ภัยแล้ง ปัญหาที่ประเทศไทยต้องเผชิญทุกปี และยิ่งนับวันยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นและทราบหรือไม่ว่า...ปริมาณน้ำบนโลกมีน้ำทะเลอยู่มากถึงร้อยละ 97 ที่เหลือเป็นน้ำจืดเพียงร้อยละ 3 และจากน้ำจืดร้อยละ 3 ถ้าคิดเป็น 100% พบว่าปริมาณน้ำจืดบนโลกจะเป็นน้ำผิวดิน ซึ่งก็คือน้ำที่เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่น น้ำในเขื่อน อ่างเก็บน้ำแม่น้ำลำคลอง หนอง บึง เป็นต้น มีเพียง 1% เป็นธารน้ำแข็งและภูเขาน้ำแข็งมากถึง 70% ที่เหลืออีก 29% เป็นน้ำใต้ดินหรือน้ำบาดาล สำหรับปริมาณน้ำบาดาลในประเทศไทย มีกักเก็บอยู่ใต้ดินมากถึง 1.1 ล้านล้าน ลบ.ม. สามารถนำมาใช้ได้ 45,385 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี และในแต่ละปีมีปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มเติมลงสู่ชั้นน้ำบาดาลทุกปี ประมาณ 72,987 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี หรือประมาณ 10% ของปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ย ขณะที่ปัจจุบันมีการนำน้ำบาดาลมาใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค การเกษตร และอุตสาหกรรม 14,741 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี ทำให้เหลือปริมาณน้ำบาดาลที่กักเก็บอยู่ใต้ดินและสามารถนำขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้อีกถึง 30,645 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี“ดังนั้น ข้อกังวลที่ว่าน้ำบาดาลจะหมดไปจากประเทศไทยหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่าตราบใดที่ประเทศไทยยังมีฝนตกทุกปี น้ำบาดาล จะไม่มีวันหมดไปแน่นอน เพียงแต่อาจจะมีการลดระดับลงประเภทชั้นน้ำบาดาลปลอมหรือน้ำบาดาลระดับตื้นในฤดูแล้งเท่านั้น แต่บ่อน้ำบาดาลของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเป็นบ่อน้ำบาดาลระดับลึก ดังนั้น จึงสามารถสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้ กรมมีสถานีสังเกตการณ์น้ำบาดาลทั่วประเทศ 2,329 สถานี มีบ่อสังเกตการณ์น้ำบาดาล คือบ่อที่ใช้สำหรับตรวจวัดระดับน้ำบาดาลและคุณภาพน้ำบาดาล 3,540 บ่อ และจากการเฝ้าระวังและสังเกตการณ์ระดับน้ำบาดาลและคุณภาพน้ำบาดาลทั่วประเทศ พบว่าส่วนใหญ่ระดับน้ำบาดาลมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลง 1–3 เมตรต่อปีเท่านั้น ซึ่งไม่มีผลใดๆ ต่อการสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ ส่วนคุณภาพน้ำบาดาล ค่อนข้างคงที่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในบางพื้นที่เท่านั้น ดังนั้น ขอยืนยันว่าการพัฒนาน้ำบาดาลระดับลึกขึ้นมาใช้ประโยชน์ทั้งด้านอุปโภคบริโภค การเกษตร หรืออุตสาหกรรม จะไม่มีปัญหาแน่นอน” นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำบาดาลและข้อเป็นห่วงกังวลของสังคมว่าน้ำบาดาลเมื่อถูกใช้ไปมากๆจะหมดไป ด้วยเหตุนี้น้ำบาดาล หรือน้ำใต้ดิน ที่มีปริมาณมากจึงกลายเป็น “ความหวังใหม่” และ “ทางเลือกใหม่” ของประเทศ ในการนำไปใช้แก้ปัญหาต่างๆ ให้กับประชาชน โดยเฉพาะภัยแล้ง“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. สั่งการให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล นำน้ำบาดาลมาใช้ทดแทนน้ำบนดิน โดยในปี 2564 กรมมีโครงการใหญ่คือโครงการพัฒนาน้ำบาดาลระยะไกลขนาดใหญ่ 15 โครงการทั่วประเทศ โดยเจาะน้ำบาดาลในพื้นที่มีปริมาณน้ำมาก ส่งผ่านระบบกระจายน้ำให้สามารถนำไปใช้ในพื้นที่ที่ขาดแคลน ให้ประชาชนในพื้นที่ต่างๆมีโอกาสเข้าถึงแหล่งน้ำบาดาลที่ที่มีศักยภาพสูงและเหมาะสมต่อเกษตรกรรมและอุปโภคบริโภคเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ระบุ15 โครงการพัฒนาน้ำบาดาลระยะไกลขนาดใหญ่ ประกอบด้วย 1.โครงการพัฒนาน้ำบาดาลระยะไกลขนาดใหญ่ ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี มีประชาชนได้รับประโยชน์ 1,856 ครัวเรือนใน 9 หมู่บ้าน 2.โครงการพัฒนาน้ำบาดาลระยะไกลขนาดใหญ่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ประชาชนได้รับประโยชน์ 2,230 ครัวเรือนใน 16 หมู่บ้าน 3.โครงการพัฒนาน้ำบาดาลระยะไกลขนาดใหญ่ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ประชาชนได้ประ โยชน์ 5,050 ครัวเรือน สถานศึกษา 3 แห่ง โรงพยาบาล 1 แห่ง 4.โครงการพัฒนาน้ำบาดาลระยะไกลขนาดใหญ่ ต.ก้อ อ.ลี้ จ.ลำพูน ประชาชนได้ประโยชน์ 976 ครัวเรือน สถานศึกษา 1 แห่ง 5.โครงการพัฒนาน้ำบาดาลระยะไกลขนาดใหญ่ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี จุดที่ 1 ประชาชนได้รับประโยชน์ 2,015 ครัวเรือน6.โครงการพัฒนาน้ำบาดาลระยะไกลขนาดใหญ่ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี จุดที่ 2 ประชาชนได้ประโยชน์ 709 ครัวเรือน 7.โครงการพัฒนาน้ำบาดาลระยะไกลขนาดใหญ่ อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ประชาชนได้ประโยชน์ 1,901 ครัวเรือนใน 13 หมู่บ้าน 8.โครงการพัฒนาน้ำบาดาล ระยะไกลขนาดใหญ่ ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ประชาชน ได้ประโยชน์ 600 ครัวเรือนใน 6 หมู่บ้าน 9.โครงการพัฒนาน้ำบาดาลระยะไกลขนาดใหญ่ ต.หนองงูเหลือม อ.เมือง จ.นครปฐม ประชาชนได้ประโยชน์ 900 ครัวเรือนใน 4 หมู่บ้าน 10.โครงการพัฒนาน้ำบาดาลระยะไกล ขนาดใหญ่ ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ประชา-ชนได้ประโยชน์ 1,823 ครัวเรือนใน 12 หมู่บ้าน 11.โครงการพัฒนาน้ำบาดาลระยะไกลขนาดใหญ่ ต.โพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ประชาชนได้ประโยชน์ 1,400 ครัวเรือนใน 11 หมู่บ้าน 12.โครงการพัฒนาน้ำบาดาลระยะไกลขนาดใหญ่ ต.โพธิ์ตาก และ ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม ประชาชนได้ประโยชน์ 3,428 ครัวเรือนใน 16 หมู่บ้าน 13.โครงการพัฒนาน้ำบาดาลระยะไกลขนาดใหญ่ ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก จ.นครพนม ประชาชนได้ประโยชน์ 1,632 ครัวเรือนใน 11 หมู่บ้าน 14.โครงการพัฒนาน้ำบาดาลระยะไกลขนาดใหญ่ อ.ศรีรัตนะ และ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนได้ประโยชน์ 2,640 ครัวเรือนใน 16 หมู่บ้าน 2 โรงพยาบาลและ 15.โครงการพัฒนาน้ำบาดาลระยะไกลขนาดใหญ่ ต.เกาะนางคำ อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ประชาชนได้ประโยชน์ 1,851 ครัวเรือนใน 9 หมู่บ้าน15 โครงการใหญ่ แล้วเสร็จก่อน ก.ย.64 จะถักทอเป็นเครือข่ายน้ำบาดาลขนาดใหญ่เพื่อช่วยเหลือประชาชนทั่วประเทศ“ทีมข่าวสิ่งแวดล้อม” มองว่า โครงการพัฒนาน้ำบาดาลระยะไกลขนาดใหญ่ น่าจะเป็นหนึ่งในคำตอบของการแก้ปัญหาภัยแล้งของประเทศได้ เพราะหากมีน้ำประชาชนก็จะไม่มีวันจนแต่สิ่งที่เราต้องขอฝากไว้คือการจะบริหารจัดการอย่างไรให้เกิดความต่อเนื่อง เพื่อให้เกิด ประโยชน์อย่างแท้จริงกับประชาชนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมเพื่อสยบปัญหาภัยแล้งซ้ำซากได้อย่างยั่งยืนเสียที. ทีมข่าวสิ่งแวดล้อม