รมว.ดีอีเอสตั้งโต๊ะร่วมกับ ผบช. ตำรวจไซเบอร์ เลขาฯ สกมช.และ PDPA แถลงคืบหน้าอึมครึม กรณีแฮกเกอร์ “9near” ฉกข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านราย ระบุแค่เป็นทหารยศ “จ่าสิบโท” สังกัดกรมการขนส่งทางบก ยังจับกุมไม่ได้ คาด 3 แรงจูงใจก่อเหตุแต่ยังไม่ชัดเจน อ้อมแอ้มตอบไม่ชัดมาจากแอปหมอพร้อม แต่คนจับตาเพราะมีข้อมูลประชาชนมาก ด้าน ผบช.ไซเบอร์เผยยังไม่พบโยงการเมือง มั่นใจจับตัวได้แน่ อยู่ระหว่างประสานต้นสังกัดทำหนังสือส่งตัวและสถานะปัจจุบัน เชื่อภรรยาจ่าสิบโทรู้เห็นเพราะหลบหนีไปด้วย ขณะที่รองโฆษก ทบ.แจงสั้นๆเป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนข้อมูลเป็นไปตามที่ตำรวจและดีอีเอสแถลงกรณีพนักงานสอบสวน กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอหมายศาลอาญาจับแฮกเกอร์หนุ่มที่ใช้ชื่อ “9 near” ฉกข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านราย อ้างว่าได้มาจากหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งในประเทศไทย ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยพบว่าเป็นทหารชั้นประทวน และมีรายงานข่าวว่า ต้นสังกัดนำตัวมามอบให้กับพนักงานสอบสวน รวมทั้งนำภรรยาที่เป็นพยาบาล รพ.แห่งหนึ่งมาสอบปากคำแล้ว เบื้องต้นอ้างว่าทำไปด้วยความคึกคะนอง ขณะที่ชุดสืบสวนทั้งตำรวจและนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ที่เคยขึงขังให้สัมภาษณ์มาก่อนหน้า แต่หลังมีข่าวจับกุมได้ปฏิเสธให้รายละเอียด เช่นเดียวกับตำรวจไซเบอร์อุบเงียบ อ้างให้ ผบช.สอท.ให้ข่าวเพียงคนเดียวเท่านั้นความคืบหน้าเรื่องนี้ยังอึมครึม เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 7 เม.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการจับกุมทหารชั้นประทวนนายหนึ่ง ขู่เปิดข้อมูลส่วนตัวคนไทยกว่า 55 ล้านชื่อ ว่า รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท.ไปร่วมแถลงข่าวในช่วงบ่าย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว มีข่าวเปิดออกมาบ้าง เป็นทหารสังกัดกรมการขนส่งทหารบก ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานให้ผู้บังคับบัญชาผู้ต้องหานำมามอบตัว ส่วนสาเหตุต้องรอผลสอบสวนอีกครั้ง เบื้องต้นทราบว่าขณะนี้มีผู้ต้องหาเพียง 1ราย ส่วนข้อมูลที่เขาจะนำมาเปิดเผยทราบว่าเป็นข้อมูลจากแอปพลิเคชันหมอพร้อม รายละเอียดต่างๆต้องรอการแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง น่าจะชัดเจนมากขึ้น อีกทั้งยังทราบว่าภรรยาผู้ต้องหาเป็นพยาบาล ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าผู้ต้องหามีความสนิทกับนักการเมืองบางคน ยังไม่ได้รับรายงาน กรณีอย่างนี้มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว ต้องหามาตรการในการป้องกันให้ดีที่สุดต่อมาเวลา 15.00 น. ที่กระทรวงดีอีเอส ศูนย์ราชการ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดีอีเอส พล.อ.ต.อมร ชมเชย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และนายศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ร่วมกันแถลงข่าวการติดตามจับกุมแฮกเกอร์ 9 near ที่อ้างว่ามีข้อมูลส่วนบุคคลคนไทยรวม 55 ล้านรายการนายชัยวุฒิกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถระบุตัวและชื่อของแฮกเกอร์ได้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามจับกุม คาดว่าจะมีแรงจูงใจมาจาก 1. ต้องการขายหรือเรียกค่าไถ่ข้อมูล 2.ต้องการขายข้อมูลต่อให้แฮกเกอร์ด้วยกันหรือ Scam และ 3. ต้องการดิสเครดิตหน่วยงานเกี่ยวข้อง ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนมีแรงจูงใจมาจากสิ่งใด ทั้งนี้ ตำรวจสามารถติดตามเส้นทางคนร้ายได้แล้ว ตราบใดที่ยังอยู่ในประเทศไทยจับได้แน่ ส่วนที่ว่าเป็นข้อมูลที่หลุดออกมาจากฐานข้อมูลของ “หมอพร้อม” ต้องบอกว่าหมอพร้อมมีข้อมูลประชาชนจำนวนมาก จึงอาจถูกจับตามองด้าน พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 14 มี.ค. กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) รับหนังสือแจ้งจาก สกมช.มี แฮกเกอร์ 9near ประกาศขายข้อมูลส่วนบุคคลของคนไทย 55 ล้านรายการ บนเว็บไซต์ Bleach Forums ได้เริ่มสืบสวนเรื่อยมา กระทั่งวันที่ 2 เม.ย.66 รู้ตัวคนร้ายและเข้าจับกุม แต่คนร้ายหลบหนีไปก่อน สำหรับคนร้ายเป็นชายอายุ 33 ปี เป็นทหารยศจ่าสิบโท ตรวจสอบต้นสังกัดพบว่างานที่รับผิดชอบไม่เกี่ยวข้องกับด้านเทคโนโลยี แต่จากการสืบสวนพบว่ามีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีเป็นอย่างดี เบื้องต้นคาดว่าแรงจูงใจมาจากความ ต้องการเป็นที่สนใจ เป็นแรงจูงใจส่วนบุคคลยังไม่พบความเชื่อมโยงกับการเมืองผบช.สอท.กล่าวอีกว่า จากข้อความที่คนร้ายสื่อ ครั้งแรกเป็นการโพสต์ขายข้อมูลบนแพลตฟอร์มที่เป็นชุมชนแฮกเกอร์ จากนั้นเป็นการส่งข้อความเอสเอ็มเอสทักเหยื่อเจ้าของข้อมูล รวมถึงนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าว ส่วนครั้งที่ 3 ครั้งสุดท้าย หลังจากที่มีข่าวถูกตามจับกุม แฮกเกอร์รายนี้ก็เปลี่ยนประเด็นเป็นจะไม่เปิดเผยข้อมูล 55 ล้านรายการ แต่จะเปิดเผยชื่อผู้สนับสนุนหรือสปอนเซอร์ที่เป็นนักการเมืองแทน เมื่อพิจารณาพฤติกรรมที่กลับไปกลับมา ทำให้เชื่อได้ว่าน่าจะต้องการเรียกร้องความสนใจเป็นหลัก มั่นใจจับกุมได้แน่ ได้ประสานไปยังต้นสังกัด ตรวจสอบสถานะการทำงาน รวมทั้งให้ทำหนังสือส่งตัวให้ด้วย หากคนร้ายยังเป็นทหารอยู่ เบื้องต้นออกหมายจับคนร้าย 1 คน แต่มีเหตุให้เชื่อว่าน่าจะมีมากกว่านั้น เพราะนอกจากจ่าสิบโทผู้นี้ ภรรยาซึ่งยังไม่ได้โดนหมายจับก็หลบหนีไปด้วยขณะที่ พล.อ.ต.อมร ชมเชย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) กล่าวว่า การเปิดเผยชื่อหน่วยงานที่คาดว่าจะทำข้อมูลหลุดรั่วนั้น ถือว่าเร็วเกินไป จำเป็นต้องตรวจสอบด้วยความรอบคอบ เพราะจะไม่เป็นการยุติธรรมกับหน่วยงานนั้น เมื่อสามารถจับกุมคนร้ายได้ เชื่อว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นส่วนนายศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้เสียหายจากข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลสามารถป้องกันสิทธิของตนภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA โดยฟ้องได้ทั้งศาลแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหาย กรณีเป็นข้อมูลด้านสุขภาพฟ้องคดีอาญา มีโทษจำคุก และยังสามารถร้องมาจากสำนักงาน PDPA เพื่อลงโทษทางปกครองเรียกค่าปรับเพิ่มเติมแก่หน่วยงานที่ทำข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลได้ด้วยอย่างไรก็ตาม นายชัยวุฒิได้กล่าวปิดท้ายว่า โทษที่เกี่ยวข้องกับกรณี 9near จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โทษสูงสุด จำคุก 5 ปี และการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้อย่างผิดกฎหมาย เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)อาจถูกจำคุก 1 ปี หรือปรับ 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ต่อ 1 กรรม หรือต่อผู้เสียหาย 1 คนได้ ทําให้คนร้ายอาจถูกลงโทษจำคุกเป็นร้อยปีได้ขึ้นกับข้อเท็จจริงขณะที่ พล.ต.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยสั้นๆว่า หน่วยต้นสังกัดกำลังช่วยติดตามตัวผู้ต้องหา และเป็นเรื่องส่วนตัว โดยข้อมูลเป็นไปตามที่ตำรวจและดีอีเอสแถลงค่ำวันเดียวกัน ที่สวนเบญจกิติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ติดตามเรื่องนี้อยู่ หากผิดต้องลงโทษ เห็นว่าทำไปเพราะความคึกคะนอง สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบแล้ว เมื่อถามว่าหลุดจาก “หมอพร้อม” พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องยอมรับสมัยนี้คนเก่งเทคโนโลยีเยอะ คนมันเก่งก็ไปล้วงได้หมด ต้องยอมรับว่าคนพวกนี้เก่งจริงๆ อยากดัง ได้กำชับไปทุกอย่างแล้ว เมื่อถามว่าต้องมีการรักษาความปลอดภัยด้านข้อมูลเพิ่มขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า กำชับไปหมดแล้ว แต่ทุกวันนี้มันมีวิธีการและคนใหม่เข้ามาตลอด เมื่อถามว่านายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม บอกว่าการจะเข้าไปจับกุมทหาร ต้องขออนุญาตก่อน พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถามดังกล่าว