น้ำท่วมอีสานยังหนัก สองเขื่อน “อุบลรัตน์-ลำปาว” รับน้ำฝนเกิน พิกัด ต้องเร่งระบายลงลำน้ำชี ทำให้พื้นที่ริมฝั่งหลาย จังหวัดเดือดร้อน เมืองน้ำดำอ่วมเดือดร้อนแล้ว 10 อำเภอ ชาวบ้านพากันอพยพไปกางเต็นท์อาศัยริม ถนนเลียบคลอง ส่วนเมืองบั้งไฟวิกฤติน้ำขึ้นวันละ 8 ซม. เช่นเดียวกับเมืองดอกบัวน้ำมูลทะลักท่วมบ้าน สองฝั่งแม่น้ำ เดือดร้อนกว่า 29 ชุมชนสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดยังวิกฤติ เมื่อวันที่ 17 ต.ค. นายชาญชัยศร ศรีวิชัย รอง ผวจ.ขอนแก่น เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ว่า ล่าสุดจังหวัดได้รับแจ้งจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยแจ้งเตือนระดับน้ำเขื่อนอุบลรัตน์เข้าสู่สภาวะวิกฤติระดับ 3 หลังเกิดฝนตกหนัก ทำให้ปริมาณน้ำเก็บกักในเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นเกินความจุสูงกว่าระดับเก็บกักปกติถึง 48 ซม. ปริมาณน้ำ 2,626 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 108 ของความจุ และมีแนวโน้มน้ำจะเพิ่มขึ้นอีกในช่วงวันที่ 18-20 ต.ค.นี้ เพื่อควบคุมปริมาณน้ำให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสมและรักษาเสถียรภาพความมั่นคงของอ่างเก็บน้ำ จำเป็นต้องระบายน้ำวันละ 15 ล้าน ลบ.ม. ทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนลุ่มน้ำแม่น้ำชีตั้งแต่ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น จ.มหาสารคาม จ.กาฬสินธุ์ จ.ร้อยเอ็ด และ จ.ยโสธร ได้รับผลกระทบน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกส่วนเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดรับน้ำถึง 2,053.00 ล้าน ลบ.ม.จากระดับกักเก็บ 1,980 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 103.69 ระบายน้ำออกวันละ 23 ล้าน ลบ.ม. ทำให้หลายพื้นที่ถูกน้ำท่วมหนักล่าสุดมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 10 อำเภอ 58 ตำบล 399 หมู่บ้าน 11,152 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 898,841 ไร่ โดยเฉพาะที่บ้านท่าสีดา หมู่ 9 ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ ชาวบ้านต้องย้ายไปกางเต็นท์อยู่ชั่วคราวริมถนนเลียบคลองชลประทานทางเข้าหมู่บ้าน จ.ร้อยเอ็ด ผลพวงจากการปล่อยน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ เร่งระบายน้ำ ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำชีบ้านคุ้ยค้อ ต.ดินดำ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด เกิดน้ำท่วมขยายวงกว้างมากขึ้น ส่วน ต.บึงงาม อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด แม่น้ำชีล้นตลิ่งเซาะถนนบ้านมะบ้า-บ้านนางาม ต.บึงงาม จนขาด ใช้สัญจรไม่ได้ ระดับน้ำท่วมถนนสูงกว่า 30 ซม. เจ้าหน้าที่ ปภ.ร้อยเอ็ดได้ติดตั้งสะพานเหล็กแบบเร่งด่วน Modular Fast Bridge (MFB) เพื่อให้รถวิ่งผ่านได้ พร้อมนำเรือท้องแบน 3 ลำไปช่วยชาวบ้านเร่งอพยพขนย้ายสิ่งของหนีน้ำที่ จ.ยโสธร แม่น้ำชีเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 8 ซม.เอ่อท่วมบ้านริมฝั่งแม่น้ำบ้านแจ้งน้อย ต.ค้อเหนือ อ.เมืองยโสธร นายสำภาส เนาวราช ผู้ใหญ่บ้านบ้านแจ้งน้อย เผยว่า แม่น้ำชีกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งเป็นรอบที่ 3 ในช่วง 3 เดือน ครั้งนี้หนักกว่าที่ผ่านมา บ้านเรือนถูกน้ำท่วมประมาณ 30-50 ซม. ชาวบ้านต้องขนย้ายทรัพย์สินมีค่าขึ้นไปไว้บนที่สูง และจัดเตรียมศูนย์อพยพชั่วคราวไว้ 2 จุดที่จุดศาลากลางหมู่บ้าน และโรงเรียนบ้านแจ้งน้อย พร้อมเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำชีตลอด 24 ชม.เช่นเดียวกับ จ.อุบลราชธานี แม่น้ำมูลเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนทั้งฝั่ง อ.เมือง และ อ.วารินชำราบกว่า 29 ชุมชน ชาวบ้านต้องอพยพไปอยู่ตามศูนย์พักพิงชั่วคราว 25 แห่งกว่า 545 ครอบครัว แต่มีหลายครอบครัวที่เป็นห่วงทรัพย์สินในบ้านไม่ยอมย้ายออกไปอยู่ที่อื่น ยังคงอาศัยอยู่ชั้นสอง โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่ยอมทิ้งบ้านไปไหน เจ้าหน้าที่รัฐจากหน่วยงานต่างๆ พร้อมจิตอาสาทั้งในและนอกพื้นที่นำอาหารและน้ำดื่มใส่เรือนำไปมอบให้ถึงบ้าน ขณะที่แพทย์และพยาบาล รพ.ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มทบ.ที่ 22 จัดทีมเข้าไปตรวจสุขภาพชาวบ้านตามศูนย์พักพิงชั่วคราวชุมชนต่างๆ ที่ จ.นครสวรรค์ น้ำจากคลองสาขาแม่น้ำยมเอ่อล้นท่วมหลายหมู่บ้านใน ต.บางพระหลวง อ.เมืองนครสวรรค์ หนักสุดที่บ้านบางพระหลวง หมู่ 2 ระดับน้ำสูง 1-2 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือสัญจรเพียงอย่างเดียวเดือดร้อนกว่า 30 ครอบครัว นายสุข นาควัฒนาพร เปิดเผยว่า น้ำในคลองบางพระหลวงเอ่อล้นท่วมบ้านมา 3-4 วันแล้ว ชาวบ้านต้องหนีไปอาศัยบนชั้นสองและเกิดปัญหาเรื่องการขับถ่าย เพราะส่วนใหญ่ห้องสุขาจะอยู่ชั้นล่าง โดยเฉพาะคนชราเดือดร้อนมาก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือโดยด่วนด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานสถานการณ์ฝนตกหนักช่วงวันที่ 26 ก.ย.-17 ต.ค.66 ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ 37 จังหวัด รวม 154 อำเภอ 585 ตำบล 2,976 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 62,150 ครัวเรือน ล่าสุด (17 ต.ค. เวลา 06.00 น.) ยังคงมีน้ำท่วม 7 จังหวัด ได้แก่ ตาก ลำปาง เชียงราย พิษณุโลก ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และอุบลราชธานี รวม 24 อำเภอ 92 ตำบล 528 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,172 ครัวเรือนอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่