พ่อเมืองกรุงเก่าสั่งชุดปฏิบัติ การพิเศษร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำกำลังกว่า 100 นาย ลุยค้นแคมป์ต่างด้าวกว่า 1,000 คน หลังชาวบ้านร้องเรียนสร้างปัญหาเดือดร้อนรำคาญ ทั้งลักขโมย ทะเลาะวิวาท ปล่อยน้ำเสียลงคลองจนเน่าเหม็น ตะลึงเจอชาวเมียนมาและกัมพูชาอยู่กันแออัด ไม่มีเอกสารเข้าเมืองถึง 350 คน แฉมีนายทุนจีนอยู่เบื้องหลังนำต่างด้าวเข้ามาทำงาน พร้อมบริการรับส่งที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะแลกกับค่านายหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษจังหวัดพระนครศรีอยุธยาลุยค้นแคมป์แรงงานต่างด้าวนับพันคน มีนายทุนจีนพาเข้ามาทำงานในนิคมอุตสาหกรรมอย่างโจ๋งครึ่ม สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ชาวบ้านข้างเคียง เปิดเผยเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 12 ต.ค.นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา มอบหมายให้นายไพรัตน์ เพชรยวน รอง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา นายประพันธ์ ตรีบุบผา ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนายศุภกร อนันตรักษ์ ป้องกันจังหวัดพระนครศรี อยุธยา นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนและชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภออุทัยกว่า 100 นาย เข้าตรวจค้นแคมป์คนงานชาวต่างด้าวในพื้นที่หมู่ 4 ต.หนองน้ำส้ม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยาสืบเนื่องจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รอบๆ แคมป์คนงานดังกล่าวร้องเรียนมายังจังหวัดว่าแคมป์ต่างด้าวสร้างปัญหาเดือดร้อนรำคาญอย่างมาก ไม่มีระบบสาธารณสุขและปล่อยน้ำเสียลงทิ้งบ่อน้ำธรรมชาติจนน้ำเน่าเหม็น ใช้อุปโภคบริโภคไม่ได้ อีกทั้งยังก่อเหตุทะเลาะวิวาท และลักขโมยข้าวของพืชผลทางการเกษตรในพื้นที่หลายครั้ง แต่กลับไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาตรวจสอบ ก่อนหน้านี้ประชาชนเคยร้องเรียนหน่วยงานเกี่ยวข้องไปแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการเหลียวแล หลังทราบเรื่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา สั่งชุดปฏิบัติการพิเศษลงพื้นที่สืบสวน กระทั่งพบหลักฐานแน่ชัด ก่อนประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่สำนักงานแรงงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สภ.อุทัย และสาธารณสุขอำเภออุทัยวางแผนเข้าตรวจค้นกวาดล้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจากการตรวจค้นพบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาและกัมพูชากว่า 1,000 คน เจ้าหน้าที่ร่วมกันคัดแยกพบว่าในจำนวนนี้มีแรงงานต่างด้าวถึง 350 คน ไม่สามารถแสดงเอกสารการเข้าราชอาณาจักรและเอกสารการทำงานได้ คุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ที่ว่าการอำเภออุทัย พร้อมแจ้งนายจ้างนำเอกสารมายืนยัน อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่าแคมป์ดังกล่าวมีนายทุนจีนชักชวนชาวต่างด้าวเข้ามาทำงานในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ พร้อมสร้างแคมป์ที่พักให้อยู่อาศัยและจัดรถรับส่งไปทำงานในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะและสถานที่ต่างๆ หลังเลิกงานจะไปรับพามาส่งแคมป์คนงานแลกกับค่านายหน้าและหัวคิวด้านนายศุภกร อนันตรักษ์ ป้องกันจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบกลุ่มแรงงานต่างด้าวและคัดแยกเอกสารแต่ละรายที่มีอยู่จำนวนมาก ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ หากตรวจสอบเสร็จก็จะนำแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายส่งพนักงานสอบสวน สภ.อุทัย ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าแคมป์ดังกล่าวมีนายทุนจีนอยู่เบื้องหลังนำพาต่างด้าวมาทำงานและคอยไปรับไปส่งที่ทำงานนั้นยังไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัด ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวน รวมถึงติดตามเจ้าของที่ดินตั้งแคมป์ที่เป็นคนไทยมาสอบสวนต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่