นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ถึงการดำเนินการให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า กยศ.กับศธ.มีการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกันใน 3 เรื่อง คือ การให้กู้ยืมเงินนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) การให้กู้ยืมเงินแก่นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างของ ศธ.ที่เป็นลูกหนี้ กยศ. ซึ่ง กยศ.และศธ.จะตั้งคณะกรรมการขึ้นหนึ่งชุด เพื่อดูแลสิทธิพิเศษใน 3 กลุ่มนี้ผู้จัดการกองทุน กยศ. กล่าวอีกว่า ได้รายงานให้ รมว.ศึกษาธิการ รับทราบว่า กยศ.มีโปรโมชันพิเศษสำหรับนักศึกษา ปวช.ที่เรียนในกลุ่ม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย แบ่งเป็น 5 อุตสาหกรรมใหม่ (First S-Curve) ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ 2.อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ 3.อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 4.อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ 5.อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร และ 5 อุตสาหกรรมอนาคต (New S-Curve) ได้แก่ 1.หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม 2. อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ 3.อุตสาหกรรมดิจิทัล 4.อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ 5.อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร ซึ่ง กยศ.จะมีการลดเงินต้นจากการกู้ยืมให้ 50% เนื่องจากเป็นการเรียนที่ประเทศมีความต้องการกำลังคนด้านดังกล่าวโดยมีการดำเนินการมา 2 ปีแล้ว พบว่าเด็กให้ความสนใจเป็นพิเศษ และหากเด็กกลุ่มดังกล่าวต้องการศึกษาในระดับอุดมศึกษาใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย และ 3 โครงสร้างพื้นฐานทาง กยศ.ก็ลดเงินต้นจากเงินกู้ให้อีก 30%“ผมได้ยืนยันกับ รมว.ศึกษาธิการ ขณะนี้กองทุน กยศ.มีเงินให้นักเรียนกู้ยืมเงินอย่างแน่นอน และเป็นเงินจาก กยศ.เองที่ไม่ได้ต้องใช้งบประมาณจากรัฐบาล อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา กยศ.บริหารจัดการหนี้ได้ดีขึ้น เพราะมีโปรโมชันพิเศษด้วยการลดดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ลูกหนี้มาชำระเงิน ซึ่งส่งผลให้จำนวนลูกหนี้ที่ก่อนหน้านี้มีกว่าแสนรายเหลือเพียง 60,000 รายเท่านั้น” นายชัยณรงค์กล่าว.