มะไฟ...ไม้ผลโบราณที่เดิมมีให้เห็นกันแทบทุกบ้าน แต่ปัจจุบันลดลงไปตามความต้องการ และมักไม่มีใครใคร่นิยมปลูกเชิงพาณิชย์เท่าใดนัก จากการที่หลายคนเห็นถึงกับยี้ เพราะเข็ดขยาดในความเปรี้ยว แต่มะไฟของสวนแห่งนี้กลับไม่มีรสเปรี้ยวเจือปนเลยสักนิด มีแต่ความหวานล้วนๆ ถึงกับเคยวัดความหวานได้ 19–20 บริกซ์ เลยทีเดียวที่สำคัญตอนนี้มะไฟหวานน่าจะมีที่นี่ที่เดียว จึงเป็นอีกหนึ่งพืชเศรษฐกิจทำเงิน ที่ไม่ต้องดูแลบริหารจัดการมาก แต่ทำเงินถึง กก.ละ 50 บาท แถมไม่ต้องวิ่งไปขาย เพราะมีคนมาขอรอซื้อเองถึงหน้าสวนกันเลยทีเดียว “เดิมทีก็ปลูกมะไฟไม่กี่ต้นที่ขึ้นตามธรรมชาติ เคยคิดจะตัดทิ้งก็เสียดาย เมื่อราว 4 ปีที่แล้ว ปรากฏว่ามีอยู่ต้นหนึ่ง ออกลูกมาแล้วหวาน กินแล้วไม่มีรสเปรี้ยวติดลิ้นเลย คาดว่าน่าจะเกิดจากการกลายพันธุ์ ด้วยความที่ผลสีทองเปล่งประกายยามต้องแดด เมื่อออกผลมาเลยตั้งชื่อว่าพันธุ์ทองสยาม จากนั้น นำมาขยายพันธุ์ต่อ พบว่า รสชาติหวานยังคงไม่เปลี่ยน จึงขยายพื้นที่ปลูกไปเรื่อยๆ จนปัจจุบันมีประมาณ 500 ต้น”นายบุญลือ สุขเกษม เจ้าของสวนบุญบันดาล หมู่ที่ 2 ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เล่าถึงที่มาของมะไฟหวานทองสยาม ที่เกิดจากการกลายพันธุ์ จากฟลุกๆ กลายเป็นทำเงินปีละหลักล้าน...มะไฟเดิมปลูกไม่ยากอยู่แล้ว สวนไหนปลูกผลไม้ ก็มักมีมะไฟเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ดูแลบริหารจัดการง่าย โรคแมลงก็ไม่ค่อยมีรบกวนนัก ปลูกแค่ 2 ปี เริ่มให้ผลผลิตเล็กน้อย พอปีที่ 3 จะให้ผลผลิตต้นละ 80-100 กก. ยิ่งปลูกนานยิ่งได้ผลผลิตมาก บางต้นให้ผลผลิตมากถึงต้นละ 100 กก. สำหรับมะไฟหวานทองสยาม ภายนอกแทบไม่แตกต่างจากมะไฟทั่วไป แต่ผลจะค่อนข้างดกกว่า เปลือกบาง เนื้อเต็ม ที่สำคัญคือ รสชาติหวานไม่มีติดเปรี้ยว ส่วนการปลูกจะเริ่มปลูกในหลุม 50×50 ซม. รองพื้นด้วยปุ๋ยสูตรเสมอ 16–16–16 ปลูกห่างกัน 3×3 เมตร ใน 1 ไร่ ปลูกได้กว่า 100 ต้น เข้าปีที่ 2 จะได้ผลผลิต โดยราวเดือนพฤศจิกายน จะออกผลชุดแรก และจะทยอยให้ผลผลิตตลอดทั้งปี เฉลี่ยให้ผลผลิตได้ไร่ละ 5–8 ตันขึ้นไป เมื่อเก็บเสร็จก็ตัดแต่งกิ่ง บำรุงด้วยฮอร์โมน ปุ๋ยคอก ปุ๋ยขี้ไก่ และฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ เพื่อบำรุงต้น เจ้าของสวนบุญบันดาล บอกในตอนท้ายว่า มะไฟแม้จะปลูกไม่ยาก ไม่ต้องดูแลมากมายเหมือนพืชชนิดอื่น แต่ก็ห้ามขาดน้ำโดยเด็ดขาด โดยที่สวนจะเปิดน้ำต้นละ 10 นาที ในช่วงเช้าและเย็น ส่วนการตลาดจะเปิดขายทั้งผลและกิ่งตอน โดยผลขายปลีกหน้าสวน กก. 50 บาท แต่ถ้าสั่งหลักร้อย กก. ก็ลดราคาไปครึ่งหนึ่ง ไม่ต้องไปวิ่งขายหรือหาตลาด เพราะมีพ่อค้าแม่ค้ามารับถึงสวน ส่วนกิ่งตอนขายกิ่งละ 200 บาท ปรากฏว่าทำเท่าไรก็ไม่เพียงพอกับความต้องการ สนใจสอบถามได้ที่ 08-6618-1453. กรวัฒน์ วีนิล