เมื่อวันที่ 17 พ.ย. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตนได้หารือกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์คอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ที่ได้มีการจัดทำโปรแกรม Thai School lunch ร่วมกับสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อให้โรงเรียนทั่วประเทศจัดสำรับอาหารกลางวันให้แก่นักเรียนได้อย่างมีคุณภาพ โดยระบบนี้มีเทคโนโลยี Big Data Analytics กับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไออยู่เบื้องหลัง เพื่อช่วยวิเคราะห์ประมวลผลสารอาหาร และแสดงผลเป็นเมนูมื้อกลางวันได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งระบบจัดสำรับอัตโนมัตินี้ยังจัดสรรความหลากหลายของชนิดอาหารได้ เพราะอาหารในกลุ่มเดียวกันแม้จะมีสารอาหารหลักเหมือนกัน แต่ก็มักจะมีสารอาหารบางอย่างเป็นหลักและแตกต่างกันไป ซึ่งเด็กๆควรได้กินอาหารที่หลากหลาย เช่น อาหารกลุ่มข้าว-แป้ง ให้สารอาหารหลักคือ คาร์โบไฮเดรต แต่ข้าวกล้องจะมีวิตามินบี 1 และใยอาหารมากกว่าข้าวขัดขาวหรืออาหารกลุ่มเนื้อสัตว์ ให้สารอาหารโปรตีนเป็นหลักพร้อมกับให้ไขมัน แต่ก็มีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆมากน้อยต่างกัน“โปรแกรมดังกล่าวนอกจากจะจัดสำรับอาหารได้อย่างอัตโนมัติแล้วยังสามารถคำนวณได้ว่าจะต้องซื้อวัตถุดิบจำนวนเท่าไหร่ และใช้วัตถุดิบชนิดไหนในการปรุงอาหาร ซึ่งเรามองว่าโรงเรียนประถมศึกษาทุกแห่งต้องใช้โปรแกรมนี้ในการคำนวณวัตถุดิบ และครูผู้ดูแลอาหารกลางวันจะต้องขับรถออกไปซื้อวัตถุดิบมาประกอบอาหารให้แก่นักเรียน ซึ่งเมนูบางชนิดอาจหาวัตถุดิบได้ยาก หรือโรงเรียนบางพื้นที่อยู่ห่างไกล ดังนั้นจึงมีความคิดว่าวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี (วษท.) ที่มีอยู่ 47 แห่ง จะร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) บริการจัดส่งวัตถุดิบให้แก่โรงเรียนไว้ใช้ประกอบอาหาร โดยที่ครูไม่ต้องเสียเวลาและเสียค่ารถในการวิ่งหาวัตถุดิบมาปรุงอาหาร” รมช.ศธ.กล่าว.