มีรายงานตัวเลขสถิติของสำนักงานสอบสวนกลาง ประเทศสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับเหตุการณ์กราดยิงในที่สาธารณะครั้งรุนแรง (Active Shooter Incident) ในอเมริกา ระหว่างปี 2543-2561 เกิดเหตุทั้งหมด 277 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 884 ราย บาดเจ็บ 1,546 ราย ร้ายแรงที่สุดกลางงานเทศกาลดนตรีนครลาสเวกัส รัฐเนวาดา เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2560 มีผู้เสียชีวิต 58 ราย บาดเจ็บ 489 ราย ตามด้วยเหตุกราดยิงพัลส์ ไนต์คลับ เมืองออร์ลันโด รัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 12 เม.ย.2560 ผู้เสียชีวิต 49 ราย บาดเจ็บ 53 ราย และเหตุกราดยิงในโรงภาพยนตร์ซิเนมาร์ก เซนจูรี เมืองออโรรา รัฐโคโลราโด วันที่ 20 ก.ค.2555 ผู้เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บ 58 รายเสมือนฝันร้ายของชาวอเมริกันพากันขวัญผวาต่อเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นโศกนาฏกรรมซ้ำซากในคู่มือการฝึกอบรมของตำรวจสหรัฐอเมริกาและของสมาคมหัวหน้าตำรวจนานาชาติ (International Association of Chiefs of Police–IACP) มีนโยบายรับมือตรงกันว่า การตอบโต้สถานการณ์กราดยิงแตกต่างจากการช่วยเหลือตัวประกันไม่จำเป็นต้อง “เจรจาต่อรอง” เนื่องจากคนร้ายติดอาวุธ ตั้งใจมาก่อเหตุและพร้อมที่จะตายด้วยน้ำมือของเจ้าหน้าที่ หรือเลือกปลิดชีพตัวเองวิธีการของตำรวจจำเป็นต้องหยุดยั้ง “มือปืนคลั่ง” ให้ได้ในเวลารวดเร็ว แต่ต้องอาศัยตำรวจท้องที่หน่วยแรกที่รับแจ้งเหตุที่มีความเชี่ยวชาญด้านยุทธวิธี ดีกว่ารอให้ “หน่วยปฏิบัติการพิเศษ” เข้าไปแก้วิกฤติเมื่อลุกลามบานปลายเพราะจะคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์อีกจำนวนไม่น้อยกลายเป็น “บทเรียนเลือด” กลางเมืองโคราช เมื่อตำรวจท้องที่ปราศจากเครื่องมืออุปกรณ์และความพร้อมในการรับสถานการณ์ความรุนแรง ทั้งที่ผ่านมามักระดมกำลังตั้งด่านกวดจับวินัยจราจรกันเต็มท้องถนน หลักสูตร FBI-Alert Active Shooter Rapid Response Course ที่ได้ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานสอบสวนกลาง สหรัฐอเมริกา มาช่วยอบรมให้ความรู้ถึงน่าจะเป็นประโยชน์นำไปถ่ายทอดทั่วประเทศเพื่อลดความสูญเสียของชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ และอุดช่องการเสี่ยงตายของตำรวจ."สหบาท"