ย่องเงียบทุบหน้าฆ่าโหดชายเลี้ยงวัววัย 61 ดับสยอง คาเตียงนอน เมียกลับจากงานศพญาติมาถึงบ้านแทบ ช็อก พบศพผัวถูกฆ่าเหี้ยม ยังมึนไม่รู้สาเหตุ ยันผู้ตายเป็นคนดีไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร ตำรวจพุ่ง 3 ปมมรณะเรื่องส่วนตัว ชู้สาวกับ ฆ่าชิงทรัพย์ เชื่อฆาตกรโหดเป็นคนใกล้ชิด หรือรู้จัก กับเหยื่อเป็นอย่างดี ฉวยจังหวะอยู่บ้านคนเดียวย่องเข้าไปใช้สันจอบกระหน่ำฟาดใบหน้าจนสิ้นใจคามือ ก่อนเผ่นหนีไร้ร่องรอย ตำรวจเร่งสอบปากคำพยานแวดล้อม พร้อมไล่เช็กกล้องวงจรปิดหาเบาะแสคนร้ายฆาตกรโหดย่องเงียบคว้าจอบทุบหน้าฆ่าโหดชายเลี้ยงวัวดับสยองคาบ้านรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 8 พ.ค. ร.ต.อ.สาโรจน์ รัตนวิโรจน์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งเหตุคนถูกฆ่าตายในบ้านเลขที่ 4/1 ริมถนนบายพาสพระพุทธฉาย ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ หมู่ 5 ต.หนองปลาไหล จึงรายงานให้ พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผกก. นำกำลังฝ่ายสืบสวน พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.สระบุรี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จุดพระฉาย ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวมีชาวบ้านมามุงดูจำนวนมาก ภายในบ้านพบศพนายธีทัศ สาระวงษ์ อายุ 61 ปี นอนหงายจมเลือดอยู่บนเตียงนอน สภาพศพนุ่งผ้าขาวม้า ไม่สวมเสื้อ มีบาดแผลถูกทุบด้วยของแข็งที่ใบหน้า ปากฉีกเป็นแผลฉกรรจ์ ฟันหัก 2 ซี่ ตกบนที่นอน มีเลือดสาดกระเซ็นเต็มที่นอนและฝาบ้าน คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง ในป่าหญ้าข้างบ้านพบจอบมีคราบเลือดติดอยู่ คาดว่าเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้สังหารผู้ตาย ตำรวจเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพส่งชันสูตรที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติจ.ปทุมธานีสอบถามนางวาสนา สาระวงษ์ อายุ 59 ปี ภรรยาผู้ตายเผยว่า สามีมีอาชีพเลี้ยงวัวควายขาย มีลูกชายด้วยกัน 2 คน อยู่บ้านคนละหลัง ก่อนเกิดเหตุสามีอยู่บ้านเพียงลำพัง ส่วนตนไปฟังสวดอภิธรรมศพญาติที่วัดใกล้บ้าน หลังเสร็จงานเดินกลับมาที่บ้านพบว่าประตูไม่ได้ล็อกและไฟในบ้านเปิดอยู่ เมื่อเข้าไปในบ้านก็ต้องตกใจแทบช็อกเมื่อพบศพสามีนอนจมกองเลือดอยู่บนเตียง รีบไปเรียกเพื่อนบ้านใช้ช่วยโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ส่วนปมสังหารไม่ทราบ เนื่องจากสามีเป็นคนดีไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร เพียงแต่มีนิสัยชอบดื่มสุราเท่านั้นพ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี กล่าวว่า จากสภาพศพมีร่องรอยฉีกขาดที่ปากด้านขวาเป็นแผลฉกรรจ์ คาดว่าถูกคนร้ายใช้สันจอบตีที่ใบหน้า อย่างไรก็ตาม ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้ง จากการสอบถามภรรยาทราบว่าผู้ตายมีนิสัยร่าเริง ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร ตรวจสอบประวัติเบื้องต้นไม่เคยต้องคดีมาก่อน เบื้องต้นตั้งปมสังหารไว้ 3 ประเด็นคือเรื่องส่วนตัว ชู้สาว และฆ่าชิงทรัพย์ คาดว่าคนร้ายน่าจะลงมือคนเดียว เป็นคนใกล้ชิดหรือรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี อาศัยช่วงที่ผู้ตายนอนอยู่คนเดียวในบ้าน ย่องเข้าไปใช้สันจอบทุบที่ใบหน้าอย่างแรงหลายครั้งจนเสียชีวิตแล้วหลบหนีไป ภายในบ้านไม่มีร่องรอยต่อสู้หรือรื้อค้นทรัพย์สิน แต่ยังไม่ทราบว่ามีทรัพย์สินมีค่าอะไรสูญหายไปบ้างหรือไม่ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 9 พ.ค. พ.ต.อ.เชษฐชัย นำกำลังฝ่ายสืบสวนไปตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมสอบปากคำเพื่อนบ้านและญาติของผู้ตาย รวมทั้งไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางละแวกใกล้เคียงเร่งหาเบาะแสฆาตกรโหด หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 6 ปาก คือภรรยา ลูกชาย 2 คนของผู้ตาย และเพื่อนบ้านอีก 2 คน ทั้งนี้ ตำรวจพบเบาะแสเพิ่มเติมว่า นอกจากผู้ตายจะมีอาชีพเลี้ยงวัวควายขายแล้ว ก่อนหน้านี้ได้เงินค่าเวนคืนที่ดินก่อสร้างถนนบายพาสที่ตัดผ่านที่ดินของผู้ตายเป็นเงิน 2-3 ล้านบาท นำเงินไปฝากธนาคารและอีกส่วนเอาไปซื้อที่ดินเพิ่มเติม ชุดสืบสวนเชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุจะต้องเป็นคนใกล้ชิดที่รู้ว่าผู้ตายอยู่บ้านลำพังจึงลงมือก่อเหตุ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป