“สืบนครบาล” บุกรวบอดีตทนายแสบภัยสังคม ใช้โปรไฟล์หนุ่มหล่อหาเหยื่อในแอปหาคู่จนหลงรักหัวปักหัวปำ ปอกลอกจนเงินหมด ถึงขนาดให้เอารถไปขายเอาเงินมาให้ด้วย เสียหายกว่า 1.5 ล้านบาท ใช้จุดอ่อนเหยื่อเป็นโรคซึมเศร้าข่มขู่ให้มาร่วมหลับนอน มีคลิปภาพเปลือยเหยื่อในโทรศัพท์ หลังรู้ความจริงเกือบฆ่าตัวตาย ตรวจสอบประวัติพบเคยเป็นทนายจริง แต่ถูกถอนตั๋วทนายเพราะไปเกี่ยวพันกับแก๊งค้ายาข้ามชาติ มีคดีติดตัวอีกเพียบ แต่ยังให้การปฏิเสธ อ้างเหยื่อสมยอม ล่าสุดมีเหยื่อในข่ายอีก 3 คน 1 ในนั้นเข้าให้การตำรวจแล้วชุดสืบสวนนครบาลรวบอดีตทนายภัยสังคมรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 ก.พ. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ฐานะ ผอ.ศปอส.ตร.(PCT) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ฐานะหัวหน้า PCT ชุด 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ รอง สว.กลุ่มงานการข่าวฯ ร.ต.อ.กิติศักดิ์ ออกรัมย์ รอง สว.กก.1 บก.สอท.3 และ ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2 พร้อมกำลังร่วมกันจับกุมนายพงศกร หรือชาย ศุภกรมงคลชัย อายุ 43 ปี ชาวสมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 หมายประกอบด้วยหมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ที่ จ.407/2561 ลงวันที่ 16 ต.ค.2561 ข้อหายักยอกทรัพย์ หมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ จ.90/2563 ข้อหาฉ้อโกง และหมายจับศาลอาญาที่ 35/2566 ลงวันที่ 2 ก.พ.66 ข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ จับกุมผู้ต้องหาหน้าร้านทองกิมฮุง ถนนสุขุมวิท ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ ขอหมายค้นศาล จังหวัดสมุทรปราการที่ 46/2566 ลงวันที่ 3 ก.พ.66 นำตัวไปตรวจค้นห้องเลขที่ 945/526 ชั้น 7 อาคารซี เลสโตคอนโด สุขุมวิท 113 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ ยึดของกลางโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องมีข้อมูลภาพผู้เสียหายเปลือยที่คนร้ายใช้แบล็กเมล์ สมุดบันทึก 6 เล่มมีข้อมูลลักษณะนิสัยเหยื่อ บัตรเอทีเอ็ม 12 ใบ สมุดบัญชีธนาคาร 17 เล่ม ซิมโทรศัพท์ 16 ซิม และเอกสารการทำธุรกรรมการเงินจำนวนมากคดีนี้สืบเนื่องจากหญิงสาวผู้เสียหายมีอาการป่วยซึมเศร้า เข้าขอความช่วยเหลือจาก พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ถูกคนร้ายอ้างว่าชื่อนายธเนศ หรือทอม ไม่ทราบนามสกุล รู้จักกันผ่านแอปหาคู่บัมเบิล (Bumble) ใช้รูปหนุ่มหล่อโปรไฟล์ดีชอบทำบุญหลอกเหยื่อ เริ่มพูดคุยหว่านล้อมจนรู้ว่า ผู้เสียหายป่วยซึมเศร้า สร้างเรื่องหว่านล้อมหลอกลวงจนเหยื่อหลงรัก หลังจากนั้นข่มขู่ว่า หากจะคบกันเป็นแฟนต้องยอมหลับนอนกับพ่อก่อน ไม่งั้นจะเลิกคบ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อยินยอมนัดพบที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาเดินทางมาเองอ้างตัวเป็นพ่อของหนุ่มหล่อที่เหยื่อหลงรัก หลอกลวงมาหลับนอนด้วยถึง 4 ครั้งระหว่างวันที่ 6 ม.ค.-19 ม.ค.66 นอกจากนี้ยังหลอกให้ลงทุนแลกเปลี่ยนเงิน (Money Exchange) ผู้เสียหายโอนเงินไปให้หลายครั้ง รวมถึงหลอกให้เอารถไปขายเพื่อโอนเงินให้อีกรวมเป็นเงินกว่า 1,500,000 บาทต่อมาญาติผู้เสียหายเห็นผิดสังเกตเพราะเอาทรัพย์สินในบ้านไปขายด้วย พี่สาวเหยื่อคาดคั้นจนยอมเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้น พาเข้าร้องเรียน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช นำทีมสืบสวนจนทราบว่า เหยื่อถึงขนาดคิดฆ่าตัวตาย เชื่อว่าผู้เสียหายอาจไม่ได้ถูกหลอกลวงทั่วไปหรือแบล็กเมล์ แต่ผู้ต้องหาใช้วิธีเชิงบังคับเนื่องจากผู้เสียหายยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วยถึง 4 ครั้ง สืบสวนจนทราบตัวตนที่แท้จริงคือนายพงศกร ศุภกรมงคลชัย อายุ 43 ปี อดีตทนายความในพื้นที่ จ.ชลบุรี ถูกถอนใบอนุญาตเนื่องจากไปพัวพันเรื่องผิดกฎหมายเกี่ยวกับชาวต่างชาติ เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับข้อหาฉ้อโกงจนตามจับกุมตัวได้ตรวจสอบประวัติพบว่า เคยก่อเหตุตั้งแต่ปี 2549 ถึงปัจจุบันรวม 6 คดี เคยถูกจับและมีหมายจับติดตัวอีก 2 หมาย ตัดกำไลอีเอ็มหนีประกันศาล ส่วนคดีประกอบด้วย 1.เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2549 ถูกดำเนินคดีข้อหา พ.ร.บ.เช็ค ในพื้นที่ สภ.เมืองนครปฐม 2.วันที่ 21 มิ.ย.2550 ถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ พื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ 3.วันที่ 15 พ.ค.61 ถูกดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ พื้นที่ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ 4.วันที่ 1 พ.ค.63 ถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง พื้นที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ 5.วันที่ 30 ม.ค.65 ถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน พื้นที่ สน.ตลิ่งชัน และ 6.วันที่ 29 พ.ค.65 ถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน พื้นที่ สน.สมเด็จเจ้าพระยาสอบสวนนายพงศกรให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ให้การว่าจบการศึกษานิติศาสตร์ และเนติบัณฑิตไทย เคยเป็นทนายความเปิดสำนักงานทนายความในจ.ชลบุรี แต่เข้าไปพัวพันกับกลุ่มชาวต่างชาติสัญชาติออสเตรเลียที่กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดทำให้ไม่ได้เป็นทนาย ช่วงที่ผ่านมาใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆ เพราะหนีประกันชั้นศาล แอบถอดกำไลอีเอ็มทิ้ง คดีนี้ ยืนยันว่าไม่ได้ข่มขืนและไม่ได้แบล็กเมล์ ยืนยันผู้เสียหายยินยอมเพราะเมื่อนัดพบกันแล้วหน้าไม่เหมือน โปรไฟล์ผู้เสียหายไม่ได้ว่าอะไร เพราะคุยกันเรียบร้อยแล้ว และไม่ได้ฉ้อโกงแต่เป็นการยืมเงิน ยืนยันว่าติดหนี้ผู้เสียหายแค่ 500,000 บาท เพราะเอาไปเล่น พนันออนไลน์ ส่วนที่พบสมุดบัญชีและซิมโทรศัพท์จำนวนมากเป็นของคนรู้จัก ส่วนภาพผู้เสียหายในโทรศัพท์เอามาจากเว็บไซต์เป็นการแลกคอลเสียวกัน โดยเต็มใจทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ได้เอาภาพมาแบล็กเมล์ ส่วนคดีอื่นๆที่ค้างอยู่เยอะตนไม่ทราบด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า ยังไม่ ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา เพราะจากพยานหลักฐาน วิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมผู้ต้องหา ประกอบกับภาพในโทรศัพท์ผู้ต้องหาเป็นภาพวิดีโอคอลลักษณะฝ่ายหญิง ผู้เสียหายเป็นฝ่ายเปิดกล้องฝ่ายเดียวในสภาพเปลือย ส่วนคนร้ายไม่เปิดกล้อง เป็นเช่นนี้หลายภาพ รูปแบบ และเทคนิคการฉ้อโกงที่น่ากลัว และพยานหลักฐานที่พบสมุดจดในห้องมีการวิเคราะห์จุดอ่อนเหยื่อไว้ด้วย คนร้ายคดีนี้ถือเป็นภัยต่อสังคมอย่างยิ่ง มีจิตวิทยาสูง อาศัยความเชื่อของเหยื่อเรื่องดูดวง ตนจะไม่ยอมให้ คนเหล่านี้อยู่ในสังคมกับประชาชน เพราะการกระทำเยี่ยงนี้สามารถทำลายชีวิตคนให้ตายทั้งเป็นได้เลย ขอเตือนไปยังกลุ่มผู้ใช้แอปพลิเคชันหาคู่ ล่าสุด เราพบ ข้อมูลในโทรศัพท์คนร้ายยังคงมียูสเซอร์ (User) ออนไลน์อยู่ในระบบแอปหาคู่ชื่อดัง 2 แอป ใช้ชื่อโปรไฟล์ว่า “Tom” ใช้ภาพโปรไฟล์เป็นหนุ่มหล่อ หากผู้ใดได้รับความเสียหายถูกหลอกลวงไปแล้วหรือกำลังจะหลงเชื่อ สามารถขอคำปรึกษาได้ทางเพจ เฟซบุ๊กสืบสวนนครบาล IDMB ตลอด 24 ชม.มีรายงานว่า จากการสืบสวนดำเนินคดีมนุษย์มหาภัยรายนี้ ชุดสืบสวนนครบาลพบหญิงสาวอยู่ในข่ายแล้ว 7 คน เบื้องต้นติดต่อประสานขอเข้าให้การ ร้องทุกข์กับ บก.สส.บช.น.แล้ว 1 คน
