สยองซ้ำเมืองสุพรรณ ฆ่ายัดถังหญิงนิรนามทิ้งพงหญ้าเชิงเขาชะโอย อ.เดิมบางนางบวช ชาวบ้านผ่านไปเห็นถังแตกมีกลิ่นเหม็นเน่าโชยคลุ้ง เอะใจเพิ่งมีข่าวฆ่าสาวยัดกล่องรีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านมาดูแทบช็อกเจอศพเน่าเฟะอยู่ในถัง ยังไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน ตำรวจคาดถูกสังหารจากที่อื่นแล้วเอาศพยัดถังบรรทุกใส่ท้ายรถกระบะมาทิ้งอำพรางคดี เร่งตามหาญาติเหยื่อโหดมาสอบสวนคลี่ปมมรณะ พร้อมไล่เช็กกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหาเบาะแสรถฆาตกรทมิฬคดีฆาตกรรมโหดฆ่าหญิงนิรนามยัดถัง 200 ลิตร เปิดเผยเมื่อเวลา 23.45 น. วันที่ 13 ก.พ. ร.ต.อ.นรากร แซ่เอง รอง สว. (สอบสวน) สภ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งมีคนพบถังพลาสติกส่งกลิ่นเน่าเหม็นถูกทิ้งอยู่ในพงหญ้าริมถนนสาย 340 สุพรรณบุรี-ชัยนาท บริเวณเชิงเขาชะโอย หมู่ 10 ต.เขาพระ อ.เดิมบางนางบวช รายงานให้ พ.ต.อ.นิกร ด้วงฉุน ผกก. นำกำลังตำรวจ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.เดิมบางนางบวช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นพงหญ้ารกทึบอยู่ห่างจากถนนประมาณ 150 เมตร พบถังพลาสติกสีฟ้าขนาด 200 ลิตร มีหูหิ้วเหล็ก ขนาดถังสูง 120 ซม.ปากถังกว้าง 60 ซม.ด้านบนไม่มีฝาปิด มีดินปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยใยมะพร้าวอัดแน่นปิดปากถัง ภายในพบศพผู้หญิงไม่ทราบชื่อและอายุ สภาพเน่าเฟะมีหนอนไต่ยั้วเยี้ย ใส่เสื้อคอกลมสีเทา ไม่ใส่ชุดชั้นใน นุ่งกางเกงขาสั้นลายสกอตน้ำเงินขาว มีเชือกผูกคอและลำตัวไปถึงข้อมือข้อเท้าจนตัวงอ มีผ้าห่มสีขาวและผ้าห่มลายสีส้มห่อร่างมัดด้วยเชือกฟางสีขาวอีกชั้นก่อนยัดลงในถัง ใช้ก้อนหินทับและดินปุ๋ยอุดปากถัง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-5 วัน ไม่พบเอกสารหลักฐานว่าเป็นใครมาจากไหนสอบถามนายบัญชา อินทนะ อายุ 42 ปี ชาวบ้านผู้พบถังเผยว่า ช่วงเช้าวันเดียวกัน ขณะเดินไปหาปลาผ่านบริเวณชายเขาชะโอย เห็นถังสีฟ้าใบดังกล่าวอยู่ในพงหญ้าก็ไม่ได้สนใจคิดว่าเป็นถังขยะธรรมดา กระทั่งช่วงค่ำเดินผ่านมาอีกรอบได้กลิ่นเหม็นเน่า รู้สึกเอะใจเพราะเคยดูข่าวคดีฆ่ายัดกล่องที่ อ.เมืองสุพรรณบุรี เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา รีบโทรศัพท์บอกผู้ใหญ่บ้านให้มาดูด้านนายธีร์ สัจจะวงษ์รัตน์ ผญบ.หมู่ 10 ต.เขาพระ กล่าวว่า หลังรับแจ้งรีบมาดูพบว่าที่ถังมีรอยแตกส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง ค่อยๆเปิดดูด้านบนไม่มีฝาปิด มีดินปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยใยมะพร้าวปิดปากถังไว้ คุ้ยออกดูในถังพบผ้าห่มและเชือกฟางมัด ต้องตกใจแทบช็อกเมื่อเห็นขาคนอยู่ในผ้าห่ม มั่นใจว่าเป็นศพรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ เบื้องต้นตำรวจยังไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นใคร จะเร่งสืบหาว่าพื้นที่ใดมีการแจ้งบุคคลสูญหาย เพื่อตามญาติมาสอบสวนหาเบาะแสคลี่คลายคดีติดตามจับกุมคนร้าย นำศพส่งสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ใครสงสัยว่าเป็นญาติให้ติดต่อที่ สภ.เดิมบางนางบวชต่อมาช่วงเช้าวันที่ 14 ก.พ. ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจจุดที่พบศพอีกครั้ง กั้นพื้นที่โดยรอบเป็นวงกว้างกว่า 100 เมตร เพื่อเก็บหลักฐานหาร่องรอยล้อรถที่นำศพมาทิ้ง รวมทั้งสิ่งที่ผิดปกติต่างๆมาประกอบเพิ่มเติม ขณะที่ พ.ต.อ.อภิชิต สุรพินิจ รอง ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.นิวัติ มาตะราช รอง ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.นิกร ด้วงฉุน ผกก.สภ.เดิมบางนางบวช เรียกประชุมชุดสืบสวนเร่งหาเบาะแสคนร้ายที่นำถังใส่ศพมาทิ้ง สั่งไล่เช็กกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง ตรวจหารอยนิ้วมือจากถังที่ใส่ศพ และตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียงว่ามีแจ้งคนหายหรือไม่ คาดว่าคนร้ายใช้รถกระบะเป็นพาหนะ นำถังใส่ศพบรรทุกกระบะท้ายแล้วโยนลงจากรถจนถังแตก ก่อนจะลากเข้าไปทิ้งในพงหญ้าขณะเดียวกันจากการสอบสวนป้าอ้วน (นามสมมติ) อายุ 56 ปี ขายผลไม้อยู่ฝั่งตรงข้ามจุดที่พบศพเผยว่า เมื่ออาทิตย์ที่แล้วสังเกตเห็นมีรถกระบะสีเทา ในกระบะท้ายบรรทุกถังสีฟ้า เลี้ยวเข้าไปจอดตรงต้นไม้อยู่พักใหญ่ ยังสงสัยว่ามาทำอะไรนานมาก ตั้งแต่เวลาประมาณ 07.40 น. จนถึงเวลา 10.00 น. ขับออกมา ตอนแรกยังนึกว่าเจ้าของที่มาวัดที่ดินเพราะปกติจะไม่มีรถเข้าออกบริเวณดังกล่าว จะมีแต่รถดูดส้วมที่เข้าไป พอรู้ข่าวว่าเป็นศพถูกฆ่ายัดถังตกใจมากในช่วงเย็น พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี เดินทางไป สภ.เดิมบางนางบวช เรียกประชุมสรุปแนวทางการสืบสวนหาตัวคนร้าย ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าผู้ตายเป็นใคร แต่คาดว่าคงใช้เวลาไม่นานจะมีข้อมูลเพิ่ม สั่งการให้สืบหาข้อมูลตั้งแต่ผ้าห่ม ถังขยะ กระสอบปุ๋ย ที่พบในที่เกิดเหตุว่ามาจากที่ใด รวมถึงไล่ตรวจกล้องวงจรปิดทุกเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนี