะไม่ได้ประกันตัวและต้องเข้าเรือนจำ เพราะเป็นกระบวนการขั้นตอนของตำรวจ วันนี้มามอบตัวแสดงความบริสุทธิ์ นำเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องมายืนยัน พร้อมต่อสู้คดี ขณะที่นางประณีตกล่าวว่า กังวลใจนิดหน่อยเป็นเรื่องปกติด้านนายพฤหัส มหาวรรณ ทนายความบริษัท ว. และสหาย เผยว่า ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ที่มาวันนี้เป็นการพานายพลเดชและนางประณีต เข้าพบตำรวจตามที่ได้นัดหมายไว้ ไม่ได้มีเจตนาหลบหนีตามที่เป็นข่าว วันนี้เตรียมเอกสารคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวที่จะยื่นต่อศาล พร้อมเงินสดประกันตัวทั้ง 2 คนอย่างน้อย 1 ล้านบาท โดยจะยื่นเหตุผลเรื่องความจำเป็นต่างๆ และพฤติการณ์แห่งคดีว่า นายพลเดช ในฐานะกรรมการ บริษัท ว. และสหายฯ ทำหน้าที่รับผิดชอบงานเฉพาะในส่วนของระบบไฟฟ้า ประปา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงสร้าง ไม่ได้ทำให้ตึกเสียหายหรือถล่มลงได้ ส่วนนางประณีตทำงานด้านบัญชี ไม่ได้เกี่ยวข้องเรื่องการก่อสร้างจะเสนอให้ศาลพิจารณาในส่วนนี้ ไม่ได้กังวลใจเรื่องการประกันตัว ให้เป็นดุลพินิจของศาลในการพิจารณานายพฤหัสกล่าวอีกว่า ไม่ได้มองว่าตำรวจกลั่นแกล้งหรือเหมารวมที่ดำเนินคดีเกี่ยวกับเรื่องการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ทั้งที่บริษัท ว. และสหายฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องเรื่องโครงสร้าง แต่มองว่าเป็นอำนาจของตำรวจที่จะทำสำนวนได้ แต่ในฐานะทนายความ และตัวแทนผู้ต้องหาจะต้องต่อสู้คดีและนำเสนอพยานหลักฐานให้ศาลเล็งเห็นข้อเท็จจริง เพราะศาลยังไม่ได้พิจารณาว่าใครกระทำความผิดในส่วนนี้บ้าง ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีการเกณฑ์พนักงานของบริษัท ว. และสหายฯ ไปถ่ายรูปโปรโมตการก่อสร้างตึก สตง. ประเด็นนี้ไม่มีข้อมูลมีรายงานว่า ที่จุดเกิดเหตุ ตึก สตง. ถล่ม เช้าวันนี้บริษัทประกันภัย 4 แห่ง ที่ สตง.ได้ทำประกันภัยไว้ นำคณะผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวจากต่างประเทศมาลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย และพิจารณาเรื่องโครงสร้างต่างๆ ว่าได้มาตรฐานหรือไม่ หลังก่อนหน้านี้มีการให้ข้อมูลว่าหากตึก สตง. ก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานแต่แรก บริษัทประกันภัยจะปฏิเสธการจ่ายเงินประกันต่อมาเวลา 12.50 น. พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ นำตัวนายพลเดช เทิดพิทักษ์วานิช กรรมการบริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด ไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากระหว่างเจ้าหน้าที่คุมตัวนายพลเดชขึ้นรถไปฝากขังศาลอาญา ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายพลเดช ถึงความกังวลใจ แต่เจ้าตัวไม่ตอบคำถามใดๆ และมีสีหน้าค่อนข้างกังวลก่อนจะรีบขึ้นรถตู้ไปทันที โดยผู้สื่อข่าวถามนายพฤหัส ทนายความ ที่เดินตามมาทีหลังว่า นายพลเดชให้การว่าอย่างไรบ้าง เจ้าตัวบอกเพียงสั้นๆก่อนขึ้นรถตู้ว่า “ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาครับ” ส่วนนางประณีต แสงอลังการ ที่มาในฐานะนิติบุคคลบริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด หลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ตำรวจปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากมาในนามนิติบุคคล ส่วน พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ ระบุว่า หลังจากผู้ต้องหาทั้ง 2 รายสุดท้ายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ทั้งคู่ได้ให้การปฏิเสธ พร้อมบอกว่าจะขอไปให้การในชั้นศาลเป็นสิทธิผู้ต้องหาภายหลังพนักงานสอบสวนนำตัวนายพลเดชขออำนาจศาลฝากขัง ศาลอนุญาตให้ฝากขังได้ นายพลเดชยื่นคำร้องและหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ยกคำร้อง เช่นเดียวกับผู้ต้องหาชุดแรกที่ฝากขังไปเมื่อวันที่ 16 พ.ค. จากนั้นศาลออกหมายขังให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวไปไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯต่อไปวันเดียวกัน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า คดีพิเศษที่ 32/2568 ความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 หรือคดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ขณะนี้เร่งสรุปสำนวนการสอบสวนอยู่ระหว่างทำร่างรายงานการสอบสวนมาจาก 2 ส่วน คือ 1.ส่วนที่ใช้สำหรับการแจ้งข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนเล็งเห็นถึงการกระทำความผิด และ 2.ส่วนสำหรับผู้ต้องหาที่จะชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา หากผู้ต้องหาส่งเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเข้ามา พนักงานสอบสวนจะต้องนำเข้าประกอบในสำนวนคดีด้วย เพื่อชั่งน้ำหนักประกอบการสั่งคดีตามพยานหลักฐาน จากนั้นจะประชุมคณะพนักงานสอบสวนคาดว่าอย่างเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้ หรือต้นสัปดาห์หน้า เพราะใกล้จะครบกำหนดฝากขังศาลอาญาผัดที่ 1 สำหรับ 4 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ได้รับรายงานล่าสุดว่าทั้ง 4 คนไม่ได้มีการส่งเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเข้ามาโฆษกดีเอสไอกล่าวต่อว่า สำหรับผู้ต้องหารายสำคัญคือนายบิน ลิง วู ก่อนหน้านี้ศาลอาญารัชดาภิเษก อนุมัติหมายจับ ลงวันที่ 15 พ.ค.68 ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 หรือนอมินี ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าวเร่งติดตามจับกุม รวมถึงจัดทำหนังสือประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยังไม่ปรากฏข้อมูลว่ามีการเดินทางออกนอกประเทศแต่อย่างใดด้าน พล.ต.ต.วิฬุรห์ ศุภสิงห์ศิริปรีชา ผบก.นต. กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์อาคาร สตง.ถล่มตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. สถาบันนิติเวชวิทยารับชิ้นส่วนศพมาทั้งหมด 314 ชิ้น ร่าง 88 ร่าง ญาติรับกลับไปแล้ว 75 ร่าง เหลืออีก 13 ร่าง และกำลังจะรวมเป็นร่างได้อีก 2 ร่าง ตั้งแต่หน่วยกู้ภัยหยุดค้นหาร่างผู้สูญหายตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 พ.ค. สถาบันนิติเวชฯยังไม่ได้รับร่างหรือชิ้นส่วนเข้ามาอีก ทุกวันนี้มีญาติมาติดต่อขอรับร่างกันตลอด เร็วบ้างช้าบ้างขึ้นอยู่กับการรับรู้ข่าวสารและระยะทาง บางคนอยู่เมียนมาก็มารับช้ากว่าคนต่างจังหวัด ข้อมูลความคืบหน้าในการพิสูจน์ร่างและจำนวนผู้สูญหายจะอัปเดตทุกวันช่วง 17.00 น. ทางเพจเฟซบุ๊กสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่