วันที่ 29 ต.ค.64 นายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย รฟม. และ พล.ต.ต. จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ร่วมแถลงข่าวปิดเบี่ยงจราจรบนสะพานข้ามแยกรัชดา-ลาดพร้าว และรูปแบบการจัดจราจรบริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว ในระหว่างการติดตั้งคานทางวิ่งชนิดเหล็ก โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรงนายกิตติกรกล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง เป็นระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลแบบคร่อมรางบนทางวิ่งยกระดับตลอดสาย แนวเส้นทางเริ่มต้นบนถนนรัชดาภิเษก บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว เชื่อมต่อกับอาคารจอดแล้วจรสถานีลาดพร้าว ของรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน ไปตามแนวถนนลาดพร้าว ทั้งนี้ การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ในบริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว ไม่สามารถก่อสร้างเสาตอม่อบริเวณกลางสี่แยกได้ ประกอบกับเป็นทางโค้งเลี้ยวจากถนนรัชดาภิเษกเข้าสู่ถนนลาดพร้าว ทำให้ระยะห่างระหว่างเสาตอม่อมีความยาว 61.5 เมตร ซึ่งต้องใช้คานทางวิ่งชนิดเหล็ก แทนคานทางวิ่งชนิดคอนกรีต โดยคานทางวิ่งดังกล่าวจะอยู่เหนือจากระดับสะพานข้ามแยกรัชดา-ลาดพร้าวประมาณ 7.4 เมตร ใช้ระยะเวลาในการสร้าง 3 เดือน แบ่งขั้นตอนดำเนินงานเป็น 2 ขั้นตอน คือ 1.ช่วงติดตั้งคานทางวิ่งเหล็กประมาณ 2 เดือน 2.ช่วงคืนสภาพการจราจร 1 เดือน ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2561 มีความก้าวหน้างานโยธา 87.07% ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 82.06% ความก้าวหน้าโดยรวม 84.90% ข้อมูล ณ สิ้นเดือน ก.ย.2564พล.ต.ต.จิรสันต์กล่าวว่า รูปแบบการจัดจราจรในระหว่างดำเนินงาน มีดังนี้ 1.ปิดเบี่ยงจราจร 1 ช่องทางขวา (ชิดราวสะพาน) บนสะพานข้ามแยกรัชดา-ลาดพร้าว ทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก ระยะทางประมาณ 400 เมตร ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค.2564 เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป ถึงวันที่ 31 ม.ค.2565 โดยผู้ใช้เส้นทางบนสะพานข้ามแยกรัชดา-ลาดพร้าว สามารถสัญจรได้ฝั่งละ 1 ช่องทาง 2.ปิดเบี่ยงจราจร 2 ช่องทางซ้าย บนถนนรัชดาภิเษก ฝั่งขาออก บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว ระยะทางประมาณ 15 เมตร ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งได้เริ่มปิดเบี่ยงแล้วตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.2564 เวลา 22.00 น. และจะปิดต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค.2565 โดยผู้ใช้เส้นทางบนถนนรัชดาภิเษก ฝั่งขาออก สามารถสัญจรได้ 2 ช่องทาง และผู้ใช้เส้นทางบนถนนลาดพร้าว ฝั่งขาออก สามารถใช้ช่องทางพิเศษ สำหรับเลี้ยวซ้าย เพื่อมุ่งหน้ารัชโยธิน สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามรายละเอียดการเบี่ยงจราจรเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2610-4915 และ 09-8257-5555.