เหยื่อยังแห่แจ้งความดำเนินคดี “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” ต่อเนื่อง ล่าสุดแจ้งความแล้ว 163 คน มูลค่าความเสียหายรวม 65 ล้านบาท “บิ๊กต่าย” เร่งตำรวจสอบสวนกลาง รวบรวมหลักฐานออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี รับประสาน ปปง.อายัดทรัพย์แล้ว พร้อมสะกิดสรรพากรตรวจสอบการเสียภาษีด้วย หลังสอบพบผลประกอบการบางปีถึง 5 พันล้านบาท ปูด“บอสดารา” ทั้งหลายแหล่โดนด้วย ถึงไม่ได้เป็นผู้บริหารหรือหุ้นส่วนก็ตาม “บอสมิน” แถลงทั้งน้ำตาเป็นแค่ลูกจ้างรับงานพรีเซนเตอร์ ส่วนคำพูดในคลิปเป็นไปตามสคริปต์ที่ “ดิ ไอคอนฯ” เตรียมไว้ให้ ส่วนที่ถูกเรียกว่า “บอส” เพราะพนักงานให้เกียรติเท่านั้น ด้าน “บอย-ปกรณ์” ออกโหนกระแส อยากขอโทษทุกคน รู้สึกว่าถูกหลอกเป็นเครื่องมือทำให้คนอื่นเชื่อ วันนี้ออกมาพูดเหมือนยกภูเขาออกจากอกกรณีผู้เสียหายแห่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ตำรวจ บช.ก.ดำเนินคดีกับผู้บริหารบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด (The iCon Group Co., Ltd.) ดำเนินธุรกิจขายสินค้าเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ กล่าวหาหลอกให้ลงทุนและหาลูกข่ายมาเป็นสมาชิก โดยไม่ได้ขายสินค้าจริง สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการนำดารานักแสดงชื่อดังมาร่วมโปรโมต แต่หลังจากผู้เสียหายตัดสินใจเข้าร่วมกลับเอาเงินไปจม และถูกเกลี้ยกล่อมให้หาเครือข่ายเพิ่มเติมเพื่อให้ได้เงินคืน เบื้องต้นมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้วรวม 91 คน มูลค่าความเสียหาย 35 ล้านบาท อาจเข้าข่าย พ.ร.ก.กู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และยังจะมีผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเนื่องตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นแห่แจ้งความเพิ่มต่อเนื่องความคืบหน้าจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ต.ค. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการทำธุรกิจของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ว่า ตั้งแต่เมื่อวาน (10 ต.ค.) ต่อเนื่องถึงวันนี้ ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) มีประชาชนที่ระบุว่าเป็นผู้เสียหายเดินทางเข้าร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วประมาณ 120 ราย ความเสียหายรายละ 200,000-500,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท ขณะนี้คณะทำงานได้รับพยานเอกสารของประชาชน ในส่วนของหลักฐานการติดต่อ การชักชวนร่วมลงทุนธุรกิจและตัวอย่างสินค้า รวบรวมไว้ที่ บช.ก.เรียบร้อยแล้วเร่งเอาผิดผู้บริหารก่อน“ส่วนจะเป็นการประกอบธุรกิจขายตรงหรือไม่ ส่วนนี้ต้องตรวจสอบการจดทะเบียนขออนุญาตการประกอบกิจการ เพราะธุรกิจขายตรงต้องจดทะเบียน รวมถึงต้องสอบถามตัวแทนขายว่า ลักษณะการไปอบรม การนำทรัพย์สินไปใช้ในธุรกิจมีลักษณะใด เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายธุรกิจขายตรงหรือไม่ ต้องยอมรับว่าลักษณะธุรกิจขายตรงกับแชร์ลูกโซ่มีเส้นบางๆกั้นอยู่ ตำรวจที่ทำงานต้องพยายามรวบรวมข้อเท็จจริงสรุปวินิจฉัยอย่างรอบคอบ ภายในวันนี้จะพยายามระบุข้อหาความผิดให้ได้ว่า ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องถูกกล่าวหาความผิดเรื่องใดบ้าง ในชั้นแรกจะมุ่งไปที่ตัวผู้ประกอบการ (ผู้บริหารบริษัท) ก่อนว่ากระทำผิดประเภทไหน จากนั้นถึงพิจารณาบุคคลที่เกี่ยวข้องว่าเข้าข่ายลักษณะความผิดของตัวการด้วย หรือเป็นเพียงผู้เข้าร่วม” ผบ.ตร.กล่าวยึดคำให้การเหยื่อเป็นหลักผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวผ่านทางโซเชียลหรือการแถลงข่าวว่าไม่ได้เป็นกรรมการหรือผู้บริหารบริษัท ผบ.ตร.กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิ์ให้การและกล่าวอ้าง แต่เจ้าหน้าที่ต้องยึดคำให้การของผู้เสียหายด้วยว่า ที่ผ่านมาบุคคลเหล่านั้นมีพฤติการณ์อย่างไรบ้าง กระบวนการของตำรวจคือ การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ถ้าพบว่ากระทำความผิดจะแจ้งข้อกล่าวหา แต่ตราบใดที่เรื่องไปถึงศาลและศาลยังไม่พิพากษาว่าเป็นผู้ต้องหาพวกเขาจะเป็นผู้บริสุทธิ์ ขณะนี้เราทำงานอย่างเต็มที่เพราะรู้ว่าพี่น้องประชาชนกำลังเดือดร้อนจากเหตุการณ์นี้ประสาน ปปง.อายัดทรัพย์แล้ว“คดีในอดีตคือ บทเรียน บางทีตำรวจถูกฟ้อง กำชับว่าให้ทำอย่างรอบคอบ เป็นไปตามกฎหมายอย่างแท้จริง พนักงานสอบสวนจำเป็นต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ ข้อเท็จจริงที่ปรากฏรายละเอียด เหตุการณ์ที่ผู้เสียหายแต่ละคนถูกกระทำ ในส่วน ปปง. สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งหนังสือระบุถึงพฤติการณ์ผู้บริหารบริษัทดังกล่าวประกอบคำให้การผู้เสียหาย ผมพูดคุยกับเลขาธิการ ปปง.โดยตรงว่า เรื่องนี้ตำรวจมีหน้าที่สอบสวน แต่ไม่มีอำนาจยึดทรัพย์ใคร แต่มองว่าพี่น้องประชาชนกำลังเดือดร้อน ดังนั้นผู้ถูกกล่าวหาอาจกระทำความผิด ข้อห่วงใยจากตำรวจคือ ขอให้เร่งรัดพิจารณายุติการดำเนินธุรกรรมทางการเงินของผู้บริหาร วันนี้จะประชุมระหว่าง ปปง. สคบ. และตร.เพื่อติดตามความคืบหน้า ยืนยันว่าหนังสือที่ส่งถึง ปปง.ครบถ้วนรอบคอบแล้ว เป็นความคิดที่ตำรวจเข้าใจประชาชนว่าเดือดร้อน จากที่คิดว่าถูกหลอกลวงทรัพย์สินเงินทอง” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวดาราไม่รอดดำเนินคดีด้วยถามว่ากรณีดาราที่มีส่วนทำให้ประชาชนตัดสินใจมาร่วมลงทุน และระบุว่าตนไม่ใช่ฝ่ายบริหารจะพิจารณาดำเนินคดีความผิดใดหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ถ้าข้อเท็จจริงที่ได้พาดพิงถึงใครยืนยันว่าจะเรียกมาสอบสวนทั้งหมด หากพบพฤติการณ์มีส่วนร่วมกระทำความผิดต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหาด้วย แม้บุคคลนั้นจะไม่มีตำแหน่งในบริษัท แต่มีพฤติการณ์ความผิด ทั้งนี้เตรียมป้องกันผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดหลบหนีออกนอกประเทศ ตำรวจเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาผู้บริหารดิไอคอนกรุ๊ป ขอ ปปง.เร่งอายัดทรัพย์ทันที ส่วนดาราแม้ไม่บริหารงานแต่การกระทำชัด แจ้งข้อหาได้ บุกค้น “ดิไอคอน” หาหลักฐานเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ป.สั่งการให้ พ.ต.ต.ศษฏพงศ์ สิริวัฒน์ สว.กก.1 บก.ปคบ.พร้อมกำลัง ร่วมกับนายวิธิเนศวร์ เนียมมีศรี นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ (สคบ.) พร้อมคณะทำงาน สคบ.เข้าตรวจสอบบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป ถนนรามอินทราแยกซอย 42-46 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. ใช้เวลากว่า 2 ชม. การเข้าตรวจค้นครั้งนี้เพื่อตรวจสอบเอกสารต่างๆ ของบริษัท รวมทั้งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดก่อนจะนำผลิตภัณฑ์ของดิไอคอนกรุ๊ป จำกัดรวม 14 รายการ ประกอบด้วย BOOM COCOA, ROOM COFFEE กาแฟเสริมสร้างภูมิต้านทาน, ICON MEAL อาหารควบคุมหรือลดน้ำหนัก, BOOM GLUTA SHOTS, BOOM Collagen, Room fiberry ช่วยดีทอกซ์ร่างกาย ขับสารพิษ, ยาสีฟัน Boom Nutrition Toothpaste, Boom D-MAX เม็ดฟู่ชะลอวัย BOOM IZ บำรุงดวงตา, icon face เซรั่มบำรุงผิว, icon face iserum , vitamin c complex, icon face exo cream, ZIP อาหารเสริมส่งไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบว่าได้มาตรฐานหรือไม่“ทนายตั้ม-อี้” แจ้งความ “บอส”ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ พร้อมด้วยนายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรืออี้-แทนคุณ เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.ยื่นหลักฐานแจ้งดำเนินคดีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทดิไอคอนฯระดับบอส 6 คน ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และฟอกเงิน นายษิทรากล่าวว่า มาแจ้งดำเนินคดีกลุ่มบอสศิลปินดารา ประกอบด้วย บอส-พอล บอส-กันต์ บอส-แซม บอส-มิน บอส-ปีเตอร์ และบอส-หมอเอก เป็นการแจ้งเอาผิดตัวบุคคลเพราะมีพยานหลักฐานที่ได้รับมาจากผู้เสียหายว่า ธุรกิจดังกล่าวไม่มีสินค้าอยู่จริง แต่หลอกให้ลงทุนสมัครคอร์สเรียนออนไลน์ คล้ายแชร์ลูกโซ่แฉจ้องเหยื่อกระเป๋าหนักนายษิทรากล่าวอีกว่า อย่างกลุ่มผู้เสียหาย 4 คนที่เคยมาร้องเรียนตนเล่าว่า หากใครมีเงินมีฐานะจะได้เข้าพบเจอตัวบอส-พอล นัดทานข้าวโดยมีบอสต่างๆสลับหมุนเวียนเข้ามาพูดคุย ท่ามกลางบรรยากาศภายในห้องที่มีแต่จานชามหรูหราลายหลุยส์ จากนั้นจะชักชวนร่วมลงทุนโดยไม่มีการพูดถึงตัวสินค้า พูดแค่ว่า ลงทุนแล้วเดี๋ยวรวยเองบริษัทจัดการให้ อีกทั้งระหว่างพูดคุยกันจะมีคนที่อ้างตัวว่า เป็นเซลล์เสื้อผ้าแบรนเนมด์เดินเอาเสื้อผ้าเข้ามาขายให้ถึงออฟฟิศ ทำให้เหมือนเป็นคนสำคัญบริการถึงที่ ดูน่าเชื่อถือ สำหรับผู้เสียหายที่มาร้องเรียนตน เบื้องต้นถูกหลอกนำเงินไปลงทุน 3 คน คนละ 2.5 แสนบาท แต่เวลาผ่านมา 1 ปี ยังไม่เคยได้รับสินค้า จนแน่ชัดว่าเป็นการฉ้อโกงประชาชนไม่ได้ขายสินค้าแต่ค้าสมาชิก“ส่วนกลุ่มศิลปินดาราต่างๆที่เป็นระดับบอส แม้เมื่อวานจะแถลงการณ์ว่า ไม่ได้เป็นผู้ลงนามหรือถือหุ้น เป็นแค่ผู้ช่วยการตลาด แต่คุณทำมาเป็นปีย่อมรู้ระบบการจัดการของธุรกิจดังกล่าวทุกอย่าง ดังนั้นจะมาอ้างว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้ ยิ่งออกมาแบบนี้ยิ่งตอกย้ำเลยว่าเป็นการหลอกลวงประชาชน เป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ และอย่างที่บอส-มินเคยพูดบนเวทีว่า ขายของได้เป็นล้านชิ้น อยากถามว่าของมีจริงหรือเปล่า มีใครเคยซื้อบ้าง แต่เท่าที่ทราบของไม่มีอยู่จริง แค่หลอกขายสมาชิกให้มาร่วมลงทุน ที่สำคัญการที่คนเข้าไปซื้อหรือร่วมลงทุนกับบริษัท ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้คนเชื่อมั่นในตัวศิลปินดาราที่เป็นบอส เพราะคิดว่าดาราดังระดับนี้คงไม่หลอกเงินหรอก นอกจากนี้ยังเชื่อว่า กลุ่มบอสศิลปินดาราเหล่านี้ ได้รับผลประโยชน์จากการหลอกสมาชิกมาร่วมลงทุน ไม่น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์” ทนายตั้มกล่าวผ่องถ่ายเงินไปบ้างแล้วนายแทนคุณกล่าวว่า อย่างที่ทนายตั้มพูดไป ธุรกิจนี้ไม่เน้นขายของ แต่เน้นหาคนมาร่วมลงทุน เป็นไปไม่ได้เลยที่บอสศิลปินดาราทั้งหลายจะไม่ทราบว่า มีกระบวนการนี้อยู่ในเครือข่าย เท่าที่ทราบมาดาราเหล่านี้จะได้รับส่วนแบ่งไม่ต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ผู้เสียหายกว่า 700 คนที่หลงเชื่อนำเงินไปร่วมลงทุน เพราะพวกเขาเชื่อมั่นในตัวศิลปินดารา ส่วนยอดเงินของบริษัทที่ได้รับจากผู้เสียหายเชื่อว่าน่าจะหลายพันล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ยังทราบอีกว่า บอสดาราบางรายผ่องถ่ายเงินไปยังคนใกล้ชิดเพื่อเลี่ยงการตรวจสอบ ส่วนบอสหมอทราบข้อมูลว่า ไม่ใช่หมอจริงๆด้วยผลประกอบการปีละ 5 พันล้านต่อมาเวลา 13.30 น. หน้าอาคารกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน รอง ผบก.อก.บช.ภ.6 ฐานะรองโฆษก ตร.กล่าวว่า ขณะนี้ยอดผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 163 คน มูลค่ารวม 65 ล้านบาท เมื่อเช้าตำรวจ ปคบ.พร้อมเจ้าหน้าที่ สคบ.เข้าตรวจสอบสำนักงานบริษัทดังกล่าวเพื่อค้นหาข้อมูลธุรกิจ ยึดผลิตภัณฑ์ 14 รายการมาตรวจสอบ จากแนวทางสืบสวนทราบว่า บริษัทดังกล่าวมีผลประกอบการบางปีสูงถึง 5 พันล้านบาท ทั้งที่มีผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายเพียง 15 รายการ ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่ายอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สอดคล้องกับรายได้หรือไม่ มีผลิตภัณฑ์ไปขายจริงหรือไม่ นอกจากนี้ตำรวจ ปคบ.ยังนำบัญชีธนาคารผู้เกี่ยวข้องกับบริษัทและกลุ่มดาวไลน์จำนวนกว่า 120 บัญชี ส่งให้ ปปง.ตรวจสอบ วิเคราะห์หาธุรกรรมต้องสงสัยต่างๆทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นอสังหาฯพ.ต.อ.อุเทนกล่าวอีกว่า คดีนี้ ผบ.ตร.กำชับให้เร่งดำเนินการเร็วที่สุด เร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้อง ความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกง ฉ้อโกงประชาชน และฟอกเงิน ชัดเจนภายใน 48 ชม. ส่วนทรัพย์สินสืบสวนพบว่า ส่วนใหญ่เป็นอสังหาริมทรัพย์เคลื่อนย้ายหรือผ่องถ่ายยาก ไม่กังวล เชื่อว่าตรวจยึดเฉลี่ยคืนผู้เสียหายได้ ธุรกิจขายตรงกับธุรกิจตลาดแบบตรงขออนุญาตดำเนินกิจการได้ กรณีนี้เป็นธุรกิจตลาดแบบตรงคือ ทำธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ หากปฏิบัติถูกต้องไม่ผิดกฎหมาย แต่มีเส้นบางๆกับคำว่าแชร์ลูกโซ่ ต้องมาดูว่าผลิตภัณฑ์มีมาตรฐานหาซื้อได้ตามท้องตลาดหรือไม่ รวมไปถึงวิธีการขาย ใช้วิธีโปรโมตหรือดำเนินธุรกิจลักษณะระดมทุน หากระดมทุน มุ่งเน้นโฆษณาชวนเชื่อ ไม่มุ่งเน้นขายคุณภาพสินค้าจะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่สรรพากรตรวจการเสียภาษี“บ่ายวันนี้คณะทำงานนัดประชุมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง หารือเกี่ยวกับการตั้งข้อหาผู้กระทำผิดให้ครบถ้วน จากนั้นช่วงเย็นจะหารือร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่าคดีเข้าเงื่อนไขเป็นคดีพิเศษหรือไม่” พ.ต.อ.อุเทนกล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า บุคคลแรกในคดีที่จะถูกออกหมายจับคือใคร และในส่วนของศิลปินดาราจะออกหมายเรียกมาเข้าพบพนักงานสอบสวนหรือไม่ พ.ต.อ.อุเทนตอบว่า คดีนี้ยืนยันว่าดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่มีการออกหมายเรียกแต่จะเป็นการออกหมายจับเลย เพราะถือเป็นคดีที่มีอัตราโทษเกิน 3 ปี ขอเวลาไม่เกิน 48 ชม.จะชัดเจน เช่นเดียวกับเรื่องการเสียภาษีสรรพากรตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะแถลงรายละเอียดในวันที่ 15 ต.ค. ตอนนั้นจะรู้ว่ารายละเอียดยอดขายของบริษัทตรงหรือสอดคล้องกับรายได้หรือไม่ผบ.ตร.รุดรายงาน “นายกฯอิ๊งค์”เวลา 17.00 น. ที่ท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯเดินทางกลับจากการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 44 และ 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ไปรอเข้ารายงานสถานการณ์อาชญากรรมที่เกิดขึ้นในประเทศ รวมถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีดิไอคอนกรุ๊ป ที่ห้องรับรอง บน.6 จากนั้น น.ส.แพทองธารเดินออกมาจากห้องรับรอง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามคดีดังกล่าว แต่นายกฯไม่ตอบคำถาม เพียงแต่โบกมือให้และพูดว่า “สบายดี”นายกฯสั่งให้ดูแลอย่างใกล้ชิดนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐรายงานกรณีการดำเนินคดีกับดิ ไอคอน กรุ๊ป น.ส.แพทองธารสั่งการให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐไปติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อเป็นบรรทัดฐานการแก้ไขปัญหาให้กับคดีความต่างๆ เพราะช่วงหลังเห็นว่ามีคดีลักษณะนี้มากขึ้น และให้ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)กมธ.ปปง.จ่อเชิญผู้บริหารแจงนายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรค พท.ฐานะประธานคณะ กมธ.การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด (ปปง.) สภาฯ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าตรวจสอบคดีดิ ไอคอน กรุ๊ปว่า เบื้องต้น กมธ.จะนำเรื่องเข้าสู่ กมธ.เพื่อเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงาน ปปง. สคบ.รวมถึงอาจให้โอกาสผู้บริหารดิ ไอคอน กรุ๊ปมาชี้แจงด้วย เบื้องต้นวันที่ 16 ต.ค. กมธ.จะพิจารณาตามพื้นฐานข้อมูลเท่าที่มีก่อน อาจออกหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้บริหารดิไอคอนฯในสัปดาห์ถัดไป ตอนนี้โมเดลธุรกิจของเขาดูสุ่มเสี่ยงเป็นแชร์ลูกโซ่ แต่หากเราไปดูในข้อเท็จจริงเขาก็มีสินค้า มีโกดังเก็บสินค้าจริง เพียงแต่รูปแบบการจ่ายเงินก่อนแล้วได้สินค้า ถ้าส่งสินค้าจริงถูกต้อง มันก็ไม่มีอะไรที่เป็นความผิด แต่ต้องดูว่าการเอาบุคคลที่มีชื่อเสียงมาโฆษณา เกินจริงหรือไม่ รวมถึงคุณภาพสินค้าดาราอ้างแค่พรีเซนเตอร์ไม่ได้ถามว่า ตอนนี้คนเชื่อไปด้วยว่าเหล่าดาราเป็นบอสเอง หากพบว่า ทำให้คนหลงเชื่อและคิดแบบนั้นจริง ตัวดาราเองมีความผิดใช่หรือไม่ นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า แน่นอน จะอ้างว่าไม่รู้เป็นแค่พรีเซนเตอร์อย่างเดียวไม่ได้ ดาราถือเป็นบุคคลสาธารณะที่มีคนสนใจ คนอาจมีความเชื่อถือ ต้องตรวจสอบว่าใช้จริงหรือไม่ เพราะมีการนำเสนอก็เป็นการหลอกลวงประชาชนได้เหมือนกัน ต้องลงรายละเอียดว่า ตรงไหนมันเข้าข่ายผิดกฎหมายและผิดอะไร เกี่ยวข้องกับเรื่องฉ้อโกงหรือไม่ แชร์ลูกโซ่หรือไม่ ถ้ามีเรื่องการฉ้อโกงและแชร์ลูกโซ่ เป็นมูลฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ปปง.อยู่แล้วอย.บอกสินค้า “ดิไอคอน” ถูกต้องกรณีมีผู้เสียหายจากบริษัทธุรกิจออนไลน์และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพ “THE iCON GROUP” เป็นจำนวนมาก โลกออนไลน์ขุดคุ้ยข้อมูลต่างๆรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่บริษัทจัดจำหน่ายพบว่า มีสินค้า 1 รายการที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เคยประกาศเตือนถึงการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการ อย.เผยว่า ประกาศแจ้งเตือนผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นของเก่าที่แจ้งเตือนไว้ตั้งแต่ปี 2566 ขณะนั้นมีการโฆษณาสรรพคุณสินค้าเกินจริง อย.ออกประกาศเตือนผู้บริโภคตามกระบวนการปกติ และแจ้งเจ้าของผลิตภัณฑ์รับทราบ ดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว หลังจากนั้นเจ้าของผลิตภัณฑ์นำโฆษณาดังกล่าวออก ปัจจุบันสินค้าจากบริษัทได้รับการตรวจสอบเพื่อขึ้นทะเบียนถูกต้อง ฉะนั้น ปัญหาขณะนี้ไม่ได้เป็นปัญหาเรื่องตัวสินค้า แต่เป็นเรื่องของการดำเนินธุรกิจที่มีแม่ข่ายซื้อสินค้าจำนวนมาก แต่ตัวสินค้าไม่มีปัญหาอะไรผู้เสียหายทะลุ 250 คน 95 ล.ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล เวลา 16.00น. น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือกรณีบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด มีนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. พล.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ว่าที่อธิบดีดีเอสไอ น.ส.ทรงศิริ จุมพล รองเลขาธิการ สคบ. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมใช้เวลาประมาณ 2 ชม. น.ส.จิราพรแถลงว่า ขณะนี้มีผู้ร้องเรียน 250 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 95 ล้านบาท ขณะนี้เก็บข้อมูลหลักฐานและจะดูว่านำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาความผิดฐานอะไรบ้าง เร่งสอบสวนให้เร็วที่สุดอย่างช้าไม่เกิน 1 สัปดาห์จะสรุปผลได้แจงให้โล่สาธารณประโยชน์“ส่วนกรณีปรากฏภาพ สคบ.มอบโล่ให้ “บอสพอล” ตอนนั้นทางบริษัทเข้ามาบริจาคหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ให้คณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรในต่างจังหวัด สคบ.เข้าไปเป็นวิทยากรร่วมได้เสนอชื่อได้รับโล่รางวัลเกี่ยวกับการทำสาธารณประโยชน์ ไม่ได้เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ ประเด็นนี้สั่ง สคบ.ให้เข้าไปตรวจสอบ ถ้าใช้โล่รางวัลผิดวัตถุประสงค์หรือไปโฆษณาว่าเป็นการประกอบธุรกิจ หรือเอื้ออำนวยประกอบธุรกิจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดจะเรียกคืนโล่รางวัล” น.ส.จิราพรกล่าว“บอสมิน” แถลงพันดิไอคอนฯที่โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพฯ รัชดา เวลา 14.00 น. มิน-พีชญา วัฒนามนตรี นักแสดงสาวพร้อมด้วยนายอนุสิทธิ์ ถึงสุข ผู้จัดการส่วนตัวและทนายความ 2 คน แถลงชี้แจงกรณีมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรดิไอคอนกรุ๊ปว่า เป็นเพียงผู้รับจ้างในตำแหน่งพรีเซนเตอร์และผู้บริหารจัดการฝ่ายสื่อสารการตลาดออนไลน์ หรือพีอาร์สื่อสารองค์กร ไม่ได้เป็นหุ้นส่วนใดๆในบริษัท ได้รับค่าจ้างเท่าค่าตัวพรีเซนเตอร์ธรรมดา ไม่ใช่ 10 ล้าน 100 ล้านตามข่าว ไม่ได้รู้จักบอสพอล-นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล มาก่อน เพิ่งเข้ามารับงานช่วงเดือน มี.ค.2566 ยินดีให้ความร่วมมือกับตำรวจในการสอบสวนคดีอย่างเต็มที่ และขอยุติสัญญากับดิไอคอนฯทั้งหมด หลั่งน้ำตาแจงแค่ลูกจ้างมิน-พีชญา กล่าวทั้งน้ำตาว่า เสียใจที่เกิดเหตุการณ์นี้ ตัวเองเป็นเพียงผู้รับจ้าง ในสัญญาระบุว่า ตำแหน่งผู้บริหารจัดการฝ่ายสื่อสารตลาดออนไลน์คือ สื่อสารองค์กร รับเงินเป็นรายเดือนตามปริมาณงานที่ทำ ส่วนคำว่า “บอส” พนักงานเรียกเพื่อให้เกียรติ ไม่ได้ถือหุ้นหรือร่วมหาลูกค้า ที่ผ่านมาไม่ได้เอะใจเพราะบริษัทเปิดมา 6 ปี ตนเพิ่งเข้ามาได้ปีเดียว ก่อนหน้านี้บริษัทไม่เคยมีปัญหาอะไร ยังได้รับการการันตีจาก สคบ.ด้วย พยายามตรวจสอบมากที่สุด แม้กระทั่งการเสียภาษีว่าจ่ายถูกต้องหรือไม่ ตนอยู่ในวงการมา 20 กว่าปี ไม่เคยเสียหายเรื่องรับพรีเซนเตอร์ ไม่เคยรับงานสีเทาหรืองานเสี่ยง ที่บ้านมีธุรกิจร้านวัสดุก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ ตัดสินใจร่วมงานฐานะผู้ถูกจ้าง ไม่มีเงินโบนัส ไม่มีเงินพิเศษ ข้อมูลที่พูดออกงานต่างๆได้รับจากบริษัท มีสคริปต์ มินพูดด้วยความจริงใจและเชื่อทั้งหมดว่า บริษัทและผลิตภัณฑ์ทั้งหมดสามารถช่วยให้คนดีขึ้นได้ มินลองใช้จริงทุกตัว ครอบครัวก็รับประทานจนวันนี้ ได้ยินเรื่องตกใจมากขอยุติสัญญาดิไอคอนกรุ๊ปมิน-พีชญา กล่าวต่อว่า ได้คุยกับบอสพอลว่าเห็นคลิปหรือยัง จะจัดการอย่างไร เขาแจ้งว่าจะไลฟ์สด แต่รอ 3-4 วัน ไม่เห็นออกมาแถลงข่าวหรือให้ความชัดเจน มินจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ตอนนี้ทุกอย่างมันช้าไปหมด ทำให้ทุกอย่างเกิดความเสียหาย เมื่อเกิดเหตุขึ้นมินเสียใจมากจะยุติสัญญากับดิไอคอนกรุ๊ปทั้งหมด แม้ยังไม่มีการตรวจสอบว่าถูกหรือผิดแต่มินขอเลือกข้างประชาชน เลือกความยุติธรรม ความถูกต้อง หลังจากนี้มินจะไม่หนีไปไหน จะรวบรวมพยานหลักฐานนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เสียใจและโทษตัวเองที่ทำให้เกิดความเสียหายกับประชาชน พร้อมช่วยทุกอย่างให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเร็วที่สุด ถ้ารู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ จะไม่ร่วมงานตั้งแต่แรก“บอย-ปกรณ์” ขอโทษผู้เสียหายด้านบอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ออกรายการโหนกระแสทางช่อง 3 เผยว่า เมื่อปี 63 บอสพอลติดต่อมาให้เป็นพรีเซนเตอร์เกี่ยวกับเวย์โปรตีนสัญญา 1 ปี แล้วเว้นไป 1 ปี ในปี 65 ติดต่อกลับมาให้เป็นพรีเซนเตอร์กาแฟแล้วต่อสัญญาต่อปี 66 -67 สัญญาระบุชัดเจนว่า ทำหน้าที่พรีเซนเตอร์ มีงานถ่ายโฆษณาสินค้า ออกงานอีเวนต์ ถ่ายคอนเทนต์ ยืนยันว่าไม่ใช่บอส ส่วนเรื่องคลิปตนพูดบนเวทีถึงสินค้า ก็พูดตามสคริปต์ทำนองให้กำลังใจตัวแทน ไม่ได้เฉลียวใจเรื่องมีผู้เสียหาย มารู้พร้อมทุกคนตอนมีข่าวว่ามีผู้เสียหายสต็อกของ 2.5 แสน ล้านนึง ของขายไม่ได้ ได้ยินแล้วเสียใจ อาชีพตนคือนักแสดง การมาสร้างความเชื่อมั่นแล้วทำให้เกิดความเสียหาย ยอมรับว่ามีส่วน หลังมีข่าวไม่สบายใจ วันนี้ ออกมาพูดเหมือนยกภูเขาออกจากอก อยากขอโทษทุกคน ยินดีให้ข้อมูลพร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย แม้จะหักกับบอสพอลก็พร้อม รู้สึกว่าถูกหลอก ถูกยืมเป็นเครื่องมือทำให้คนอื่นเชื่อ วันนี้ขอยืนอยู่ข้างประชาชน “พีพี-กฤษฏ์” แค่รับพรีเซนเตอร์ด้านบริษัทพีพีกฤษฏ์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ต้นสังกัดศิลปินดัง “พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร” ที่มีภาพร่วมเป็นพรีเซนเตอร์ธุรกิจ “ดิไอคอน กรุ๊ป” ชี้แจงว่า “พีพี-กฤษฏ์”ทำสัญญาผ่านบริษัทพีดีพีเอ็ม จำกัด เป็นผู้แสดงแบบโฆษณาสินค้า ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม“บูม ไอซี” หรือ“Boom iZ” ให้บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ระยะเวลาว่าจ้างเริ่มเดือน มิ.ย.65 ถึงเดือน พ.ค.66 ขอบข่ายการทำงานทั้งถ่ายภาพนิ่งโปรโมตผลิตภัณฑ์ ถ่ายทำรายการออนไลน์พีพี x กันต์ 1 ครั้ง เพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ และร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ 1 ครั้ง นโยบายในการพิจารณารับงานบริษัทฯพิจารณามาตรฐานของสินค้าที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานรัฐ รวมถึงบทบาทหน้าที่ที่ผู้ว่าจ้างกำหนด ต้องไม่ใช่การอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง แต่ในส่วนกลไกการตลาดหรือการบริหารภายในของผู้ว่าจ้างจะดำเนินการเช่นใด อย่างไร ศิลปินไม่มีส่วนร่วมหรือดำเนินการหรือการบริหารบริษัทฯ พีพี-กฤษฏ์ พร้อมชี้แจง สนับสนุนร่วมมือให้ข้อมูลทุกประการ พร้อมขออภัยผู้ได้รับผลกระทบจากการเลือกรับงานให้ศิลปิน จะระมัดระวังการเลือกรับงานให้รอบคอบมากขึ้นในอนาคตเจ้าตัวยํ้าตกใจแต่ไม่เกี่ยวเวลา 19.30 น. พีพี-กฤษฏ์ แถลงเปิดใจ ถึงประเด็นที่เกี่ยวกับ “ดิไอคอนกรุ๊ป” ที่ห้อง 101 ชั้น 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พีพีกล่าวยืนยันเช่นเดียวกับการแถลงของบริษัทว่า ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รู้สึกไม่สบายใจเลยออกมาพูด รับทราบแค่ข้อมูลสินค้าอย่างเดียว สัญญาพรีเซนเตอร์ระบุในสัญญาจ่ายเงิน 2 งวด เป็นค่าถ่ายแบบโฆษณาสัญญาระบุ 1 ปี กิจกรรมภายในบริษัทกลไกการตลาดไม่ทราบเลย และไม่รู้จักกับคุณพอลเป็นการส่วนตัว 1 ปีได้เจอเขาแค่ 3 วัน และไม่เคยชวนให้ร่วมงาน ที่ออกมาพูดเพราะเป็นห่วงความรู้สึกของแฟนๆ เป็นห่วงผู้เสียหายทุกคน อยากให้ทุกคนทราบสิ่งที่มันเกิดขึ้น ตนยินดีให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ทุกอย่าง“กันต์” หนึ่งในบอสนัดแถลงข่าวช่วงค่ำ กันต์ กันตถาวร หนึ่งในบอสดิไอคอน กรุ๊ป หลังจากเก็บตัวเงียบมาหลายวันมีความเคลื่อนไหว แค่ในเฟซบุกส่วนตัว ได้โพสต์เฟซบุกอีกครั้งระบุว่าขอเชิญนักข่าวทุกท่านร่วมฟังการแถลงข่าวของกันต์ กันตถาวร ในกรณีดิไอคอน กรุ๊ป ในเวลา 14.00 น. วันที่ 12 ตุลาคม 2567 ณ สนามกอล์ฟ Phothalai bangkok ห้อง hole im oneอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่