สุดสะเทือนใจ พ่อเด็กนักเรียน หญิงชั้น ม. 2 กระโดดจากสะพานกรุงเทพลงแม่น้ำเจ้าพระยาฆ่าตัวตาย เผยทั้งน้ำตา เพิ่งเจอกันทางเฟซบุ๊ก หลังติดต่อไม่ได้ตั้งแต่แยกทางกับแม่เด็ก พอรู้ว่าลูกสาวถูกละเมิดทางเพศรีบพาเข้าแจ้งความก่อนนำตัวมาอยู่ด้วย เพ้อตามหามานานแต่สุดท้ายก็ได้อยู่ด้วยกันนิดเดียว ด้าน ผบก.ภ.จ.ชุมพร เผยคดีนี้ผู้ก่อเหตุอายุ 73 ปี มีศักดิ์เป็นตาเขยของเด็ก อยู่ระหว่างการประกันตัวชั้นศาล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพรใกล้สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการแล้ว หลังได้รับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จาก รพ.สงขลานครินทร์กรณีเหตุสะเทือนใจเด็กนักเรียนหญิงวัย 14 ปี ของโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว แต่งชุดพละกระโดดจากสะพานกรุงเทพลงแม่น้ำเจ้าพระยาฆ่าตัวตายหนีปัญหาชีวิตอาภัพแต่เด็ก หลังพ่อแม่แยกทางกันต้องระเห็ดมาอยู่กับแม่แท้ๆที่ จ.ชุมพร ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ก่อนถูกญาติที่มีศักดิ์เป็นตาเขยก่อเหตุละเมิดทางเพศตั้งแต่อายุ 6 ขวบนานกว่า 8 ปี จนพ่อแท้ๆต้องนำตัวมาอยู่ด้วยที่กรุงเทพฯ แต่กลับเจอปัญหาเรียนไม่ทันเพื่อนอีก เกิดความเครียดกดดัน เป็นสาเหตุให้เด็กหญิงตัดสินใจจบชีวิตรันทดหนีปัญหาที่ตัวเองไม่ได้ก่อไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 พ.ย. นายชัย (นามสมมติ) อายุ 40 ปี น.ส.นวล (นามสมมติ) อายุ 49 ปี พ่อและแม่เลี้ยงของ ด.ญ.ออย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี เด็กนักเรียนชั้น ม. 2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว ที่กระโดดจากสะพานกรุงเทพลงแม่น้ำเจ้าพระยาจนเสียชีวิต เดินทางมาติดต่อขอรับศพเพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านน้ำพุสูง ต.ห้อยโรง อ.ล้อมกวาง จ.แพร่ บ้านญาติทางฝั่งพ่อระหว่างนั้น น.ส.นวลผู้เป็นแม่เลี้ยงเปิดเผยว่า น้องออยอยู่กับตนได้ประมาณ 3 เดือน ไม่เคยเล่าเรื่องที่ทุกข์ใจให้ฟัง ปกติเป็นเด็กร่าเริง ใช้ชีวิตตามประสา ช่วงที่อยู่กับตนก็พยายามเยียวยาจิตใจไม่พูดถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น ไม่มีลางบอกเหตุและไม่คิดว่าน้องออยจะตัดสินใจแบบนี้ แต่เชื่อว่าสาเหตุเป็นเพราะเรื่องนี้ที่น้องเก็บสะสมมานานหลายปี เพราะน้องไม่มีเรื่องเครียดเรื่องอื่น หลังจากนี้ก็ขอให้น้องออยไปเกิดในภพภูมิที่ดี มีแต่คนรักเจอแต่คนดีๆขณะที่นายชัยผู้เป็นพ่อกล่าวว่า ตนกับน้องออยลูกสาว ขาดการติดต่อกันไปตั้งแต่น้องออยอายุ 2 ขวบ ที่ผ่านมาพยายามตามหาตลอด โพสต์รูปน้องออยผ่านทางโซเชียล เพราะเชื่อว่าต้องมีคนเห็น กระทั่งกลางปี 65 ลูกสาวเจอกับตนในเฟซบุ๊ก พูดคุยกันจนแน่ใจว่าเป็นพ่อลูกกัน น้องออยเล่าให้ฟังว่าถูกข่มขืนมานาน พ่อจะรับได้ไหมและขอความช่วยเหลือ ตนกับแม่เลี้ยงประสานมูลนิธิปวีณาฯรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีและช่วยพาลูกสาวออกมาจากบ้านที่ จ.ชุมพร“ส่วนเรื่องคดีความผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวน ผมมองว่าคดีแบบนี้ไม่สมควรได้รับการประกันตัว ผู้ก่อเหตุยังเคยโทร.มาขอเจรจากับผมไม่ให้ดำเนินคดี แต่ผมยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและให้ไปคุยกันที่ศาลเท่านั้น ผมตามหาลูกสาวมานานมากแต่สุดท้ายได้อยู่ด้วยกันไม่นาน ผมอยากบอกลูกว่า พ่อรักลูกและขอให้ไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดี” นายชัยกล่าวทั้งน้ำตาวันเดียวกัน พล.ต.ต.ภานุเดช ณ พัทลุง ผบก.จ.ชุมพร เปิดเผยถึงคดีน้องออยถูกญาติล่วงละเมิดทางเพศนานกว่า 8 ปี จนเครียดคิดสั้นฆ่าตัวตายว่า จากการตรวจสอบพบก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนก.ย. น้องออยพร้อมบิดาเดินทางแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองชุมพร ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาอายุ 73 ปี ที่มีศักดิ์เป็นตาเขยของผู้เสียชีวิต พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร รับคำร้องทุกข์ไว้อยู่ในระหว่างการสอบสวนรวบรวมหลักฐานประกอบสำนวนคดีนี้พล.ต.ต.ภานุเดชกล่าวต่ออีกว่า จากการสอบสวนร่วมกับนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา สหวิชาชีพ เด็กหญิงวัย 14 ปี รายนี้ให้การยืนยันถูกล่วงละเมิดทางเพศมานาน จึงแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดชุมพร ผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวก่อนศาลจะอนุญาต“ระหว่างดำเนินคดี ผมทราบว่าบิดาของผู้เสียหายยื่นคำร้องขอคัดค้านประกันตัว นำหลักฐานคลิปเสียงขณะเจรจาระหว่างผู้ต้องหากับบิดามาให้ศาลพิจารณา แต่ผลปรากฏว่าไม่เป็นเหตุให้ศาลถอนประกัน แต่มีคำสั่งให้เพิ่มหลักทรัพย์ค้ำประกัน กระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รับผลตรวจนิติวิทยาศาสตร์จาก รพ.สงขลานครินทร์แล้ว เตรียมสรุปสำนวนพร้อมความเห็นทางคดีส่งไปให้พนักงานอัยการดำเนินการต่อ” พล.ต.ต.ภานุเดชกล่าวอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่