“ดีเจก๊อง อรรณพ” สังเวยชีวิตคาโค้งร้อยศพ ถนนรัชดาฯ หลังบึ่งเก๋งอัลติสรีบไปเปิดเพลงต่อที่สถานบันเทิงย่านซอยสุขุมวิท5 แหกโค้งเสยเสาไฟฟ้าแรงสูงเสียงดังสนั่นจนหักกลาง-รถพังยับ พบเกจ์ความเร็วหยุดที่ 200 กม./ชม. คาดเหตุถนนลื่นเพราะฝนพรำ เผยโค้งนี้หยุดเฮี้ยนมาหลายปี เพิ่งมาเกิดเหตุ 3 รายซ้อนในรอบ 9 วัน มีคนตาย 4 ศพดีเจหนุ่มเหยียบมิดแหกโค้งร้อยศพชนเสาไฟฟ้าดับอนาถ โดยเมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 24 ก.ย. พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ ปราบคนชั่ว สว. (สอบสวน) สน.พหลโยธิน รับแจ้งเหตุรถเก๋งชนเสาไฟฟ้า มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายใน 1 ราย ช่วงก่อนถึงปากซอยรัชดาภิเษก 32 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่เกิดเหตุอยู่บริเวณช่วงโค้งร้อยศพ ฝั่งตรงข้ามศาลอาญารัชดา ก่อนถึงปากซอยรัชดาภิเษก 32 เล็กน้อย พบเสาไฟฟ้าแรงสูงหักตั้งแต่ช่วงกลางต้น แผงเหล็กกั้นได้รับความเสียหายจากแรงกระแทก ห่างไปประมาณ 30 เมตร บริเวณเลนขวาสุดชิดเกาะกลางถนน พบรถเก๋งโตโยต้า อัลติส สีดำ ทะเบียน 2 กง 7786 กรุงเทพมหานคร สภาพตัวรถพังเสียหายยับเยิน มีชิ้นส่วนรถกระจัดกระจายตกเกลื่อนพื้นถนน ถุงลมนิรภัยทั้งด้านคนขับและที่นั่งข้างคนขับทำงาน เข็มไมล์วัดความเร็วหยุดอยู่ที่ 200 กม./ชม. ส่วนร่างผู้ขับขี่หลุดออกจากเข็มขัดนิรภัยกระเด็นไปเสียชีวิตที่เบาะหลัง ทราบชื่อต่อมานายอรรณพ หรือก๊อง พูนศรีพัฒนา อายุ 33 ปี อาชีพดีเจ สวมเสื้อยืดคอกลมสีเทา กางเกงวอร์มสีดำ สภาพกะโหลกศีรษะแตก คอหัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างประตูหลังด้านขวา นำศพผู้เสียชีวิตออกมาจากซากรถ ส่วนภายในห้องโดยสารพบบัตรประจำตัวของผู้ตายซึ่งออกให้โดยสภาสถาปนิก 1 ใบ และอุปกรณ์เครื่องเล่นอิเล็กทรอนิกส์สำหรับดีเจ 1 ชุด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานนายบุญส่ง ก้านแก้ว อายุ 60 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ผู้เห็นเหตุการณ์ ให้ข้อมูลว่า ช่วงเกิดเหตุได้ยินเสียงหม้อแปลงไฟฟ้าที่อยู่ด้านหน้าระเบิดและไฟฟ้าดับหมด เมื่อตรวจสอบพบเป็นเหตุรถยนต์ชนกับเสาไฟฟ้าแรงสูง มีผู้เสียชีวิตหลังเกิดเหตุไม่นาน น.ส.นันทณัฏฐ์ พูนศรีพัฒนา อายุ 36 ปี พี่สาวของนายอรรณพและกลุ่มเพื่อนที่ทำงานดีเจ พีอาร์ และกลุ่มคนทำงานกลางคืนหลายคนที่ทราบเรื่อง เดินทางมาที่ สน.พหลโยธิน เพื่อแสดงความไว้อาลัยผู้ตายเป็นครั้งสุดท้าย โดยต่างร้องไห้ด้วยความเศร้าเสียใจ บางคนรับไม่ได้กับภาพที่เห็นจนเป็นลมล้มฟุบ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องช่วยกันหามไปปฐมพยาบาล โดยเฉพาะ น.ส.นันทณัฏฐ์ พี่สาว ซึ่งยังอยู่ในอาการช็อกบอกกับตำรวจสั้นๆว่า ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เตรียมนำศพน้องชายไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบัวขวัญ อ.เมืองนนทบุรีขณะที่ พ.ต.ท.ณัฐวุฒิเปิดเผยว่า จากการสอบถามพี่สาวและเพื่อนผู้ตายให้การตรงกันว่า ก่อนเกิดเหตุนายอรรณพได้ไปทำงานดีเจที่สถานบันเทิงย่านบางเขน ก่อนจะเร่งทำเวลาเดินทางเพื่อไปทำงานอีกที่ย่านซอยสุขุมวิท 5 ส่วนตัวแล้วนายอรรณพไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่ เหตุครั้งนี้ไม่มีรถคู่กรณี มีเพียงเสาไฟฟ้าหักเสียหาย 1 ต้น ซึ่งจะประสานประกันภัยมาชดใช้ค่าเสียหาย ส่วนสาเหตุเป็นเพราะช่วงเกิดเหตุฝนตกถนนลื่น รถอาจเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า เบื้องต้นส่งศพให้แพทย์นิติเวชฯ รพ.ตร.ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งตรวจสอบประวัติจากหน้าเฟซบุ๊กของนายอรรณพ ผู้เสียชีวิตที่ใช้ชื่อว่า “Annop Poonsri pattana” พบว่าเจ้าตัวจบจาก ม.ศิลปากร คณะสถาปัตยกรรม มีอาชีพเป็นดีเจในสถานบันเทิงต่างๆ รวมทั้งเคยเป็นผู้เข้าร่วมสมัครรายการเทคมีเอาท์ไทยแลนด์ ปี 58 หลังเกิดเหตุมีศิลปินนักร้อง เพื่อนและคนรู้จักเข้ามาโพสต์แสดงความเสียใจจำนวนมาก สำหรับจุดที่เกิดเหตุ เคยมีดาราสาวคนดัง โจ้-นิสา วงศ์วัฒน์ ประสบเหตุรถคว่ำเสียชีวิต เมื่อปี 38และมีอุบัติเหตุรายอื่นๆอีกนับสิบครั้งก่อนได้รับการขนานนามว่า “โค้งร้อยศพ” ต่อมาความเฮี้ยนได้เงียบหายไปหลายปี กระทั่งมาเป็นข่าวอีกครั้ง โดยในระยะเวลา 9 วันที่ผ่านมา เพิ่งจะมีผู้เสียชีวิตมาแล้ว 3 ราย เริ่มจากเวลาประมาณ 02.15 น. ของวันที่ 16 ก.ย. มีรถกระบะสีดำ พุ่งชนเสาไฟฟ้า มีชายคนขับเสียชีวิตคาที่ ต่อมาเวลา 01.00 น. วันที่ 20 ก.ย. มีรถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้าเช่นกัน ทำให้หญิงสาวและลูกวัย 2 ขวบเสียชีวิต 2 ศพ กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าวเป็นศพที่ 4วันเดียวกัน นายจิระเดช กรุณกฤตกุล รองผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ถนนเส้นนี้เดิมก่อสร้างโดยกรมโยธาธิการ ต่อมามอบให้ กทม.รับผิดชอบดูแล การออกแบบถนนขณะนั้นไม่ทราบว่ามีการคำนวณรัศมีทางโค้งของถนนไว้อย่างไรบ้าง จึงเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เป็นที่มาของฉายา “โค้งร้อยศพ” เตรียมประสานสำนักการจราจรและขนส่ง กทม.สำรวจหาแนวทางป้องกันอุบัติเหตุ โดยการแก้ไขทางกายภาพของถนนจะต้องปรับองศาความลาดเอียง โดยโค้งถนนด้านนอกฝั่ง ม.จันทรเกษม ต้องสูงกว่าโค้งด้านในฝั่งศาลอาญา เพื่อรองรับการตีวงเลี้ยวให้เหมาะสม ทั้งนี้ การปรับปรุงแก้ไขกายภาพอาจมีอุปสรรค นอกจากปรับถนนแล้วจะต้องปรับระบบระบายน้ำ ที่ผ่านมาเคยมีการศึกษาเพื่อดำเนินการ แต่ได้รับการคัดค้านจนต้องระงับไปเพราะถนนจะสูงกว่าเดิม
