ศาลไม่ให้ประกัน “ไอ้แซน” ฆาตกรอำมหิตสังหารตัดมือแฟนสาว ชี้คดีมีอัตราโทษสูงก่อเหตุสะเทือนขวัญหวั่นหลบหนี ส่งเข้าเรือนจำจังหวัดปทุมธานีทันที แม่ผู้ต้องหาอ้างลูกชายไม่ได้คลั่งลัทธิซาตาน แค่พลั้งมือบีบคอฝ่ายหญิงตายแล้วทำอะไรไม่ถูก ขณะที่แม่เหยื่อร่ำไห้รับศพ “น้องแจน” ออกจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พาไปยังจุดทิ้งศพใต้ทางด่วน ก่อนเคลื่อนร่างกลับบ้านเกิดใน จ.อุตรดิตถ์ แพทย์นิติเวชชี้ผลชันสูตรศพถูกปาดลำคอหลอดลมขาด สำลักเลือดเข้าปอดจนเสียชีวิต ทนายความระบุเข้าข่ายฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้ายสังคมอยากรู้ปมสังหารโหด หลังนายธนากรณ์ หรือแซน เอี่ยมละออ อายุ 19 ปี นศ.ปี 1 มรภ.พระนคร เชือดคอฆ่า น.ส.วรัญญา หรือแจน หรือหมิง แสนสุริวงค์ อายุ 19 ปี แฟนสาวเรียนสถาบันเดียวกัน ตัดมือทั้ง 2 ข้างขาด นำศพห่อผ้านวมถ่วงดัมเบล พาดท้ายรถ จยย.ไปทิ้งใต้ทางด่วนอุดรรัถยา หมู่ 4 ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานี ก่อนกลับไปกินยาพยายามฆ่าตัวตายในบ้านเลขที่ 198/157 หมู่บ้านอนาสิริรังสิต หมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.เมืองปทุมธานี ญาติและตำรวจนำส่ง รพ.กรุงสยามเซนต์คาร์ลอส แพทย์ช่วยชีวิตได้ปลอดภัย หลังออกจากโรงพยาบาล ตำรวจรับตัวมาสอบปากคำพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนคุมขังไว้ที่ สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อรอส่งฝากขังต่อไปความคืบหน้าเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 มิ.ย. พ่อแม่และญาติเดินทางมาที่ สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี นำอาหารเข้าเยี่ยมนายธนากรณ์ หรือแซน เอี่ยมละออ ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอตัดมือทั้งสองข้างแฟนสาวอย่างอำมหิตโหดเหี้ยม พร้อมนำเสื้อมาให้เปลี่ยน ก่อนจะถูกตำรวจนำตัวไปศาลจังหวัดปทุมธานีเพื่อฝากขังผัดแรก จากการสังเกตพบว่าผู้เป็นแม่ได้พูดคุยกับนายแซน ลูกชาย ผ่านลูกกรงห้องขังด้วยสีหน้าเศร้าสลดพร้อมร่ำไห้ไปด้วย ขณะที่ผู้เป็นพ่อได้เข้าสวมกอดปลอบโยนภรรยาและให้กำลังใจกัน หลังเข้าเยี่ยมได้ประมาณครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่อนุญาตให้นำอาหารและเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวที่ผ่านการตรวจสอบควมปลอดภัยแล้ว เข้าไปให้ผู้ต้องหาได้ แต่ผู้ต้องหาไม่มีเรี่ยวแรงจะกิน จนข้าวต้มไหลเปรอะเปื้อนผ้าขณะตักเข้าปากจากนั้นพ่อแม่ผู้ต้องหาเดินออกมาพบกลุ่มสื่อมวลชน ผู้เป็นแม่กล่าวว่า ขอโทษทุกคนและขอโทษญาติพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต ส่วนอาการของลูกชายขณะนี้ยังพูดคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง และยังไม่มีเรี่ยวแรง กินอาหารเองยังไม่ได้ เรื่องที่เกิดขึ้นยืนยันลูกไม่ได้คลั่งลัทธิซาตานที่ต้องฆ่าสัตว์หรือฆ่าคนสังเวยความเชื่อตามที่มีผู้โพสต์กล่าวหาในสื่อออนไลน์ ลูกชายพูดว่าวันเกิดเหตุพลั้งมือไปบีบคอแฟนสาวแล้วกลัวความผิดทำอะไรไม่ถูก ได้ตัดมือน้องแล้วลูกชายก็ไม่พูดอะไรอีก ต้องขอโทษทุกคนจริงๆ ตนและครอบครัวจะไปขอโทษพ่อแม่ผู้เสียชีวิตและจะไปร่วมงานศพที่ จ.อุตรดิตถ์ ด้วย ก่อนที่ทั้ง 2 คน จะขอตัวไปซักเสื้อผ้าของลูกชายที่เปรอะเปื้อนอาหารที่นำมาให้เมื่อเช้านี้ผู้สื่อข่าวสอบถามเจ้าหน้าที่สิบเวรหน้าห้องควบคุมที่วางกำลังไว้หลายนายผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าดูอาการผู้ต้องหารายนี้ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเกรงจะเครียดทำร้ายตัวเอง ทราบว่า ตลอดทั้งคืนผู้ต้องหามีท่าทางเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง นอนตะแคงอยู่ท่าเดิมทั้งคืน ไม่กินอาหารและดื่มน้ำที่พ่อแม่นำมาเยี่ยมตั้งแต่เมื่อวานนี้ หลังถูกนำตัวออกจากโรงพยาบาลมาคุมขังที่โรงพักต่อมาเวลา 09.30 น. พ.ต.ต.หญิงอัจฉรา กระเตื้องงาน พนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต เจ้าของคดี พร้อมกำลังตำรวจนำตัวผู้ต้องหาออกจากห้องควบคุมไปขึ้นรถยนต์ เพื่อไปฝากขังที่ศาล จังหวัดปทุมธานีเป็นผัดแรก ขณะคุมตัวผู้ต้องหา มีพ่อแม่และญาติเฝ้าดูตลอดเวลา เมื่อตำรวจนำตัวผู้ต้องหาออกมาจากห้องควบคุม ปรากฏว่าได้เกิดเหตุชุลมุน ผู้สื่อข่าวกรูเข้าสอบถามนายแซนว่าฆ่าน้องทำไม มีอะไรอยากจะพูดหรือไม่ แต่ผู้ต้องหามีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ปริปากแม้แต่คำเดียว จังหวะนั้นพี่ชายของผู้ต้องหาได้แหวกทางกลุ่มผู้สื่อข่าวเข้าไป ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งและเกือบวางมวยกับผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แฟนสาวของพี่ชายผู้ต้องหารีบเข้าไปห้าม ขณะที่ตำรวจและกู้ภัยได้ช่วยกันหิ้วปีกนายแซนขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขังออกไปจากโรงพักทันทีพ.ต.อ.ณรงค์ เอี่ยมระหงษ์ ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งดำเนินคดีใน 4 ข้อหา ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ซ่อนเร้นอำพรางศพ, เคลื่อนย้ายศพ และเคลื่อนย้ายศพก่อนหน้าเจ้าหน้าที่จะไปถึง ได้ยื่นคัดค้านการประกันตัวท้ายคำร้องก่อนขอฝากขัง เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง และเป็นคดีอุกฉกรรจ์ เกรงว่าถ้าผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวอาจหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรืออาจจะกระทำอัตวินิบาตกรรมฆ่าตัวตายได้ สมควรที่จะได้รับการฝากขังอยู่ในเรือนจำเพื่ออยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิดที่ศาลจังหวัดปทุมธานี พนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต คุมตัวนายธนากรณ์ หรือแซน เอี่ยมละออ ผู้ต้องหาฆ่าแฟนสาวมาขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 7-18 มิ.ย. และขอคัดค้านการประกันเนื่องจากเกรงจะหลบหนี ขณะที่ญาติผู้ตายยื่นคำร้องคัดค้านการประกันเช่นกัน ภายหลังผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว เนื่องจากเป็นคดีมีอัตราโทษสูง ลักษณะการก่อเหตุเป็นคดีสะเทือนขวัญ ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เกรงว่าจะหลบหนี โดยศาลออกหมายขังและส่งไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดปทุมธานีทันทีเวลา 09.45 น. นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ พร้อมแม่กับพี่สาวของ น.ส.วรัญญา แสนสุริวงค์ ผู้เสียชีวิต เดินทางมาพบตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อติดตามคดีและแจ้งความร้องทุกข์ในฐานะผู้เสียหาย รวมทั้งให้ปากคำเพิ่มเติมกับตำรวจ และติดต่อขอเอกสารหลักฐานเดินทางไปรับศพ พร้อมกับจะไปเชิญวิญญาณยังจุดที่พบศพต่อไปนายไพศาลให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า วันนี้จะไปรับศพจากสถานบันนิติวิทยาศาสตร์ กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.อุตรดิตถ์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู จ.ปทุมธานี จะนำรถมารับศพไปส่งให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ยืนยันครอบครัวไม่ได้เปิดรับบริจาคแต่อย่างใด เพจต่างๆที่เปิดรับบริจาคเป็นการแอบอ้างทั้งหมดต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และตนยังต้องสอบถามแพทย์นิติวิทยาศาสตร์ถึงผลชันสูตรว่าเป็นอะไรตาย เพราะตำรวจตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาฯ ยังไม่ตรงตามข้อเท็จจริง เนื่องจากมีข้อมูลว่าน้องสำลักเลือดเข้าปอดตอนถูกเชือดคอ แสดงว่ายังไม่ตายทันทีเป็นการถูกฆ่าอย่างทรมาน และฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโทษถึงประหารชีวิต ส่วนเรื่องเงิน 50,000 บาทที่อ้างว่ามีการไกล่เกลี่ยกันนั้น คงไกล่เกลี่ยไม่ได้ เป็นโทษอาญาแผ่นดิน ไม่ต้องมาอ้างว่าป่วยจิตมันฟังไม่ขึ้น เพราะวางแผนการเตรียมการหรือไม่อย่างไร มองออกอยู่แล้ว แล้วผู้ก่อเหตุเคยก่อคดีอนาจารเด็กมาก่อนจะมาก่อคดีนี้ซ้ำอีกเมื่อเวลา 12.40 น. นายไพศาล เรืองฤทธิ์ พร้อมแม่และพี่สาวของ น.ส.วรัญญา แสนสุริวงค์ เดินทางมาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ถนนซ่อมสร้าง ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี เพื่อติดต่อขอรับศพกลับไปเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด จ.อุตรดิตถ์ เมื่อมาถึงได้นำเอกสารเข้าติดต่อขอรับศพพร้อมนำภาพถ่ายอัดกรอบไปให้เจ้าหน้าที่ แต่ติดเรื่องชื่อของผู้เสียชีวิตที่ตอนส่งศพไปชันสูตรเป็นศพไม่มีชื่อ เนื่องจากในตัวไม่พบเอกสารใดๆ ทำให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ต้องพามารดาเดินทางไปที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อดำเนินการเรื่องเอกสารเนื่องจากบัตรประชาชนของผู้ตายยังอยู่ภายในบ้านของผู้ก่อเหตุต่อมาเวลา 14.30 น. นายเอกชัย เอี่ยมละออ พ่อของนายแซนผู้ต้องหาเดินทางมาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นำทรัพย์สินของผู้ตายมาคืนให้กับญาติ เป็นแมวเพศผู้ 1 ตัวชื่อ “โคบี้” เสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวและบัตรประชาชนของผู้ตาย พ่อนายแซนได้ขอคุยกับบุคคลในครอบครัวผู้ตายเป็นการส่วนตัวภายในรถยนต์ ก่อนที่ญาติเป็นสตรี 2 คนจะเข้าไปพูดคุยด้วยใช้เวลาประมาณ 10 นาที จากนั้นพี่สาวผู้เสียชีวิตได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า จากการพูดคุยผู้ก่อเหตุบอกว่าเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรกันและเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขาบอกว่าเสียใจไม่คิดว่าจะทะเลาะกัน เมื่อวันสองวันยังกินข้าวด้วยกันอยู่เลย ตอนนี้ตนยังติดใจในเรื่องคดีที่ไม่คืบหน้าและอยากได้ความยุติธรรมกับน้องให้ถึงที่สุดเพราะมันโหดร้ายเกินไปยืนยันไม่ให้อภัยและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเวลา 16.00 น. แม่และญาติเดินทางมารับศพ น.ส.วรัญญาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มีนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จ.ปทุมธานี ร่วมเดินทางมารับศพด้วย พี่สาวได้จุดธูป 1 ดอก เรียกวิญญาณน้องสาวกลับบ้าน จากนั้นนำศพออกมาขึ้นรถกู้ภัย พร้อมนิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป มุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุใต้สะพานทางด่วนอุดรรัธยา หมู่ 4 ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานี จุดพบร่างเพื่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณให้กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านใน จ.อุตรดิตถ์ขณะที่ผลชันสูตรของแพทย์นิติเวชออกมาว่า สาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตคือถูกของมีคมปาดลำคอจนหลอดลมฉีกขาด ศีรษะมีบาดแผลฟกช้ำ ส่วนใต้ศีรษะ สมองอยู่ในสภาพปกติไม่เป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิต ที่คิ้วมีร่องรอยฟกช้ำแต่ไม่เป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิต พบบาดแผลถูกแทงลำคอ แต่บาดแผลนี้ไม่เป็นเหตุทำให้เสียชีวิต สาเหตุที่ทำให้เสียชีวิต คือถูกปาดลำคอจนหลอดลมฉีกขาด มีอาการสำลักเลือด พบเลือดภายในปอด และจากการตรวจเรื่องสารต่างๆในร่างกาย ผลคือไม่พบสันนิษฐานได้ว่าก่อนตายผู้เสียชีวิตถูกทรมาน หลังทราบผลชันสูตรศพ นายไพศาลทนายความบอกว่า ผลออกมาแบบนี้เข้าข่ายความผิดมาตรา 289 (5) ฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้ายอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่