นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวมอบนโยบายการดำเนินงานกรมศิลปากร ปี 2566 ว่า จะสานต่อการทำงานของอดีตอธิบดีที่ทำไว้ดีแล้ว และเพิ่มการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ โดยเรื่องเร่งด่วนคือการสำรวจและฟื้นฟูโบราณสถานทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ได้ให้สำนักศิลปากรทั้ง 12 แห่งสำรวจเพื่อจัดสรรงบประมาณเพื่อซ่อมแซมโดยเร็ว รวมทั้งมีแผนสำรวจแหล่งโบราณสถานสำคัญเพื่อขึ้นทะเบียนให้มากขึ้น มีการเปิดร้านกาแฟในแหล่งโบราณสถานตอบสนองการท่องเที่ยวยุคใหม่นายพนมบุตรกล่าวว่า ส่วนการพัฒนา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศได้นำระบบเทคโนโลยีมาใช้จัดแสดงให้น่าสนใจ ได้มาตรฐานระดับสากล ตั้งเป้าภายใน 15-20 ปีทุกแห่งจะมีมาตรฐานเดียวกัน คือ 1.ระบบการรักษาความปลอดภัยของโบราณวัตถุ 2.มีความเป็นอารยสถาปัตย์เข้าถึงคนทุกกลุ่ม 3.ติดตั้งระบบปรับอากาศ 4.บอกเล่าเรื่องราวที่ถูกต้อง และ 5.นำเทคโนโลยีมาใช้อย่างเหมาะสม พร้อมพัฒนาสินค้าที่ระลึกของ ทั้ง 41 แห่ง ไปสู่การขับเคลื่อน Soft power ภายใต้แบรนด์กรมศิลปากร นอกจากนี้จะปิดซ่อมโรงละครแห่งชาติเป็นเวลา 3 ปี โดยก่อนปิดซ่อมจะจัดการแสดงครั้งใหญ่ ในวันที่ 7 ม.ค.66 จากนั้น จะจัดทำโครงการสังคีตสัญจรไปยังโบราณสถานทั่วประเทศ ส่วนงานจดหมายเหตุแห่งชาติ และ หอสมุดแห่งชาติ จะทำสำเนาภาพผ่านระบบออนไลน์ และจะเพิ่มจำนวนหนังสือออนไลน์ให้มากขึ้น เปิดช่องยูทูบรวบรวมงานทุกด้านของกรมศิลปากรมาสร้างความรู้คู่ความสุขให้ประชาชน มีการจัดกิจกรรมดนตรีในสวน การบูรณาการกับเครือข่ายให้มีความเข้มข้น อีกทั้งช่วงเทศกาลปีใหม่ 66 มีของขวัญให้ประชาชนด้วยการเปิดพิพิธภัณฑ์เครื่องทองเจ้าสามพระยา จ.พระนครศรีอยุธยา หลังปรับปรุงแล้วเสร็จวันที่ 30 ธ.ค.65-2 ม.ค.66.