ชุดสืบสวนนครบาลปฏิบัติการ ไม่ถึง 24 ชม. ช่วยนักท่องเที่ยวสาว ชาวจีนสำเร็จ หลังพ่อที่อยู่เซี่ยงไฮ้ ถูกแก๊งคนร้ายเรียกค่าไถ่ 5 ล้านหยวน คิดเป็นเงินไทยกว่า 25 ล้านบาท ตำรวจตามเจอเดินอยู่ในห้างดังย่านบางนา เมื่อพบตำรวจผู้เสียหายถึงกับร้องไห้โฮ พาเดินทางมาสอบสวนหารายละเอียดอย่างเร่งด่วนพร้อมเจ้าหน้าที่สถานทูตจีน เบื้องต้นเชื่อเป็นแก๊ง คอลเซ็นเตอร์ประเภทหนึ่ง ก่อเหตุติดต่อข่มขู่เหยื่อโดยไม่พบเห็นตัว แต่ใช้ความหวาดกลัวของเหยื่อเป็นข้อได้เปรียบ เร่งสืบสวนหาเบาะแสเพื่อลากคอมาลงโทษแล้วตำรวจรับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนถูกจับตัวเรียกค่าไถ่รายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อคืนวันที่ 7 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง รับแจ้งจากล่ามแปลภาษาจีนชาวไทยชื่อเล่นนายหมู (ไม่ขอเปิดเผยชื่อและนามสกุลจริง) เป็นล่ามของสมาคมจักรยานแห่งประเทศไทย ว่ามีโค้ชทีมชาติคนหนึ่งประสานผ่านตน ขอให้โทรศัพท์แจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง หลังได้รับการประสานจากบิดา น.ส.ซินเล่ย ลู่ (XINLEI LU) อายุ 27 ปี สัญชาติจีนทางวีแชตว่า บุตรสาวเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยกับกลุ่มเพื่อนประมาณ 10 กว่าคนถูกจับตัวเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 5 ล้านหยวน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 25 ล้านบาทให้รายละเอียดว่า น.ส.ซินเล่ย ลู่ เดินทางมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ครั้งแรกเข้าพักที่ห้อง 1016 โรงแรมเอเวอร์กรีนเพลสสยาม บายยูเอชจี เขตพญาไท ต่อมาย้ายไปพักที่ห้อง 315 โรงแรมเดอะควอเตอร์ อ่อนนุช บาย ยูเอชจี ซอยสุขุมวิท 58 แขวงพระโขนงใต้ เขตพระโขนง กทม. ต่อมากระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 7 มิ.ย. พ่อผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า มีคนร้ายเป็นผู้ชายใช้แอปพลิเคชันวีแชตที่นิยมใช้ในประเทศจีน โทร.เข้าไปหาอ้างว่าจับกุมตัว น.ส.ซินเล่ย ลู่ เอาไว้ ข่มขู่ให้โอนเงินจำนวน 5 ล้านหยวนไปให้ แล้วจะส่งตัวลูกสาวกลับไปให้ที่เมืองเซี่ยงไฮ้หลังรับข้อมูลชุดสืบสวน สน.พระโขนง รีบรายงานผู้บังคับบัญชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แล้วเดินทางไปตรวจสอบที่โรงแรมเดอะควอเตอร์ อ่อนนุช บาย ยูเอชจี ซอยสุขุมวิท 58 ได้ข้อมูลจากพนักงานของโรงแรมว่า น.ส.ซินเล่ย ลู่ เช็กอินเข้าพักแล้วและเดินออกจากโรงแรมไปเวลาประมาณ 15.11 น. วันที่ 6 มิ.ย. จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงแรมพบ ภาพ น.ส.ซินเล่ย ลู่ เดินออกจากโรงแรมไปเพียงลำพังต่อมานายหมูส่งข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า รับแจ้งจากพ่อของ น.ส.ซินเล่ย ลู่ ว่าได้ข้อมูลว่าลูกมีการจองตั๋วเครื่องบินสายการบินต้นทุนต่ำสกู๊ต เดินทางจากประเทศไทยไปประเทศสิงคโปร์ ด้วยเที่ยวบินที่ TR 617 เวลา 20.25 น. ฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง รีบประสานงาน สว.สส.กก.3 บช.ทท.ตรวจสอบ แต่ยังไม่พบข้อมูลว่า น.ส.ซินเล่ย ลู่ เดินทางออกนอกประเทศ จึงดำเนินการสืบสวนติดตามตัวต่อไปที่ สน.พระโขนง เวลา 09.50 น. วันที่ 8มิ.ย. พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ประดับไทย ผกก.สน.พระโขนง เผยผ่านโทรศัพท์ว่า น.ส.ซินเล่ย ลู่ อายุ 27 ปี ชาวจีน เดินทางออกจากโรงแรมเดอะควอเตอร์ อ่อนนุช บาย ยูเอชจี ซอยสุขุมวิท 58 เพียงคนเดียวเวลา 15.11 น. วันที่ 6 มิ.ย. เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกับ ตม.แล้ว ทราบว่ายังไม่มีการเดินทางออกจากประเทศ ไทย ขณะนี้เร่งตรวจสอบหาพิกัดเพื่อป้องกันเหตุร้าย เกรงจะถูกคนร้ายนำไปกักตัวทำอันตราย ส่วนกลุ่มเพื่อนที่เข้ามาเที่ยวเมืองไทยยังอยู่หรือไม่กำลังเร่งตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.5 และบก.สส.บช.น. เบื้องต้นข้อมูลของ น.ส.ซินเล่ย ลู่ ทำอาชีพอะไรหรือรายละเอียดต่างๆยังไม่ได้รับจากนายหมูคนโทร.แจ้ง นอกจากนี้ ข้อมูลคนร้ายติดต่อเพิ่มเติมกับครอบครัว น.ส.ซินเล่ย ลู่ หรือไม่ นายหมูยังไม่ได้ให้“นายหมูอ้างว่ารู้จักกับบิดา น.ส.ซินเล่ย ลู่ จากการเป็นล่ามให้นักกีฬา ส่งข้อมูลที่ได้รับมาประสาน ตำรวจ ตั้งแต่นายหมูโทร.เข้ามาแจ้งความยังไม่ได้เข้ามาพบและไม่ยอมเปิดเผยชื่อจริง ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังพูดคุยเพื่อให้นายหมูเดินทางเข้ามาพบเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนที่คาดว่าจะเป็นการลักพาตัวจริงเท็จหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง แต่เบื้องต้นคิดว่าเป็นเรื่องจริงไว้ก่อน เพื่อป้องกันอันตรายแก่ น.ส.ซินเล่ย ลู่” พ.ต.อ.ชัยวัฒน์กล่าวต่อมาเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว 3 นาย เป็นชาย 2 นาย และหญิง 1 นาย เดินทางมาที่ สน.พระโขนง เข้าพบเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง ขอข้อมูลการหายตัวไปของนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน เพื่อนำข้อมูลของ น.ส.ซินเล่ย ลู่ ไปตรวจสอบและจะช่วยติดตามตัว ใช้เวลาพูดคุยข้อมูล กว่า 1 ชม. ตำรวจทั้ง 3 นาย จึงเดินทางกลับโดยปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ชุดสืบสวน สน.พระโขนงนายหนึ่งเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ยังไม่ได้รับแจ้งความจากญาติสาวชาวจีนที่หายตัวไป มีเพียงนายหมูโทร.มาแจ้งให้ช่วยติดตามตัว เมื่อทราบข้อมูลตำรวจเร่งติดตามหาตัว ออกตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดทุกจุดที่คาดว่าจะเดินทางไป รวมทั้งติดตามเพื่อนที่มาด้วยกันมาสอบสวนหาเบาะแสการหายตัวไป เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ ตัวนายหมูเองรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาระดับหนึ่งเท่านั้น ขณะนี้ยังเร่งทำงาน 24 ชม.ร่วมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยติดตามด้วยต่อมาผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามนายหมู เผยว่า ยังไม่ขอเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อตนและผู้ถูกพาดพิง ทั้งยังเกรงว่าจะเสียรูปคดีและเป็นอันตรายต่อ น.ส.ซินเล่ย ลู่ เบื้องต้นจะไม่เดินทางเข้าให้ปากคำที่ สน.พระโขนง ส่วนที่ฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง แจ้งว่าจะมีญาติ น.ส.ซินเล่ย ลู่ เดินทางเข้าแจ้งความ ตนไม่ทราบ มีรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ได้รับการติดต่อจากญาติของสาวชาวจีนที่หายตัวไปว่าแม่ น.ส.ซินเล่ย ลู่ จะเดินทางมาจากประเทศจีนเข้าแจ้งความตำรวจไทยให้ช่วยติดตามลูกสาวเวลา 17.00 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า หลัง น.ส.ซินเล่ย ลู่ หายตัวไป พ่อแม่เป็นห่วงคาดว่าถูกอุ้มเรียกค่าไถ่ ตนส่งทีมสืบสวนนครบาลลงพื้นที่คลี่คลายคดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ร่วมกับทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องไล่กล้องวงจรปิด น.ส.ซินเล่ย ลู่ เช็กอินออกจากโรงแรมเดอะควอเตอร์ อ่อนนุช บาย ยูเอชจี ซอยสุขุมวิท 58 ถนนสุขุมวิท เป็นแห่งที่ 2 แล้วย้ายไปพักต่อที่โรงแรมวิซดอม 101 ซอยสุขุมวิท 101/1 ย่านบางจาก เป็นแห่งที่ 3 และวันนี้นั่งรถแท็กซี่ออกจากที่พัก ไล่กล้องไปถึงห้างโฮมโปร สาขาบางนา ตามไปพบกำลังเดินซื้อของอยู่เมื่อช่วงบ่าย พอแจ้งว่าเป็นตำรวจไทยผู้เสียหายถึงกับร้องไห้โฮ ชุดสืบสวนตรวจสอบจนมั่นใจว่าเป็นบุคคลเป้าหมายเชิญตัวไปสอบสวนที่ สน.พระโขนง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ไปรับตัวแม่และพี่สาวของ น.ส.ซินเล่ย ลู่ ที่เดินทางมาจากประเทศจีนที่สนามบินสุวรรณภูมิมาที่โรงพักเช่นกันมีรายงานว่า หลังจาก น.ส.ซินเล่ย ลู่ แม่และพี่สาวถึง สน.พระโขนง ทั้งหมดถูกนำตัวไปสอบสวนอย่างเร่งด่วนบริเวณชั้น 2 พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 เดินทางมาร่วมสอบสวน พร้อมชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. ชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.5 และชุดสืบสวน สน.พระโขนง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เบื้องต้นให้การว่า ถูกขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้วิธีโทร.ข่มขู่ทางวีแชต อ้างเหตุผลข่มขู่ต่างๆนานาให้เหยื่อหวาดกลัว พร้อมสั่งห้ามติดต่อกับทางบ้านและให้เปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อยๆ จนไม่มีโอกาสโทร.ติดต่อหาพ่อแม่ญาติพี่น้อง อาจอ้างว่าพ่อแม่จะเป็นอันตรายถ้าติดต่อ ระหว่างนั้นโทร.ติดต่อครอบครัวเหยื่อเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 5 ล้านหยวน ระหว่างสอบสวนผู้เสียหาย ชุดสืบสวนเริ่มตรวจสอบข้อเท็จจริงควบคู่กันไปด้วยแล้วล่าสุดเวลา 21.00 น. พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 ออกมาเปิดเผยว่า น.ส.ซินเล่ย ลู่ ทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์อยู่ประเทศญี่ปุ่นพร้อมกับเรียนระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ก่อนเกิดเหตุมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทร.มาหา อ้างเป็นเจ้าหน้าที่อัยการและตำรวจญี่ปุ่น กล่าวหาว่าทำผิดกฎหมายฟอกเงิน มีการตั้งกลุ่มวีแชตดึงพ่อแม่ของ น.ส.ซินเล่ย ลู่ เข้ามาอยู่ในกลุ่มด้วย ต่อมา น.ส.ซินเล่ย ลู่ โอนเงินให้ตรวจสอบรวม 17 ล้านเยน จากนั้นให้ออกจากกลุ่มวีแชตและให้เดินทางไปพักผ่อน ให้เลือกระหว่างประเทศไทยและสิงคโปร์ น.ส.ซินเล่ย ลู่ เลือกมาเมืองไทย และห้ามติดต่อพ่อแม่ เมื่อตรวจสอบเงินเสร็จแล้วจะโอนคืนให้ ต่อมากลุ่มคนร้ายอ้างตัวเป็นตำรวจและอัยการแสดงตัวเป็นคนร้ายในกลุ่มวีแชตที่ยังติดต่อกับพ่อแม่ น.ส.ซินเล่ย ลู่ ข่มขู่เรียกค่าไถ่เอาเงินโดยที่พ่อแม่ก็ติดต่อลูกสาวไม่ได้ เพราะกลุ่มคนร้ายให้เหยื่อเปลี่ยนซิมการ์ด ด้านแม่ของ น.ส.ซินเล่ย ลู่ กล่าวผ่านล่ามขอบคุณตำรวจไทยที่ช่วยติดตามลูกสาวได้อย่างปลอดภัยอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่