ตำรวจ ดส.บช.น. บุกจับผับดัง “พหลบาร์” ย่านสายไหม กทม. เปิดเกินเวลามั่วสุมเสพยาเสพติด ขนาดตีสามนักเที่ยวราตรีแน่นร้านกว่า 150 คน พบฉี่ม่วง 1 คน มีเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 32 คน ขณะตรวจค้นพบซองใส่ยาเคโยนทิ้งเกลื่อนกลาดตามพื้นและในถังขยะ ดำเนินคดีเจ้าของร้านฐานเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ปล่อยปละให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและฝ่าฝืนขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เยาวชน พร้อมทั้งเสนอเรื่องดำเนินการสั่งปิดดส.บุกจับสถานบันเทิงย่านชานกรุงเปิดเกินเวลามั่วสุมเสพยาขายเหล้าให้เยาวชน เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 16 ก.ค. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. สั่งการให้กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี นำโดยพ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.ดส.บช.น. พ.ต.ท.ชยุต ยอดยิ่งนาทกุล รอง ผกก.ดส. พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รอง ผกก.กก.ดส. พ.ต.ท.นราธิป คงเพ็ชร์ รอง ผกก.กก.ดส. พ.ต.ท.ตฤณ อ่อนนิ่ม สว.กก.ดส. พ.ต.ต.หญิง พรรัมภา พัฒนาวาท สว.กก.ดส. นำกำลังร่วมกับสน.สายไหม เข้าตรวจค้นสถานบันเทิงชื่อร้าน “พหลบาร์” เลขที่ 1/130 หมู่บ้านบริษัท เจ้าพระยาธานี จำกัดซอยพหลโยธิน 54/2 ถนนพหลโยธิน แขวงและเขตสายไหม กทม. พบผู้มาใช้บริการ 156 คน มีเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 32 คน ตรวจค้นพบของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 2 ถุงน้ำหนักรวมถุงละประมาณ 0.62 กรัม เบียร์ 2 ขวด สุรา2ขวด และใบเสร็จเก็บเงิน 2 ใบ ตรวจปัสสาวะพบฉี่ม่วง 1 คน เป็นชายอายุ 21 ปีสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ กก.ดส.บช.น. ออกตรวจสถานบันเทิงตอนกลางคืน พบว่าร้านดังกล่าวปล่อยให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้ามาใช้บริการไม่มีการจัดที่นั่งเว้นระยะห่างป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และจำหน่ายสุราเกินเวลา ขณะนำกำลังเข้าตรวจค้นพบมีผู้มาใช้บริการจำนวนมาก และบางส่วนเสพยาเสพติดเนื่องจากพบซองใส่ยาเคตามีนโยนทิ้งไว้บนพื้นและในถังขยะ ตรวจสอบนักเที่ยวทั้งหมดพบปัสสาวะสีม่วง 1 คน จากการสอบสวนนายชาฐิต สีรี อายุ 21 ปี ผู้ดูแลร้าน นำใบขออนุญาตจำหน่ายสุรามาแสดง แต่ไม่มีใบอนุญาตเปิดสถานบริการ แจ้งข้อหา เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ยินยอมหรือปล่อยปละให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดภายในร้านสถานบริการ ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งไม่ได้ทำงานในสถานบริการเข้าไปในสถานบริการ และขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ นำตัวส่ง สน.สายไหม ดำเนินคดีพล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 กล่าวว่า ผลการจับกุมสถานบันเทิง “พหลบาร์” ตอนกลางดึกเป็นการร่วมจับของ กก.ดส.บช.น และ สน.สายไหม เนื่องจากมีคนเข้าไปใช้บริการจำนวนมากต้องใช้กำลังตำรวจทั้ง 2 หน่วย หลังจับกุมมีคำสั่งให้เสนอคณะกรรมการ บช.น.เพื่อปิดสถานบริการดังกล่าว ส่วนเปิดเกินเวลาได้อย่างไรนั้น บช.น.สั่งให้ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริง ขณะนี้ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกำหนดเวลาให้เสร็จสิ้นภายใน 15 วัน จากนั้นรายงานให้ ผบช.น.ทราบและพิจารณาต่อไปด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกบช.น. เปิดเผยว่า บช.น.ไม่ได้มีคำสั่งให้ 5 เสือ สน.สายไหม หรือตำรวจที่เกี่ยวข้องไปช่วยราชการ เนื่องจากเป็นการจับกุมร่วมกันทั้ง กก.ดส.บช.น. สน.สายไหมและตำรวจ 191 รวมทั้งเป็นการแจ้งเบาะแสจากทาง สน.สายไหม ถือว่าไม่ได้เป็นการปล่อยปละละเลย หากมีข้อมูลพยานหลักฐานว่าตำรวจ สน.พื้นที่มีการปล่อยปละละเลยก็จะดำเนินการทางวินัยในภายหลังได้ ส่วนเยาวชนทั้ง 32 ราย เจ้าหน้าที่ทำประวัติและประสานผู้ปกครองให้มารับตัว โดยมีเงื่อนไขให้ดูแลบุตรหลานไม่ให้กระทำผิดอีก