น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 1/2565 ว่า การเรียนรู้ในยุคปัจจุบันเด็กสามารถศึกษาหาความรู้รอบตัวได้เองผ่านอินเตอร์เน็ต ดังนั้น การพัฒนาครูคือหัวใจสำคัญที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านพัฒนาการศึกษาของเด็ก โดยเปลี่ยนแนวความคิดจากที่ครูเป็นผู้มอบองค์ความรู้ให้กับเด็กฝ่ายเดียว เปลี่ยนมาเป็นการแนะแนวให้เด็กได้ตระหนักรู้หรือสามารถนำข้อมูลต่างๆที่มีอยู่รอบตัวมาวิเคราะห์ นำมาปรับประยุกต์ใช้ได้ ดังนั้น เราจึงต้องพัฒนาครูให้เกิดการขับเคลื่อนที่มีประสิทธิผลได้ในระยะยาว ทั้งนี้ การพัฒนาครูมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการพัฒนาหลักสูตร ซึ่งกำลังดำเนินการควบคู่กันไปและต้องใช้เวลา แต่การพัฒนาครูเป็นส่วนที่ทำได้เลยรมว.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า ต่อไปเราจึงต้องพัฒนาแพลตฟอร์มกลาง เพื่อให้เด็กเข้าถึงองค์ความรู้ดีๆ มีประโยชน์ได้มากขึ้น รวมถึงคุณครูหากเข้าถึงองค์ความรู้เหล่านี้ก็จะสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการสอนเด็กนักเรียนได้ ส่วนเรื่องการบริหารจัดการงบประมาณจะมีการควบรวมโรงเรียน ลักษณะโรงเรียนแม่ข่ายที่จะใช้ทรัพยากรร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาครูไม่ครบชั้นหรือสื่อการเรียนรู้ที่ขาดแคลน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยุบหรือควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กที่มีเด็กต่ำกว่า 120 คนทั้งหมด โรงเรียนขนาดเล็กในพื้นที่ห่างไกลหรือในถิ่นทุรกันดารก็ต้องยังคงไว้ แต่โรงเรียนขนาดเล็กที่การเดินทางสะดวก เด็กสามารถมาเรียนที่โรงเรียนแม่ข่ายได้ ก็จะให้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนแม่ข่ายและเรียนร่วมกัน โดยขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งต้องหาแนวทางร่วมกันอีกหลายๆแนวทางเพื่อให้โรงเรียนต่างๆเหล่านี้เกิดการสร้างเครือข่ายร่วมกัน ส่วนเรื่องของเด็กตกหล่น ศธ.ได้สำรวจจำนวน และได้ปักหมุดเด็กเอาไว้เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาในการนำเด็กเข้าสู่ระบบ ในส่วนของการเชื่อมต่อกับหน่วยงานต่างๆ อาจยังมีความไม่สมบูรณ์อยู่ แต่เป้าหมายหลักของเราคือการทำให้เด็กเหล่านี้กลับสู่ระบบการศึกษาให้มากที่สุด