การประชุมแลกเปลี่ยนด้านการส่งเสริมสินค้าเกษตรร่วมกับองค์การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน กับประเทศไทย นำโดย ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในช่วงไม่กี่ วันก่อน มีหลายเรื่องราวที่น่าสนใจหนึ่งในนั้นได้รับการเปิดเผยจากนายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง การประชุมครั้งนี้กรมประมงได้เร่งผลักดันสินค้าประมงเศรษฐกิจที่น่าสนใจ และคาดว่าจะตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนอีก 3 ชนิด ได้แก่ เนื้อจระเข้แห้ง กุ้งก้ามกรามมีชีวิต และปลากะพงขาวแช่แข็งสินค้าเหล่านี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานจีน ซึ่งจะมีการประชุมเจรจาด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชร่วมกันในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2567 ณ สาธารณ รัฐประชาชนจีนในส่วนของสินค้าปลากะพงขาวแช่แข็ง ทางรัฐบาลจีนมีกำหนด การมาตรวจระบบการเพาะเลี้ยง และการบริหารจัดการในห่วงโซ่อุปทาน ณ ประเทศไทย ในช่วงเดือนตุลาคม 2567 เพื่อยืนยันว่าระบบบริหารจัดการของประเทศไทยเป็นไปตามมาตรฐาน ปลอดภัย และมีคุณภาพโดยเรื่องนี้ท่านรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทางทูตเกษตรเร่งประสานงานเรื่องดังกล่าว เพื่อเพิ่มช่องทางการค้าสินค้าประมงคุณภาพมายังจีนต่อไปทั้งนี้ สำหรับสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทย โดยเมื่อปี 2566 ประเทศไทยมีการส่งออกสินค้าประมงไปจีนปริมาณ 198,196 ตัน มูลค่าสูงถึง 22,722 ล้านบาทเป็นสินค้าประมงทั้งแช่แข็ง พร้อมปรุง สินค้าสด อาทิ กุ้งขาวแช่เย็นจนแข็ง กุ้งกุลาดำแช่เย็นจนแข็ง หมึกกล้วยแช่เย็นจนแข็ง ปลาแช่เย็นจนแข็ง ปลาป่น ทูน่ากระป๋อง หอยลายมีชีวิต ซูริมิปรุงแต่ง และเครื่องปรุงรส ฯลฯเมื่อเทียบปริมาณนำเข้ากับสินค้าตัวเดียวกันในปี 64 (161,385.68 ตัน) และ 65 (162,771.10 ตัน) พบมีแนวโน้มความต้องการนำเข้าสินค้าประมงจากไทยเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวจีนมั่นใจและนิยมรับประทานสินค้าและผลิตภัณฑ์ประมงของไทย.สะ–เล–เตคลิกอ่าน "หน้ามองฟ้า เท้าหยั่งดิน" เพิ่มเติม