ภาคเหนืออ่วมเจอฝนถล่มน้ำป่าไหลหลากท่วมหลายจังหวัด เชียงใหม่น้ำทะลักท่วม หลายหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว ทหารต้องไปช่วยชาวบ้านขนของหนีน้ำโกลาหล ส่วนกำแพงเพชรฝนตกเหมือนฟ้ารั่วตั้งแต่ค่ำยันเช้า ถนนหลายสายน้ำเจิ่งนอง เช่นเดียวกับ พิษณุโลก น้ำระบายไม่ทันไหลท่วมชุมชนลุ่มต่ำ บางจุดสูงถึง 30 ซม. ขณะที่ กทม.และปริมณฑลหนักไม่แพ้กัน ฝนกระหน่ำกลางดึกร่วม 10 ชม. ถนน หลายสายรถติดหนึบ อุตุฯเตือนทุกภาคยกเว้นอีสานเตรียมรับมือฝนตกหนักอีกระลอกฝนถล่มน้ำท่วมหลายจังหวัด โดยเมื่อวันที่ 18 พ.ค. เกิดฝนหนักในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ทำให้น้ำป่าไหลหลากลงสู่ลำน้ำแม่ใจทะลักเข้าสู่หมู่บ้านแม่ใจเหนือ หมู่ 8 และหมู่ 19 ต.เวียง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 400 หลังคาเรือน ส่วนพื้นที่หมู่ 1 และหมู่ 2 ต.ม่อนปิ่น ลำน้ำแม่มาวเอ่อท่วมบ้านหลายหลัง เช่นเดียวกับที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เกิดฝนตกหนักน้ำป่าไหลท่วมพื้นที่หมู่ 9 ต.มะลิกา เสียหาย 25 หลัง หมู่ 6 และหมู่ 8 ต.แม่อาย 55 หลัง ส่วนที่ อ.เชียงดาว น้ำป่าไหลท่วมบ้านแม่อ้อใน หมู่ 8 ต.แม่นะ อย่างรวดเร็ว เสียหายรวม 185 หลัง ทหารหน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ 32 และเทศบาลตำบลแม่นะเข้าไปช่วยชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนที่ จ.กำแพงเพชร ฝนตกหนักตั้งแต่ค่ำยันเช้า ส่งผลให้ถนนหลายสายในเขตเทศบาลเมืองกำแพงเพชรเกิดน้ำท่วมสูง ชาวบ้านต้องขนข้าวของหนีน้ำโกลาหล โดยเฉพาะหมู่บ้านศรีเจริญวิลลา ถนนประชาหรรษา 2 ต.ในเมือง น้ำเอ่อท่วมบ้านได้รับความเดือดร้อน ช่วงสาย นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผวจ.กำแพงเพชร นำเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 8 ลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือพร้อมนำเครื่องสูบน้ำระยะไกลมาสูบน้ำจากถนนอีกฝั่งไปลงอีกฝั่งให้น้ำไหลไปลงท่อเพื่อเร่งระบายโดยเร็วที่สุดเช่นเดียวกับ อ.เมืองพิษณุโลก เกิดฝนตกนานหลายชั่วโมงวัดได้ 97 มิลลิเมตร ทำให้น้ำระบายไม่ทันไหลท่วมชุมชนที่อยู่ในที่ลุ่มต่ำหลายจุด เช่นชุมชนสิงหวัฒน์ ซอย 5 ชุมชนถนนพระลือ สำนักงานขนส่งพิษณุโลกแห่งที่ 1 และบริเวณถนนชั้นในที่เป็นที่ต่ำ และเคยประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก บางจุดน้ำท่วมสูงถึง 30 ซม. เจ้าหน้าที่เทศบาลต้องนำเครื่องสูบน้ำมาสูบลงท่อระบายสู่แม่น้ำน่าน ส่วนอำเภอต่างๆได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักเช่นกัน เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลกอยู่ระหว่างเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ จ.อุตรดิตถ์ นายณัฐวัฒน์ เกตุจันทร์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ นำเจ้าหน้าที่ออกสำรวจความเสียหายจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ อ.ท่าปลา ประกอบด้วย หมู่ 10 ต.ท่าปลา หมู่ 8 และหมู่ 9 ต.ผาเลือด ถนนสายศิลาอาสน์-เขื่อนสิริกิติ์ ถูกน้ำป่าไหลหลากท่วมพื้นผิวได้รับความเสียหาย นายณัฐวัฒน์เผยว่า หลายหมู่บ้านดังกล่าวที่ถูกน้ำท่วมอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เวลาฝนตกติดต่อกันหลายชั่วโมง มักเกิดน้ำท่วมเป็นประจำ โดยเฉพาะหมู่ 10 ต.ท่าปลา ประชาชนเดือดร้อน 12 หลัง รวม 55 คนส่วนกรุงเทพฯและปริมณฑลอ่วมไม่แพ้กัน หลังจากช่วงคํ่าวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักใน กทม. ทำให้ถนนหลายสายมีนํ้าท่วมขังเสมอฟุตปาท ช่วงเช้าวันที่ 18 พ.ค.ที่เป็นเวลาเร่งด่วนประชาชนเดินทางออกไปทำงาน รวมทั้งนักเรียนไปเรียนหนังสือทำให้รถติดขัดอย่างหนักทั้งถนนเส้นหลักและในซอย โดยเฉพาะในซอยลาดพร้าว 64 แยก 4 มีน้ำท่วมขังสูง พ่อแม่ผู้ปกครองต้องเข็นรถลุยน้ำส่งลูกไปโรงเรียนอย่างทุลักทุเล สำหรับซอยลาดพร้าว 64 แยก 4 เป็นเส้นทางลัดวิ่งออกได้หลายทาง เวลาฝนตกมักมีน้ำท่วมถนนและบ้านทันที สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอย่างมาก ที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลแก้ไขแต่อย่างใดส่วนถนนแจ้งวัฒนะเกิดน้ำท่วมสูงทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกเกือบตลอดทั้งสาย โดยเฉพาะพื้นที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี บริเวณใต้ทางด่วนแจ้งวัฒนะฝั่งขาออกมีน้ำท่วมสูงกว่า 30-40 ซม. รถสัญจรลำบาก รถเล็กที่ขับลุยน้ำจอดเสียกลางถนนหลายคัน เนื่องจากน้ำเข้าเครื่องยนต์ นอกจากนี้ตามชุมชนต่างๆ และหมู่บ้านริมถนนแจ้งวัฒนะหลายแห่งมีน้ำท่วมสูง ขณะที่ผลกระทบจากฝนตกหนักและน้ำท่วมขัง ทำให้การจราจรในช่วงเช้าติดขัดอย่างหนักศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพฯ รายงานสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯในรอบ 24 ชม.ที่ผ่านมา (07.00 น.) มีฝนตกหนักมาก ปริมาณฝนรวมสูงสุดที่จุดวัดซอยสะพานขวา เขตบางซื่อ 136 มม. รองลงมาจุดวัดสถานีสูบน้ำคลองตาอูฐ เขตหลักสี่ 125 มม. จุดวัดบ่อสูบศาลอาญารัชดา เขตจตุจักร 122.5 มม. จุดวัดสถานีสูบน้ำคลองสามเสน เขตดุสิต 118.5 มม. จุดวัดสำนักงานเขตบางนา 117.5 มม. ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังบนถนนสายหลักที่สำนักการระบายน้ำรับผิดชอบจำนวน 16 จุดนอกจากนี้ ช่วงฝนตกหนักและน้ำท่วมผิวการจราจรเกิดไฟฟ้าดับ ทำให้กระทบต่อสถานีสูบน้ำประตูระบายน้ำจำนวน 5 แห่ง คือ 1.สถานีสูบน้ำคลองอ้อหลาว ไฟฟ้าดับเวลา 16.55-17.16 น. 2.บ่อสูบน้ำคลองวัดปกไฟฟ้าดับ เวลา 21.45-22.05 น. 3.สถานีสูบน้ำคลองบวบขมไฟฟ้าดับเวลา 21.30-22.10 น. 4.สถานีสูบน้ำคลองบางมะเขือไฟฟ้าดับเวลา 22.20-23.30 น. และ 5.สถานีสูบน้ำรัชดาวิภาวดี ไฟฟ้าดับเวลา 04.00-05.22 น.ด้านนายสมศักดิ์ มีอุดมศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. เปิดเผยว่า ฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯตั้งแต่เวลา 15.00 น. วันที่ 17 พ.ค. ถึงเวลา 02.00 น. วันที่ 18 พ.ค. รวมประมาณ 10 ชั่วโมง ทำให้กรุงเทพฯโซนเหนือในเขตจตุจักร หลักสี่ ดอนเมือง ลาดพร้าว และบางซื่อ ได้รับผลกระทบมากที่สุด ทำให้มีน้ำท่วมขังหลายจุดตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้ามืดของวันที่ 18 พ.ค. ล่าสุดน้ำบนถนนสายหลักเริ่มกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้ว แต่อาจจะมีบางช่วงบนถนนที่ยังมีน้ำขังอยู่บ้าง แต่เป็นเพียงระยะทางสั้นๆ ส่งผลกระทบต่อการจราจรในบางจุด เช่น บริเวณแยกรัชโยธิน แยกรัชดาภิเษก-ลาดพร้าว เป็นต้น ขณะที่บนถนนสายรอง และตรอก ซอยต่างๆยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่“ยอมรับว่าฝนที่ตกหนักปกคลุมทั่วทุกพื้นที่ใน กทม. และตกเป็นเวลานานเกือบ 10 ชั่วโมง ยังคงเป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำในบางจุดที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เนื่องจากอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วม แต่คาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้หลายๆ โครงการจะแล้วเสร็จ ซึ่งจะช่วยบรรเทาสถานการณ์น้ำท่วมขังได้” ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำกล่าวที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สายวันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงน้ำท่วม กทม. หลังฝนตกหนักหลายชั่วโมงว่า มีคนถามเรื่องน้ำ มีหน่วยงานที่กำลังแก้ปัญหาอยู่แล้ว มันก็เป็นอย่างนี้ทุกครั้งเวลาฝนตก ทุกคนทราบดีอยู่แล้ว กทม.ค่อนข้างแออัดพอสมควร การระบายน้ำอาจไม่ทันเวลา กรณีฝนตกปริมาณมากๆ หลายมิลลิเมตรช่วงเวลาจำกัด ตนเห็นใจคนที่อยู่ กทม. เรื่องความแออัด นั่นคือปัญหาที่ทุกคนต้องมาแก้ว่าจะทำอย่างไร ถ้าไม่แก้เรื่องนี้มันก็จะแก้อะไรไม่ได้ทั้งสิ้น เมื่อถามว่าขณะนี้เกิดสุญญากาศใน กทม.ยังไม่มีผู้ว่าฯ กทม. ต้องกำชับข้าราชการให้ดูแลเป็นพิเศษ หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า มีหน่วยงานดูแลอยู่แล้วกรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศวันที่ 18 พ.ค.ว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนกำลังอ่อนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑล และภาคใต้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก และเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเล อันดามันและอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง